นครพนม
ไม่เข็ดหลาบพ้นโทษเพียง 5 วัน ตระเวนก่อเหตุลัก จยย. ส่งขายเพื่อนบ้าน หัวหมอไม่ยอมเซ็นชื่อรับผิด กล้องวงจรปิดมัดตัวแน่น แฟนสาวเกือบซวยด้วย
กรณี พ.ต.ท.กวินพงศ์ ดำรงดาลัยพงศ์ สารวัตร สอบสวน สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุจากนายปรีชา ระสีทา อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/1 หมู่ 5 บ้านหนองบาก ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ทำงานเป็นพนักงานบริษัทประเสริฐผลรุ่งเรือง จำหน่ายรถยนต์มือสอง ถนนทางหลวงแผ่นดิน 22(สกลนคร-นครพนม) ว่ารถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 1 กฉ 2416 นครพนม ที่ตนขับมาจอดใต้ต้นตีนเป็ดข้างรั้วบริษัทใกล้กับสถานบันเทิงชื่อดัง ปรากฏได้หายไปเวลาประมาณ 07.30 น. ของวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563
หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ชุดสายสืบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองนครพนม และสายตรวจ 191 มาตรวจสอบ พบนายปรีชาผู้เสียหาย เปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุตนจอดรถ จยย.บริเวณดังกล่าวโดยไม่ได้ล็อคคอรถ กระทั่งเวลาใกล้เที่ยงจะออกมาเอารถ จยย.ไปซื้อกลับข้าวมารับประทาน กลับพบว่ารถ จยย.ที่จอดไว้ได้อันตรธานหายไป จึงถามเพื่อนพนักงานด้วยกันว่าได้เลื่อนรถ จยย.ไปจากริมรั้วบริษัทหรือไม่
ต่อมา นายดิเรก คำไพบูลย์ เจ้าของบริษัทฯ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ก่อนเกิดเหตุมีรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีดำ ทะเบียน บร 785 สกลนคร พบชายวัยกลางคน สวมเสื้อยีนส์แขนยาวสีกรมท่าเข้ม เสื้อด้านในสีเขียว กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาวคาดสีแดง-ดำ สวมหมวกแก๊บ สะพายกระเป๋า จากนั้นลงมาจากรถยนต์เดินไปที่รถ จยย.ที่ถูกลักด้วยการต่อสายตรง เสร็จแล้วจึงเดินกลับมาขึ้นรถยนต์ขับไปจอดบริเวณใต้ต้นตีนเป็ด ห่างจากจุดที่จอดเดิมประมาณ 100 เมตร
จากนั้นชายต้องสงสัยเดินกลับมาที่รถ จยย.อีกครั้ง จัดการสตาร์ทเครื่องรถ จยย.ขับหลบหนีที่ทางร้านปะยาง โดยทิ้งรถยนต์ที่ขับมาไว้ใต้ต้นตีนเป็ด เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าว พบผู้ครอบครองเป็นหญิงอายุ 41 ปี บ้านอยู่หมู่ 14 ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม จึงแบ่งกำลังอีกส่วนซุ่มสังเกตการณ์อยู่ใกล้เคียงกับรถยนต์คันที่คนร้ายขับมาจอดไว้
กระทั่งเวลา 16.30 น. ของวันเดียวกัน มี น.ส.รักษ์(นามสมมุติ) ชาวบ้านหมู่ที่ 6 บ้านท่าดอกแก้ว ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ได้ขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน กพว-749 นครพนม โดยมีชายต้องสงสัยเป็นผู้ซ้อนท้ายมาด้วย จากนั้นชายดังกล่าวก็เดินไปเปิดประตูรถยนต์คันที่จอดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ทราบว่าชื่อ นายจิณณวัตร บุรีขันธ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180 หมู่ 5 บ้านเหล่าบะดา ต.โพนบก อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม
สอบสวนเบื้องต้นนายจิณณวัตรผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการลักรถ จยย. อ้างจะมาเอารถยนต์ที่ตนเองขับมาจอดไว้เท่านั้น และถามหา น.ส.รักษ์ ผู้ขับขี่รถ จยย.มาส่งตนว่าตอนนี้เขาอยู่ไหน ซึ่งขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สายสืบได้นำตัว น.ส.รักษ์มาสอบสวนทราบว่าเพิ่งรู้จักกับนายจิณณวัตรได้ประมาณ 1 เดือนเศษ โดยนายจิณณวัตรโทรศัพท์ไปหาให้ไปรับที่ตลาดขายยางพาราพื้นที่ อ.ท่าอุเทน เพื่อพาไปส่งยังข้างร้านจำหน่ายรถยนต์มือสอง หลังส่งผู้ต้องหาเสร็จเรียบร้อยก็ขับ จยย.กลับบ้าน กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวไปสอบปากคำ ยืนยันว่าไม่รู้เห็นกับการที่นายจิณณวัตรลักรถ จยย.แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงสอบกันไว้เป็นพยาน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายจิณณวัตร ว่า ลักทรัพย์หรือรับของโจร โดยผู้ต้องหาปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อีกทั้งไม่ยอมลงลายมือชื่อ โดยผู้ต้องหาไม่ทราบว่าตำรวจมีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ตลอดการเข้าไปลักรถ จยย.
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าพบรถ จยย.ฮอนด้าของนายปรีชาผู้เสียหาย จอดอยู่ในพื้นที่บ้านนาเพียง ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน ซึ่งห่างจุดเกิดเหตุราว 50 กิโลเมตร จึงตรวจยึดไว้ สันนิษฐานเตรียมนำส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ตามออเดอร์ที่สั่งมา
นอกจากนี้ในพื้นที่จังหวัดนครพนม มีผู้เสียหายหลายรายแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่า มีรถ จยย.ถูกขโมยหายไป ล้วนเป็นยี่ห้อท็อปฮิตที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านต้องการมากที่สุด คือ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ อาทิ หลังโรงเรียนเทศบาล 3 เขตเทศบาลเมืองนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม และบ้านดอนม่วง อำเภอเมืองฯ เป็นต้น ซึ่งอาจจะเป็นแก๊งเดียวกัน และอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนต่อไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของนายจิณณวัตรพบว่า เพิ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 โดยร่วมกับอดีตภรรยาพร้อมเพื่อนตระเวนดาวน์รถ จยย.ในหลายพื้นที่ทั้งในนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง โดยนำรถ จยย.ที่ดาวน์มาส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน
หลังออกจากคุกก็ยืมรถยนต์กระบะเชฟโรเลตซึ่งเป็นน้องสาวของนายจิณณวัตรไปก่อเหตุลักขโมยรถ จยย. มีภาพจากกล้องวงจรปิดในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2563 พบรถยนต์คันดังกล่าวขับไปเข้าภายในรั้วมหาวิทยาลัย โดยภาพจับได้ว่าที่กระบะหลังไม่มีสิ่งของใดๆ แต่พอรถยนต์ขับออกมามี จยย.อยู่ในกระบะจำนวน 1 คัน เจ้าของรถได้ไปแจ้งความไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมมีหมายจับค้างเก่าในจังหวัดสกลนครอีก 1 หมายจับ
เทพพนม รายงาน