วันเสาร์, 23 พฤศจิกายน 2567

ชาวบ้านขุขันธ์”ตะโกนลั่น”ลุงตู่ช่วยด้วยไม่ยุบรวม ร.ร.ขนาดเล็ก”

ศรีสะเกษ ชาวบ้านขุขันธ์ตะโกนลั่นลุงตู่ช่วยด้วยไม่ยุบรวม ร.ร.ขนาดเล็ก เผย ร.ร.บ้านพะเยียวตาสุ เป็น ร.ร.ขนาดเล็กแต่ผลการสอบการอ่านระดับประเทศ pt ผลการสอบ nt ผลการสอบ o – net สูงกว่าระดับประเทศ ผู้ปกครองประกาศลั่นหากให้ยุบรวมกับ ร.ร.อื่นจะให้ลูกหลานลาออกทั้ง ร.ร. ชี้การยุบ ร.ร.จะส่งผลกระทบปัญหามากมายหลายด้าน


เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ร.ร.บ้านพะเยียวตาสุ ต.ใจดี อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นายวิสัย เขตสกุล เลขาธิการสภามนตรีสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย ได้เดินทางมาพบกับคณะครู น.ร. ผู้นำหมู่บ้าน ผู้ปกครอง น.ร.และพระภิกษุ สวมเสื้อดำมารวมตัวชุมนุมกันถือป้ายเพื่อคัดค้านการยุบ ร.ร.บ้านพะเยียวตาสุ จำนวนประมาณ 100 คน ขณะที่เด็ก น.ร.มีแววตาและสีหน้าเศร้าสร้อยเพราะไม่อยากที่จะไปเรียนห่างไกลจากบ้านของตนเองกว่า 5 กม. ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ถึงแม้ว่าจะเป็น ร.ร.ขนาดเล็ก เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้น ป.6 มี น.ร.จำนวน 76 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 9 คน มีนายศราวุธ วามะกัน เป็น ผอ.ร.ร. แต่มีผลการเรียนสูงกว่าระดับประเทศ โดยแกนนำชาวบ้านที่มาชุมนุมได้พากันกล่าวปราศรัยถึงปัญหาผลกระทบจากการที่จะถูกยุบและได้ยื่นหนังสือขอให้ยุติการยุบโรงเรียน กับนายวิสัย เขตสกุล ในฐานะเลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย เพื่อขอให้ประสานงานถึงไปยังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ยุติการยุบ ควบรวม ร.ร.ขนาดเล็ก


นายศราวุธ วามะกัน ผอ.ร.ร.บ้านพะเยียวตาสุ กล่าวว่า ร.ร.บ้านพะเยียวตาสุ สร้างขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจของประชาชนชาวบ้านพะเยียวและบ้านตาสุ มากว่า 30 ปีแล้ว ทั้งนี้เพื่อต้องการให้บุตรหลานของตนเองได้เรียนหนังสือใกล้บ้าน และการจัดการเรียนการสอนที่ผ่านมาปรากฏว่า ร.ร.บ้านพะเยียวตาสุ ถึงแม้จะเป็น ร.ร.ขนาดเล็ก แต่ผลการสอบการอ่านระดับประเทศ pt ผลการสอบ nt ผลการสอบ o-net ทุกรายการผลการประเมินสูงกว่าระดับประเทศ ได้รับรางวัลเหรียญทองในกิจกรรมมารยาทงามการแข่งขันในงานศิลปหัตถกรรม น.ร.ระดับ สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 ส่วนในด้านการกีฬาได้รับรางวัลรองชนะเลิศการแข่งขันกีฬาวิทยุการบินชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระดับจังหวัดศรีสะเกษ ด้วย และได้รับการสนับสนุนจากคณะสงฆ์ พ่อแม่ ผู้ปกครอง น.ร.รวมทั้งกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของ ร.ร.เป็นอย่างดียิ่ง ทำให้ประสบผลสำเร็จในการจัดการเรียนการสอนเป็นอย่างดียิ่ง

นางสาวทิพย์วัลย์ มูลดับ อายุ 31 ปี อดีต ผช.ผญบ.บ้านพะเยียว กล่าวว่า เด็ก น.ร.ส่วนมากจะอาศัยอยู่กับปู่ย่าตายาย เนื่องจากว่า พ่อแม่พากันไปหางานทำที่ต่างจังหวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่กรุงเทพฯเพื่อหาเงินส่งมาเลี้ยงดูลูกของตนเอง หากว่าเด็กเรียนหนังสือที่ ร.ร.ในหมู่บ้านพ่อแม่ก็จะไม่ต้องเป็นห่วงเพราะว่า เมื่อ ร.ร.เลิกเรียนเด็ก น.ร.ก็จะกลับมาอยู่ในสายตาของปู่ย่าตายาย ทำให้เด็กไม่ปัญหาในด้านการไปคบเพื่อนในทางที่ไม่ดี แต่หากว่ายุบ ร.ร.แห่งนี้ไปรวมกับ ร.ร.บ้านใจดี แล้ว ปู่ย่าตายายจะต้องไปรับ-ส่งลูกหลานที่อยู่ห่างไกลออกไปประมาณ 5 กม. ทั้งเช้าและบ่าย ปู่ย่าตายายที่แก่มากแล้ว จะไปรับส่งลูกหลานของตนเองได้อย่างไร หากจะปล่อยให้ลูกหลานไป ร.ร.เองก็ห่วงใย โดยเฉพาะลูกหลานที่เป็นผู้หญิง ตนเองและญาติพี่น้องเห็นว่า แนวคิดการยุบรวมโรงเรียนควรที่จะยุติได้แล้ว หากมีการยุบรวม ร.ร.บ้านพะเยียวตาสุ ไปเรียนกับ ร.ร.บ้านใจดี ตนและคณะผู้ปกครอง น.ร.ทุกคน จะให้บุตรหลานทุกคนลาออกจาก ร.ร. จะไม่ยอมให้ลูกหลานของตนเองไปเสี่ยงต่ออันตรายต่าง ๆ จากการเดินทางไกลไปเรียนหนังสืออย่างแน่นอน

นายวิสัย เขตสกุล เลขาธิการสภามนตรีสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตนจะนำเอาหนังสือคัดค้านการยุบรวม ร.ร.บ้านพะเยียวตาสุ ไปหารือในการประชุมสภามนตรีสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อที่จะได้นำเสนอไปยังนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้ทราบถึงปัญหาต่างๆ ที่จะตามมามากมายจากการที่จะยุบรวม ร.ร.ขนาดเล็กทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ กว่า 15,000 แห่ง ตนจึงขอวอนไปยังผู้มีอำนาจทุกท่านว่า ควรยุติการยุบรวม ร.ร.ขนาดเล็กทั่วประเทศเพื่อจะได้เป็นการยุติปัญหาต่าง ๆ มากมายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนที่กำลังเติบโตสู่วัยรุ่น และอาจจะเป็นปัญหาสังคมอย่างรุนแรงต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ได้

ข่าว/ภาพ บุรทัศน์ ศรีสะเกษ

Loading