วันอังคาร, 1 ตุลาคม 2567

บิ๊กนู”นำทีมสืบสวนภ.1 รวบปู พร้อมสมุนตระเวนลักรถย่าน จ.นนทบุรี

07 ต.ค. 2020
18

บิ๊กนู !!! นำทีมสืบสวนภาค 1 รวบ ปู ปิ่นทอง พร้อมสมุนออกตระเวนลักรถย่านจว.นนทบุรี พบประวัติหมายจับอื้อ

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 ต.ค.63 ที่สภ.บางบัวทอง พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พล.ต.ต.พลฑิต ไชยรส ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ดิเรก ยศนันท์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.กก.1 บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.กสิรภพ อนุศิริ ผกก.สภ.บางบัวทองพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.1 กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี สส.สภ.บางบัวทองได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 4 คน 1.นายต๋อง หรือปู ปิ่นทอง อายุ 39 ปี 2.นายอนุชา หรือปุ้ย ปิ่นทอง อายุ 39 ปี น.ส.บุญเรือน หรือพร วิบูลย์เชื้อ อายุ 38 ปี 4.นาย พลวัชร หรือทิม ดวงสุวรรณ อายุ 51 ปี พร้อมของกลางรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุจำนวน 3 คัน 1.รถยนต์เก๋งฮอนด้าแอคคอร์ด สีดำหมายเลขทะเบียน ศณ-8499 กรุงเทพมหานคร(ของนายอนุชาฯ)จำนวน 1 คัน 2.รถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออส สีดำหมายเลขทะเบียน 1กญ-7336 กรุงเทพมหานคร(ของนายอนุชาฯ)จำนวน 1 คัน 3.รถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีขาว หมาเลขทะเบียน 9 กร-3653 กรุงเทพมหานคร(ของนายอนุชาฯ) จำนวน 1 คัน 4.รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 2 กย-5630 กรุงเทพมหานคร.สวมป้ายทะเบียนปลอม 6 กฆ-1942 กรุงเทพมหานครจำนวน 1 คัน 5.รถยนต์กระบะ โตโยต้าวีโก้สีดำหมายเลขทะเบียน 3 กฬ- 9726 กรุงเทพมหานครสวมแผ่นป้ายทะเบียนปลอม 2 กต – 814 กรุงเทพมหานครจำนวน 1 คัน
โดยแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1-3 ว่ากระทำความผิดฐาน“ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”ผู้ต้องหาที่ 4 กระทำความผิดฐานรับของโจร


คดีที่ 1.
พล.ต.ต.สุภธีร์ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2563 เวลาประมาณ 14.46 น.นายต๋องได้ขับรถยนต์เก๋งฮอนด้าแอคคอร์ด สีดำหมายเลขทะเบียน ศณ-8499 กรุงเทพมหานคร ติดตามรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์เงินหมายเลขทะเบียน 2 กย-5630 กรุงเทพมหานครของน.ส.จันทิมา วัฒนกิจ ผู้เสียหายที่ 1 ขับขี่มาเมื่อผู้เสียหายขับเข้าไปภายในห้างโลตัสสาขาบางกรวย – ไทรน้อย อ.บางบัวทอง จว.นนทบุรี จากนั้นนายต๋องได้ขับรถวนรอจนกระทั่งผู้เสียหายลงจากรถ จึงได้ลงมือก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์คันดังกล่าว แล้วขับรถคันที่โจรกรรมหลบหนีไป โดยได้ขับมุ่งหน้าไปหานายอนุชาซึ่งเป็นพี่ชายและได้ช่วยกันถอดแครี่บอยออกแล้วทิ้งไว้ข้างทางบริเวณถนนหลวงสาย 3351 (บางเลน-สองพี่น้อง)
จากนั้นนายอนุชาและน.ส.บุญเรือนได้ขับขี่รถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีขาวหมายเลขทะเบียน 9กร-3653 กรุงเทพมหานคร วนกลับมาที่บริเวณห้างโลตัสจุดก่อเหตุอีกครั้ง เพื่อกลับมาเอารถเก๋ง ฮอนด้าแอคคอร์ดที่นายต๋องจอดทิ้งไว้ โดยน.ส.บุญเรือนได้ขับและนำไปจอดทิ้งไว้ที่บริเวณแพปลาตลาดบางเลน ต่อมาทั้งนายอนุชาและนายต๋องได้นำรถคันที่โจรกรรมไปฝากไว้กับนาย พลวัชร ที่อ.แก่งคอย จว.สระบุรี โดยนายต๋องเป็นคนขับขี่รถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีขาวหมายเลขทะเบียน 9กร-3653 กรุงเทพมหานครที่โจรกรรมมาและนายอนุชาขับขี่รถยนต์เก๋งโตโยต้าวีออส สีดำหมายเลขทะเบียน 1กญ-7336 กทม. ติดตามไป

