พะเยา – อำเภอภูซาง เพี้ยกระโดดและเชื้อราระบาด ในนาข้าวเสียหาย 5 หมู่บ้าน เกษตรอำเภอลงพื้นที่สำรวจพร้อมให้คำแนะนำและการช่วยเหลือ หวั่นลุกลามข้ามอำเภอ
วันนี้( 3 ต.ค.2562 ) นายการุณย์ มะโนใจ เกษตรอำเภอภูซาง พร้อมด้วยนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรสำนักงานเกษตร เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลสบบง ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ลงพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา ที่ประสบปัญหาโรคระบาด จากเชื้อราและเพี้ยกระโดด ทำให้ข้าวแห้งตาย เสียหายเป็นจำนวนมาก โดยมีเกษตรกร เกษตรกรตำบลภูซาง หมู่ 6 ,7,8,9,10 ที่เข้ามาลงทะเบียน จำนวน 117 ราย พื้นที่ทั้งหมด 543 ไร่ และอาจจะมีเกษตรกรที่จะมาลงทะเบียนเพิ่มอีกในภายหลัง
ด้าน นายบุญญมิตร ก๋าแก้ว อายุ 49 ปี ชาวนาบ้านปงหลวง พื้นที่ที่ปลูกข้าวจำนวน 6 ไร่ เผยว่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาตนเองได้มาสำรวจที่นาของตัวเอง พบต้นข้าวยืนต้นแห้งตายเป็นหย่อมๆ ความเสียหาย ประมาณ 3 ไร่ และตนเองก็ได้นำยาฆ่าแมลงมาพ่น ก็พอควบคุมได้บางส่วน หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ลงมาให้คำแนะนำกับชาวบ้าน ตนเองต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ห่วงใยและใส่ใจกับเกษตรกรชาวนา เพราะจะได้รู้จักวิธีการกำจัดป้องกันรักษาข้าวให้มีผลผลิตที่ดีต่อไป
ด้าน นายการุณย์ กล่าวว่า ทางคณะได้สุ่มสำรวจด้วยตาและโฉบสวิงเพื่อตรวจนับแมลงศัตรูพืชพบว่าข้าวของเกษตรกรเกิดใบไหม้ ซึ่งวิเคราะห์ว่าเกิดจากเชื้อราและยังพบเพลี้ยกระโดดหลังขาว ซึ่งเป็นแมลงประจำถิ่นจังหวัดภาคเหนือตอนบน ความเสียหายที่เกิดขึ้น ความเสียหายเบื้องต้น ประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ทั้งหมด และยังควบคุมการระบาดของโรคได้
งให้คำแนะนำในการป้องกันกำจัดเบื้องต้น โดยใช้สารเคมีป้องกันเชื้อราที่มีชื่อสามัญว่า ไอโซโพรไทโอเลน, อะซอกซีสโตรบิน, ทีบูโคนาโชล, ไพราโคลสโตรบิน หรือใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา(ราเขียว) สารกำจัดเพลี้ยกระโดด ไพมีโทรซีน, ไดโนทีฟูแรน หรือเชื้อราบิวเวอเรีย (ราขาว) เพื่อควบคุมการระบาดไม่ให้ลุกลาม ซึ่งเกษตรกรบางส่วนได้ดำเนินการป้องกันกำจัดไปแล้ว
ทั้งนี้ได้ชี้แจงให้เกษตรกรได้เข้าใจในการป้องกันกำจัดเบื้องต้นด้วยตนเอง ส่วนการช่วยเหลือนั้นมีขั้นตอนการตรวจสอบพื้นที่ความเสียหายจากคณะกรรมการในระดับหมู่บ้านและตำบล เพื่อที่ทางอำเภอจะได้รายงานขอรับการช่วยเหลือตามลำดับต่อไปแต่หลักเกณฑ์การช่วยเหลือพื้นที่นั้นต้องเสียหายอย่างสิ้นเชิง
