ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับยาบ้า 4 ล้านเม็ดพร้อมกัญชา 600 กิโลกร้ม
วันที่ 28 ตุลาคม 62 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมจำนวน 7 คดีผู้ต้องหาจำนวน 10 คนพร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 2,000 มัดรวมประมาณ 4,000,000 เม็ด,ไอซ์จำนวน 3 ถุงน้ำหนักรวมประมาณ 3 กิโลกรัม,กัญชาจำนวน 600 แท่งน้ำหนักรวมประมาณ 600 กิโลกรัม,ยาอี(เอ็กซ์ตาซี่) จำนวนประมาณ 10,000 เม็ด โคคาอีนน้ำหนักประมาณ 300 กรัม
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า คดีแรก เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2562 เวลาประมาณ 01.30 น. ต่อเนื่องถึงเวลาประมาณ 03.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สกส.บช.ปส.บก.ขส.บช.ปส.ได้ร่วมกันทำการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 คน นายพงษ์ตรี อนันต์กิจเกษตร อายุ 32 ปีอยู่บ้านเลขที่ 59 ม.8 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จว.ตาก นาย ชาติชาย แซ่กือ อายุ 25 ปีอยู่บ้านเลขที่180 ม.7 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จว.ตาก นายชัชวาล แซ่ม้าอายุ 42 ปีอยู่บ้านเลขที่ 254 ม.8 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จว.กำแพงเพชร และนายพิศิษฐ์ แซ่ท้าว อายุ 24 ปีอยู่บ้านเลขที่16 ม.6 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จว.ตากพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 2,000 มัดรวมประมาณ 4,000,000 เม็ดรถยนต์ โตโยต้าจำนวน 1 คัน รถยนต์ อีซูซุจำนวน 2 คัน โทรศัพท์มือถือจำนวน 5 เครื่อง จับกุมได้ที่บริเวณด่านตรวจป่าไม้ ถนน1083 อ.บ้านโคก จว.อุตรดิตถ์ โดยกล่าวหาว่า“ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต”
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่าทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดตามสืบสวนเครือข่ายนักค้ายาเสพติดว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.พบพระ จว.ตากและอ.คลองลาน จว.กำแพงเพชร มีความสัมพันธ์เป็นเครือญาติกัน ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นผู้รับงานขนและลำเลียงยาเสพติดจากนายทุนพ่อค้ายาเสพติดโดยจะขนส่งและลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ทางภาคเหนือตอนบน ส่งมอบให้กับลูกค้าของผู้ว่าจ้างในพื้นที่ภาคกลางอยู่เป็นประจำโดยจะใช้เส้นทางจากพื้นที่ จว.เชียงราย – จว.พะเยา – จว.น่าน – จว.แพร่-จว.อุตรดิตถ์–จว.พิษณุโลกเข้าสู่พื้นที่ตอนในประเทศเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าจนกระทั่งวันที่ 26 ต.ค.62 เวลาประมาณ 01.30 น.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถสกัดกั้นจับกุม นายชัชวาล แซ่ม้าอายุ 42 ปีอยู่บ้านเลขที่ 254 ม.8 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จว.กำแพงเพชร และนายพิศิษฐ์ แซ่ท้าว อายุ 24 ปีอยู่บ้านเลขที่16 ม.6 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จว.ตากได้ที่ด่านตรวจป่าไม้ ถนน 1083 ต.บ้านโคก อ.บ้านโคก จว.อุตรดิตถ์ และสามารถจับกุมตัว นาย ชาติชาย แซ่กือ อายุ 25 ปีอยู่บ้านเลขที่180 ม.7 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จว.ตาก ที่บริเวณสามแยก ห้วยมุ่น ถนน 1239 ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จว.อุตรดิตถ์ เวลาประมาณ 02.50 น. ของวันที่ 26 ต.ค.62 และสามารถจับ นายพงษ์ตรี อนันต์กิจเกษตร อายุ 32 ปีอยู่บ้านเลขที่ 59 ม.8 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จว.ตากได้ที่บริเวณสามแยกบ้านห้วยเดื่อ ถนน 1239 ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด จว.อุตรดิตถ์ เวลาประมาณ 03.30 น.ของวันที่ 26 ต.ค.62 พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ดรวมประมาณ 4,000,000 เม็ด ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นกลุ่มเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดเดียวกับนายจื้อ แซ่กือ อายุ 37 ปี ที่เคยถูกตำรวจภูธรภาค 7 จับกุมได้พร้อมไอซ์ 596 กิโลกรัม ที่ อ.มโนรมย์ จว.ชัยนาท เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ พร้อมยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ต่อไป
พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยว่า คดีที่ 2 คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 62 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกก.3 บก.ปส.2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.2 ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คนนายกิตติวัฒน์ หรือ เก่ง กิ่งทอง อายุ 37 ปีอยู่บ้านเลขที่ 53/1 ม.14 ต.สังเม็ก อ.กันทรลักษ์ จว.ศรีสะเกษ นายธนา หรือหน่อง หงษ์คำ อายุ 47 ปีอยู่บ้านเลขที่ 259/1 ม.12 ต.สังเม็ก อ.กันทรลักษ์ จว.ศรีสะเกษพร้อมของกลางกัญชาจำนวน 200 แท่งน้ำหนักรวมประมาณ 200 กิโลกรัมรถยนต์กระบะโตโยต้าหมายเลขทะเบียน 8 กอ1210 กทม.จำนวน 1 คันโทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง จับกุมที่บริเวณ ปากซอยวัดเทพกัญญาราม ถนนนิตโย ต.ฮางโฮง อ.เมืองสกลนคร จว.สกลนคร
