วันศุกร์, 27 ธันวาคม 2567

เกษตรกรร้อง”ราคาผักตกตำ่”ขายก็ขาดทุน

ราชบุรี – ราคาผักตกต่ำ เกษตรกรร้อง”ขายไปก็ขาดทุน” วอนรัฐพยุงราคา

 

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เกษตรกรหลายพื้นที่กำลังได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทั้งเกษตรกรผู้ปลูก คะน้า , กะหล่ำปลี , กะหล่ำดอก , ถั่วฝักยาว , มะเขือเปราะ , แตงร้าน ผักบุ้งจีน , คึ่นฉ่าย และผักอีกหลายชนิด จึงขอให้ทางภาครัฐเร่งช่วยเหลือ

ขณะที่เกษตรกรผู้ปลูกคะน้าในพื้นที่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี ต้องจำใจใช้เครื่องตัดหญ้าตัดต้นคะน้า ที่มีอยู่ภายในแปลงเพาะปลูกกว่า 26 ไร่ น้ำหนักกว่า 1 แสนกิโลกรัม หลังจากไม่สามารถจำหน่ายออกได้ทัน ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากคะน้าล้นตลาด ราคาตกต่ำ พ่อค้าไม่รับซื้อ โดยให้เหตุผลว่า ได้มีการวางแผนปลูกคะน้าให้ทันขายในช่วงตรุษจีน เพราะเมื่อปี 2563 ซึ่งมีราคารับซื้อสูงถึงกิโลกรัมละ 20 บาท แต่กลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปีนี้ คะน้ามีราคารับซื้อหน้าสวน เหลือเพียงกิโลกรัมละ 2 บาท เนื่องจากคะน้าล้นตลาด จึงประสบกับสภาวะขาดทุน เนื่องจากมีต้นทุนการปลูก ทั้งค่าแรง ค่าปุ๋ย และค่าเมล็ดพันธุ์ อยู่ที่ประมาณ 2 แสนบาท หากตัดขายจะมีค่าจ้างตัด และค่าบรรจุอีกถุงละ 4 บาท จึงไม่คุ้มทุนในการตัดขาย จึงยอมตัดทิ้งเพื่อเตรียมแปลงไว้ปลูกผักชนิดอื่น

ส่วนที่ตลาดศรีเมือง ตลาดกลางผักและผลไม้จังหวัดราชบุรี เกษตรกรเป็นจำนวนมาก ได้นำผักมาขายแบบโล๊ะราคาด้วยตัวเอง เพื่อลดปัญหาการขาดทุนในช่วงการเพาะปลูก เนื่องจากราคาผักส่วนใหญ่ในตลาดศรีเมืองมีราคารับซื้อตกต่ำถึง 30 – 40 เปอร์เซ็นต์

 

โดยนายอาวุธ โกบุตร อายุ 36 ปี พ่อค้าผู้รับซื้อผักภายในตลาดศรีเมือง ได้เปิดเผยว่า ราคาผักในช่วงนี้ตกต่ำลง อย่างเช่นผักคะน้า ราคารับซื้อจะตกอยู่ที่ 7-8 บาท ราคารับซื้อหน้าสวนก็ต่ำอยู่แล้ว หน้าตลาดจะดันขึ้นสูงก็ไม่ได้ เพราะจำนวนผักผลิตออกมาเยอะ แต่ความต้องการของตลาดน้อยลง ด้วยปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ไม่ดี หรือผลกระทบสถานการณ์จากโควิด-19 ทำให้คนบริโภคน้อยลง ตลาดนัด ห้างร้าน ร้านอาหาร โรงแรม ลดการสั่งซื้อ จากเคยซื้อ 5 ถุง หรือ 50 กิโลกรัม เหลือ 1 ถุง หรือ 10 กิโลกรัม บางรายถึงกับงดซื้อไปเลยก็มี เป็นผลกระทบตามๆกันมา ซึ่งต้นทุนค่าใช้จ่ายการเพาะปลูก ของชาวสวนชาวไร่สูงมาก จึงทำให้ได้รับผลกระทบขาดทุนกันถ้วนหน้า ทุกวันนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ ขอแค่ขายให้ขาดทุนน้อยที่สุดก็พอ ซึ่งพ่อค้าก็พยายามจะช่วยชาวสวนชาวไร่ไม่ให้ขาดทุนมากไปกว่านี้ ส่วนเรื่องกำไรไม่ต้องพูดถึงเพราะราคาผักตกต่ำสุด

นายกฤช รังสิเสนา ณ อยุธยา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการตลาดศรีเมือง ได้เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ราคาผักในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ ช่วงที่ 2 ส่วนใหญ่แล้ว ราคาปรับตัวลงอยู่ประมาณ 30-40 % โดยมีสาเหตุมาจาก กำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ โรงแรมภัตตาคาร กำลังซื้อลดลง แต่กำลังผลิตยังเท่าเดิม หรือบางครั้งอาจจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากว่า มีคนตกงานจากวิกฤตโควิด-19 จึงหันกลับมาช่วยทางบ้านปลูกผักเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ผักคะน้า ราคาที่ควรจะเป็นควรจะมากกว่า 10 – 12 บาท ลดลงเหลือ 7 บาท ตระกูลกะหล่ำ ผักบุ้ง ลงอยู่ในเกณฑ์ 30- 60 %

ส่วนเกษตรกรที่ยังพออยู่ได้มีราคาดี จะเป็นพวกตระกูลพริก ยังได้ราคาดี พี่น้องเกษตรกรมีกำไร ส่วนตระกูลเห็ดราคาก็ลดลงประมาณ 30-40 % เช่นกัน เพราะฤดูกาลช่วงนี้เป็นช่วงฤดูแล้ง ผักต้องใช้น้ำน้อย เกษตรกรจึงหันมาปลูกพวกตระกูลกะหล่ำ ทำให้ผลผลิตออกมามาก แต่กำลังซื้อน้อย จึงทำให้ราคาตกต่ำลดลง แต่ราคาในแต่ละวันมีปรับขึ้นลงตลอด ส่วนผลกระทบอีกอย่างที่ทำให้ราคาผักลดลง คือกลุ่มเกษตรกรที่มาจากอยุธยา ข้ามตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไท มาส่งที่ตลาดศรีเมือง ทำให้ผักมีราคาปรับลงเพราะผักล้นตลาด เช่นผักบุ้ง ลดราคาลงมาจากประมาณ 10 กว่าบาท ตอนนี้เหลือประมาณสัก 6 บาท ลดลงประมาณ 50% อย่างนี้เป็นต้น

สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี

Loading