วันศุกร์, 4 ตุลาคม 2567

ประจวบคีรีขันธ์!!มาได้อย่างไร”กระสุนปริศนาเข้าที่ใบหน้า”โพสเฟสบุ๊ก”ขอความเป็นธรรม”

08 ม.ค. 2020
20

กระสุนปริศนาเข้าใบหน้า โพสต์ Facebook ขอความเป็นธรรม วอนจับคนร้ายให้ได้


เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 8 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านครัวสองพี่น้อง ที่ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม หลัก กม.378 ฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ พื้นที่ ม.2 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้พบกับ นางนิภา หรือ ป้าแต๋ว ดีสนั่น อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/12 เจ้าของร้านครัวสองพี่น้องและเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระสุนปืนไม่ทราบขนาด ยิงเข้าที่บริเวณใบหน้า มีรอยกระสุนบริเวณ กกหูด้านขวาและแก้มด้านขวา

นางนิภา เปิดเผยว่า “เมื่อช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนของคืนวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ขณะกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในมุ้งครอบบริเวณด้านหลังร้าน ที่เป็นเพิงริมทางเปิดเป็นร้านขายอาหารริมถนนเพชรเกษม รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะมีอาการเจ็บร้าวบริเวณโหนกแก้มและเมื่อจับดูพบเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก จึงตะโกนเรียก นายดิเรก ดีสนั่น สามี ที่นอนอยู่ในกระต๊อบข้างหลังร้านให้ออกมาดู ระหว่างนั้นได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้นอีก 2 นัด จึงรีบหาที่หลบซ่อน ก่อนที่นายดิเรก สามี จะโทรเรียกบุตรสาวที่ปลูกบ้านอยู่ติดๆกัน รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยให้นายดิเรก สามีรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่เกิดเหตุ ซึ่งภายหลังจากแพทย์ได้ทำการเย็บบาดเเผลบริเวณ ก๊กหูด้านขวา และ แก้มขวา เรียบร้อย แพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้”

“ซึ่งที่ผ่านมา ยืนยันว่าตนและครอบครัวไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนบ้านหรือใครๆในละแวกบ้านเลยแม้แต่น้อย และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเอาตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งในคืนเกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน ลงมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยังได้ยินเสียงปินยิงขู่ดังขึ้นอีก 2 นัด ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งทุกคนในคืนนั้นได้ยินกันหมด แต่ทำอะไรไม่ได้ ตนต้องหวาดผวาอยู่ไม่เป็นอันค้าขาย เพราะไม่รู้จะถูกยิงอีกเมื่อไหร่” นางนิภา กล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.ไพรัช แทนศิริ ผกก.สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งติดภารกิจอยู่ที่ ต่างจังหวัด มอบหมายให้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม จาก ร.ต.อ.สมจิตร์ บุญตาม รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางสะพาน เจ้าพนักงานสอบสวนเวรในคืนเกิดเหตุ ซึ่ง ร.ต.อ.สมจิตร์ บุญตามเปิดเผยว่า สำหรับในส่วนของคดีทางพนักงานสอบสวนไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการทำหนังสือผ่าน ผกก. เพื่อให้ชุดสืบสวนลงหาข้อมูลผู้ก่อเหตุ และได้มีการส่งหนังสือเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภูธร ภาค 7 ลงตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาแนวกระสุนและวิถีการยิงว่ามาจากที่ใดเพื่อประกอบสำนวนคดีต่อไปโดยยืนยันว่าตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ทุกอย่างย่อมมีขั้นตอนของกฎหมาย และต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน

พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

Loading