คดีที่ 2.
พล.ต.ต.สุภธีร์ กล่าวต่อว่าเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2563 เวลาประมาณ 15.02 น.นายไพรรัตน์ วิเชียรชัย ผู้เสียหายที่ 2 ได้ขับรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีดำหมายเลขทะเบียน 3 กฬ-9726 กรุงเทพมหานคร นำมาจอดไว้ที่บริเวณหน้าศูนย์คอมกรุงไทย ริมถนนบางกรวย-ไทรน้อย อ.บางบัวทอง จว.นนทบุรี ซึ่งเป็นรถเป้าหมายที่กลุ่มผู้ต้องหาต้องการโจรกรรมเมื่อนายอนุชาขับรถยนต์เก๋งโตโยต้าวีออส สีดำหมายเลขทะเบียน 1กญ-7336 กรุงเทพมหานคร และนายต๋องนั่งโดยสารมาด้วยเมื่อเจอรถเป้าหมาย จึงได้จอดรถและให้นายต๋องลงไปทุบกระจกรถและทำการโจรกรรมไปจากนั้นได้ขับรถคันที่โจรกรรมไปฝากไว้กับนายพลวัชรที่อ.แก่งคอย จว.สระบุรี โดยนายอนุชา ขับขี่รถยนต์เก๋งโตโยต้าสีดำหมายเลขทะเบียน 1กญ-7336 กรุงเทพมหานครติดตามไป
พล.ต.ต.สุภธีร์ เปิดเผยว่า ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1บก.สส.ภ.1 ได้บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี สส.สภ.บางบัวทองลงพื้นที่ร่วมกันทำการสืบสวนจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนกระทั่งสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คดี คือนายต๋อง นายอนุชา และน.ส.บุญเรือนโดยทั้งหมดจะมีพฤติการณ์ในการโจรกรรมคือนายต๋องและนายอนุชา จะขับรถออกตระเวนหารถยนต์กระบะซึ่งเป็นรถเป้าหมายเมื่อสบโอกาสจะเข้าไปทำการลักรถยนต์โดยใช้วิธีต่อสายไฟตรงแล้วขับหลบหนีออกไป จากนั้นค่อยย้อนกลับมาเอารถยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ หลังจากนั้นได้นำรถที่โจรกรรมได้ไปฝากให้นายพลวัชร นำไปขายให้ โดยขายได้ในราคาคันละประมาณ 100,000 บาท แล้วนำเงินจำนวนดังกล่าวมาแบ่งกันทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้นำกำลังเฝ้าติดตามพฤติการณ์ จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดพร้อมทั้งติดตามรถคืนให้ผู้เสียหายได้ทั้ง 2 คัน
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายต๋อง เคยก่อคดีมาแล้วจำนวน 33 คดี ถูกดำเนินคดีไปแล้วจำนวน 17 คดีหลบหนีจนคดีหมดอายุความจำนวน 5 คดีขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 อีก 11 หมายจับ

Loading