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 ดำเนินคดี
โดยกล่าวหาว่า“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ( กัญชา ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยอีกว่า คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 62 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.3 บก.ปส.2 สนธิกำลังร่วมกับ กก.2 บก.ปส.2 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 คน นายอำพันธ์ บ่าวรักษา อายุ 32 ปีอยู่บ้านเลขที่ 5 ม.13 ต.น้ำจั้น อ.เซกา จว.บึงกาฬ นายรุ่งโรจน์ สุวรรณท้าว อายุ 29 ปีอยู่บ้านเลขที่ 34 ม.10 ต.นางัว อ.บ้านแพง จว.นครพนม นายโกเมนทร์ วัฒนะแสง อายุ 38 ปีอยู่บ้านเลขที่ 30 ม.6 ต.หนองแจง อ.บึงสามพัน จว.เพชรบูรณ์พร้อมของกลางกัญชาจำนวน 400 แท่งน้ำหนักรวมประมาณ 400 กิโลกรัม รถยนต์โตโยต้าจำนวน 1 คันโทรศัพท์มือจำนวน 5 เครื่องพร้อมยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบรถยนต์กระบะ จำนวน 2 คันสมุดบัญชีเงินฝากจำนวน 3 เล่มรวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 2,000,000 บาท โดยสามารถจับกุมนายอำพันธ์ ที่บริเวณริมถนนนิตโย ใกล้ปั้ม ปตท.อ.พังโคน จว.สกลนครจับกุมนาย รุ่งโรจน์ ได้ที่ ริมถนนนิตโย สี่แยกไฟแดงหนองเม็ก ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน จว.อุดรธานี จับกุม นายโกเมนทร์ ได้ที่ริมถนนเลี่ยงเมือง สี่แยกบ้านจั่น ต.บ้านจั่น อ.เมือง จว.อุดรธานี
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 ดำเนินคดี
โดยกล่าวหาว่า“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่า คดีที่ 4 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปส.3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส., ศุลกากร,ศรภ.และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ตามโครงการ AITF ทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติ 1 คน นางสาวเมลานี เดลา โรม่า เบเนดิกโต (MS.MELANIE DELA ROMA BENEDICTO) อายุ 39 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ พร้อมด้วยของกลางไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 3 กิโลกรัมโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง จับกุมที่บริเวณภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยกล่าวหาว่า“นำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, พยายามส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนโดยวิเคราะห์ความเสี่ยงในการลักลอบนำยาเสพติดให้โทษเข้ามาในราชอาณาจักรจากรายชื่อผู้โดยสารของสายการบินเป้าหมายพบผู้โดยสารต้องสงสัยชื่อ นางสาวเมลานี เดลา โรม่า เบเนดิกโต ซึ่งเป็นผู้โดยสารเปลี่ยนเที่ยวบิน (TRANSFER PASSENGER) เดินทางจากเมืองเวียงจันทร์ ประเทศ สปป.ลาว เพื่อเดินทางต่อไปยังกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ชุดจับกุมได้นำสัมภาระของ นางสาวเมลานี เดลา โรม่า เบเนดิกโต ซึ่งบรรทุกใต้ท้องเครื่องบินเป้าหมายตรวจสอบเบื้องต้นแสดงลักษณะผิดปกติ จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สายการบินที่ นางสาวเมลานี เดลา โรม่า เบเนดิกโต จะโดยสารเดินทางไปยังฟิลิปปินส์ เพื่อขอทำการตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระโดยละเอียดอีกครั้ง ต่อมานางสาวเมลานี เดลา โรม่า เบเนดิกโต มาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่สายการบินเพื่อขึ้นเครื่อง ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้เชิญตัวมาสอบถามและขอเปิดกระเป๋าสัมภาระเพื่อตรวจค้นผลการตรวจค้นพบยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในช่องลับ ของกระเป๋าเดินทางจึงร่วมกันจับกุม นางสาวเมลานี เดลา โรม่า เบเนดิกโต นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปส.3 ยังสามารถตรวจยึดยาอีซึ่งซุกซ่อนมาในชุดหลอดไฟและกล่องบอร์ดแอลอีดี ที่ส่งผ่านพัสดุไปรษณีย์อีก 4 ชิ้น โดยทั้งหมดมีต้นทางจากประเทศโปรตุเกส พัสดุกล่องแรกมียาอี 5,000 เม็ด และโคเคนอีก 300 กรัม ปลายทางผู้รับ จ.ชลบุรี กล่องต่อมาพบยาอีอีก 5,000 เม็ด ปลายทาง จว.ปทุมธานี จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้ตรวจสอบก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป