ดร.กัลยาณี ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวศรีสะเกษ เห็นด้วยเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ STV เรือยอร์ช เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบในหลักการแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) โดยจะออกประกาศให้คนต่างด้าวที่มีคุณสมบัติ ตามที่กำหนดมีสิทธิ์ขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว STV ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ภายใน 30 วันหลังจากมีประกาศบังคับใช้ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2564
สำหรับคุณสมบัติที่กำหนดของคนต่างด้าวที่มีสิทธิ์ขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว STV มีดังนี้ เป็นบุคคลต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและกีฬา(เรือยอร์ช)ในกลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ หรือผู้โดยสาร ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำหรือความเสี่ยงปานกลาง ตามการจัดกลุ่มประเทศด้านการแพทย์และสาธารณสุข สำหรับการผ่อนคลายผู้ไม่มีสัญชาติไทยเข้ามาในราชอาณาจักรตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวจะต้องยอมรับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 และยินยอมกักตัวภายในเรือไม่น้อยกว่า 14 วัน พร้อมกับมีหลักฐานเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและกีฬา
นอกจากนี้ยังต้องมีหลักฐานกรมธรรม์การทำประกันสุขภาพที่คุ้มครองตรวจรักษาโรคโควิด-19 ในวงเงิน 100,000 เหรียญสหรัฐฯ ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในประเทศไทย รวมถึงการทำประกันสุขภาพและอุบัติเหตุของไทยคุ้มครองตลอดระยะเวลาที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีจำนวนเงินประกันภัยสำหรับค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก ไม่น้อยกว่า 40,000 บาท และผู้ป่วยในไม่น้อยกว่า 400,000 บาท และมีหลักฐานการชำระเงินล่วงหน้าในการเช่าจองสถานที่จอดเรือ พร้อมปฏิบัติตามประกาศของกรมเจ้าท่าว่าด้วยแนวปฏิบัติสำหรับเรือสำราญและกีฬา(เรือยอร์ช)ที่เข้ามาในน่านน้ำไทย
สำหรับบุคคลต่างด้าวที่มากับเรือยอร์ช ที่ผ่านคุณสมบัติข้างต้นแล้วจะขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวSTV จะเสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราครั้งละ 2,000 บาท ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้เป็นเวลา 90 วัน นับแต่วันที่เดินทางเข้ามา อย่างไรก็ตามให้ผ่อนผันสำหรับกรณีที่เรือยอร์ชเดินทางออกจากประเทศต้นทางและอยู่ระหว่างการเดินทางเข้ามาในน่านน้ำไทยก่อนที่ประกาศจะมีผลบังคับใช้ กลุ่มนี้จะได้รับสิทธิ์ขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวSTVได้เป็นเวลา 30 วันหลังจากที่ประกาศมีผลบังคับใช้
อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่ครบกำหนดอยู่ในไทยแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมีอำนาจอนุญาตให้อยู่ต่อไปได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 90 วัน โดยให้คนต่างด้าวยื่นคำขอและเสียค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวศรีสะเกษ กล่าวว่า การที่รัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวพิเศษ Special Tourist Visa ( STV)นักท่องเที่ยวต่างด้าวที่มากับเรือยอร์ชนั้น ตนเองเห็นด้วยที่เราจะเริ่มรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม High end ขอให้รัฐบาลวางมาตรการควบคุมให้ดี โดยให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้นักท่องเที่ยวยอมให้กักตัวภายในเรือไม่น้อยกว่า 14 วัน มีหลักฐานกรมธรรม์การทำประกันสุขภาพที่คุ้มครองโรคโควิด-19มีวงเงินที่เพียงพอหากมีการติดเชื้อและต้องรักษาตัว
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ กล่าวต่อไปว่า เราเป็นเจ้าของบริษัทนำเที่ยวและจำหน่าวตั๋วเครื่องบิน ตั้งแต่ต้นปี2563 ได้รับผลกระทบจาก โควิค-19 จึงกังวลมาตลอด แต่ดีใจที่ประเทศไทยควบคุมการแพร่ระบาดของโควิค-19 ได้ดีมาก และชื่นชมที่คนไทยมีวินัยเชื่อฟังสวมหน้ากากอนามัยทำให้ลดการแพร่เชื้อได้มาก แต่คงจะเริ่มกังวลหากรับชาวต่างประเทศอีก จึงอยากให้ตรวจเชื้อไวรัสนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวดตั้งแต่ก่อนเข้าประเทศ และวันที่ถึงประเทศไทย และควรให้บันทึกการเดินทางโดยละเอียด ว่าไปไหนบ้างจะได้ตามแก้ได้ทันหากมีการติดเชื้อ
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ กล่าวในตอนท้ายว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทดังกล่าวคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี เพราะที่ผ่านมาแม้รัฐบาลจะพยายามส่งเสริมให้ไทยเที่ยวไทย แต่จำนวนนักท่องเที่ยวก็ยังต่ำมาก เมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในปี 2562 มากเกือบ 40 ล้านคน และรายได้จากนักท่องเที่ยวไทยก็เพียง 1.1 ล้านๆบาท เทียบกับรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 2 ล้านๆบาท จึงอยากให้ปล่อยนักท่องเที่ยวของประเทศที่ควบคุมโรคได้ดีแล้วเข้ามาใช้จ่ายที่ประเทศไทย รับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำเช่นจีน เพราะรัฐบาลจีนสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสได้ผลที่สุด คนจีนเดินทางไปเที่ยวมณฑลต่างๆได้อย่างเสรี จึงขอฝากรัฐบาลให้เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องทำแบบจำกัดบริเวณเพื่อเป็นการทดลองก่อน และต้องมีมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่เข้มข้น ฉับไว หากควบคุมโรคได้ค่อยขยาย เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจะทำให้เกิดการจ้างงานผู้ที่ตกงานจากธุรกิจท่องเที่ยวได้ ส่วนนโยบายฟื้นฟูช่วยเหลือต้องบริหารจัดการในรูปบูรณาการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนอย่างแท้จริง และช่วยส่งเสริมชุมชนที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อให้ชุมชนสามารถขับเคลื่อนต่อไป
ข่าว/ภาพ …. บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