เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครปฐม นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ประธานแม่บ้านมหาดไทย มอบสิ่งของอุปโภค บริโภค ให้แก่โรงพยาบาลนครปฐม โดยมี พระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ดร.สุดารัตน์ พงศ์อัมพรไกวัล วัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม นางชวนชม จันทะวงษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางกัญจนา สร้อยอินทรากุล ผู้ช่วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม นายอะมัด อายุเคน อิหม่ามประจำมัสยิดปากีสตาน จังหวัดนครปฐม และศาสนาจารย์วิรัตน์ เป็งกันทะ ศิษยาภิบาลคริสตจักรภาคที่ 11 จังหวัดนครปฐม และคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมกันมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค ให้แก่นายวีระเดช เฉลิมพลประภา ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลนครปฐม
เพื่อส่งต่อให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ในโรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลในพื้นที่ และกลุ่มเปราะบางในจังหวัดนครปฐม ซึ่งครอบคลุมทั้งเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ คนด้อยโอกาส เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เป็นการ ผนึกกำลังการบูรณาการขับเคลื่อนงานโครงการนครปฐมรวมน้ำใจ สู้ภัยโควิด – 19 และโครงการจิตอาสารวมใจเพื่อ คนทั้งมวล ภายใต้โครงการปันน้ำใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน และโครงการศาสนิกสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ประจำปี พ.ศ. 2564 เป็นการช่วยเหลือ เยียวยา ประชาชนในจังหวัดนครปฐม ให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเข้มแข็ง และปลอดภัย ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากสาเหตุโรคระบาดดังกล่าว ทั้งนี้ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงวัฒนธรรม
ในด้านการสนับสนุนช่วยเหลือศูนย์พักคอยในจังหวัดนครปฐม นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ พร้อมคณะฯ ได้นำสิ่งของอุปโภค บริโภค มาถวายแด่พระครูปุญญาภิสันท์ เจ้าคณะอำเภอบางเลน เจ้าอาวาสวัดบางไผ่นารถ และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดบางไผ่นารถ เพื่อนำสิ่งของมอบให้กับผู้กักตัว และให้นำไปใช้กับภารกิจที่ต้องดูแลผู้ที่เข้ารับการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 โดยในช่วงสถานการณ์ปกติได้เป็นสถานที่ให้ความรู้ในด้านพระพุทธศาสนา จัดตั้งเป็นศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ให้เป็นแหล่งอบรมปลูกฝังศีลธรรม วัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามแก่เด็กและเยาวชน จัดการศึกษาสงเคราะห์นอกระบบโรงเรียน โดยมีกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นเด็ก เยาวชน ที่กำลังอยู่ในวัยแห่งการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ให้ได้รับการพัฒนาจิตใจอย่างครบถ้วน และในช่วงสถานการณ์วิกฤตจากโรคระบาดดังกล่าว วัดบางไผ่นารถได้มีการจัดสถานที่ให้เป็นที่สงเคราะห์ บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ โดยจัดเป็นสถานที่กักตัว และรักษาผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ที่อาการไม่รุนแรง โดยมีบุคลาการทางแพทย์ทำการรักษาช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด วัดบางไผ่นารถเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือประชาชนในชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนได้รับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ทันท่วงที และกลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
ชนิดา พรหมผลิน
ผู้สื่อข่าวนิวส์รีพอร์ต รายงาน