วันศุกร์, 29 พฤศจิกายน 2567

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม”จุดปืนใหญ่จำลอง”ปล่อยตัวนักวิ่ง ในกิจกรรมยิ่งตามภูมิประเทศบนเส้นทางประวัติศาสตร์”สยามเทรล 2019”

กาญจนบุรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม จุดปืนใหญ่จำลอง ปล่อยตัวนักวิ่งในกิจกรรมวิ่งตามภูมิประเทศบนเส้นทางประวัติศาสตร์ “สยามเทรล 2019” ซึ่งเป็นครั้งแรกของการวิ่งเทรลบนพื้นที่ ตำบลช่องสะเดา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเคยเป็นสมรภูมิประวัติศาสตร์สงคราม 9 ทัพที่เกิดขึ้นในอดีต

วันี้ 15 ธ.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อุทยานประวัติศาสตร์สงครามเก้าทัพ ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการปล่อยตัวนักกีฬาวิ่งเทรล ในกิจกรรมการวิ่งตามภูมิประเทศบนเส้นทางประวัติศาสตร์ ภายใต้ชื่อ สยามเทรล 2019 พร้อมด้วย พลเอก ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายบวรศักดิ์ วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทหาร ตำรวจ และนักวิ่งเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามดำริของ พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการใช้การกีฬามาเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ โดยผ่านการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยพร้อมกับการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยกิจกรรมที่จัดขึ้น คือ กิจกรรมการวิ่งเทรล แบ่งออกเป็น 6 ระยะ ได้แก่ 52 กิโลเมตร 36 กิโลเมตร 17 กิโลเมตร 13 กิโลเมตร 5 กิโลเมตรและ 3 กิโลเมตร ทุกระยะจะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ป่า เขา แม่น้ำ และร่วมวิ่งไปบนเส้นทางแห่งชัยชนะของสงครามเก้าทัพที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ.๒๓๒๘ สมัยรัชกาลที่ ๑ ซึ่งเป็นการจัดวิ่งเทรลที่มีความแปลกใหม่ สร้างสรรค์ และท้าทายโดยมีแนวคิด “วิ่งย้อนเวลา ค้นหาเส้นทางประวัติศาสตร์” โดยการออกแบบเส้นทางการวิ่งโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการจัดวิ่งทั้งในระดับประเทศ และต่างประเทศ โดยถือเป็นครั้งแรกของการสร้างเส้นทางวิ่งเทรล บนพื้นที่ช่องสะเดา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเคยเป็นสมรภูมิ ประวัติศาสตร์สงคราม 9 ทัพ ที่เกิดขึ้นในอดีต

ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสุขภาพร่างกาย โดยใช้การวิ่งเทรลเป็นกระแสนำ และเป็นการยกระดับการแข่งขันในระดับนานาชาติ โดยใช้เส้นทางประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เข้าใจถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ทำให้ทราบถึงการสร้างสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ และเพื่อเป็นการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์ธรรมชาติให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือทั้งในส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและเผยแพร่วิถีศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่นให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย.

ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

Loading