วันศุกร์, 22 พฤศจิกายน 2567

ผู้ประกอบการฟาร์มหมู”เรียกร้องเงินชดเชยฆ่าหมู”โรคระบาด”

ผู้ประกอบการฟาร์มหมูในจังหวัดลำพูน-เชียงใหม่ 193 ราย รวมตัวถือป้ายประท้วงเรียกร้องเงินชดเชยฆ่าหมูเพราะโรคระบาดกว่า152 ล้านบาทจ่ายไป 58 ล้านยังค้าง 93 ล้านบาทเศษหลังรอมากว่า 5 เดือน
เวลา 10.45 น.วันนี้ ( 19 มี.ค. 2564 ) ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดลำพูน ได้มีผู้ประกอบการฟาร์มหมู ในพื้นที่จังหวัดลำพูน จำนวน 193 ราย จากทั้งหมด 301 ราย รวมตัวถือป้ายประท้วงเรียกร้องเงินชดเชย กว่า 152 ล้านบาท แต่จ่ายไปแล้ว 58 ล้านบาทยังค้างอยู่ 93 ล้านบาท เวลาล่วงเลยมากว่า 5 เดือน ผู้ประกอบการฟาร์มหมูอีก 193 ราย ยังไม่ได้รับเงินชดเชย

นางสาวเขตสุดา สุริยาสัก อายุ 40 ปี ตัวแทนผู้ประกอบการกล่าวว่า สืบเนื่องจากช่วงเดือนกันยายน 2563 ได้เกิดโรคระบาดในหมู ชื่อไวรัสเพิร์ส ทำให้ทางปศุสัตว์ต้องกำจัดหมูของผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดลำพูน-จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ใกล้เคียง ทั้งรายเล็กรายใหญ่ โดยได้ทำการฆ่าหมูไปหลายหมื่นตัว พร้อมทั้งรับปากว่าจะจ่ายเงินชดเชยให้เร็วที่สุด โดยยอดเงินรวมที่จะต้องจ่ายซึ่งผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่มียอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้านและหลายล้านบาท รวม 301 ราย เป็นเงินทั้งหมด 152,400,705 บาท (หนึ่งร้อยห้าสิบสองล้านสี่แสนเจ็ดร้อยบาทถ้วน) แต่ทางกรมปศุสัตว์ได้จ่ายเงินไปให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู มาก่อนจำนวน 108 ราย เป็นยอดเงิน 58,458,060 บาท(ห้าสิบแปดล้านสี่แสนห้าหมื่นแปดพันหกสิบบาทถ้วน) ยังมีผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้รับเงินอีกจำนวน 193 ราย เป็นยอดเงิน 93,942,645 ล้านบาท(เก้าสิบสามล้านเก้าแสนสี่หมื่นสองพันหกร้อยสี่สิบห้าบาทถ้วน) ขณะนี้เวลาก็ล่วงเลยผ่านมากว่า 5 เดือนแล้ว ทั้งๆที่ช่วงแรกก่อนทำการกำจัดหมูไปฝังหลบเพื่อทำลายฆ่าเชื้อโรคป้องกันการะบาด บอกว่าภาครัฐจะชดเชยให้ไม่เกิน 1 เดือน แต่ผ่านมากว่า 5 เดือนก็ยังไม่ได้เลื่อนไปเลื่อนมาก็ไม่รู้ว่าติดขัดตรงไหน ทำให้ทุกคนเดือดร้อนไม่มีเงินทุนหมุนเวียน บางรายถึงกับโดนยึดรถ เพราะไม่มีเงินส่ง เดือดร้อนกันทุกราย จึงได้รวมตัวกันมาเรียกร้องดังกล่าว

ทางด้านนายอนุชา ศานติวิจัย ปศุสัตว์จังหวัดลำพูน ได้ออกมาชี้แจงกับผู้ประกอบการว่า ในวันอังคารที่ 23 มีนาคมนี้ ตนเองจะเดินทางไปประชุมเรื่องนี้ที่กรมปศุสัตว์ซึ่งในวันเดียวกันคงจะได้รับคำตอบว่าเกษตรกรจะได้รับเงินชดเชยวันไหน ซึ่งคาดว่าไม่เกินเดือนเมษายนนี้ เพราะเงินทั้งหมดได้ผ่านการอนุมัติจาก ครม.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และผ่านสำนักงบประมาณมาแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน นายอนุชากล่าว

Loading