วันอังคาร, 4 มีนาคม 2568

พะเยา- ชาวบ้านสุดทนร้องสื่อ ผู้รับเหมาสร้างสะพานใหม่ ทำทางเบี่ยงถนนผิวดวงจันทร์ รถพังแถมยังอ้อมไกลกว่า 30 กม.

พะเยา- ชาวบ้านสุดทนร้องสื่อ ผู้รับเหมาสร้างสะพานใหม่ ทำทางเบี่ยงถนนผิวดวงจันทร์ รถพังแถมยังอ้อมไกลกว่า 30 กม.

วันที่ 27 กันยายน 2564 เวล 09.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านปางมดแดง ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา หลังจากได้รับการร้องเรียนจากการใช้ถนนเส้นทางหลวงชนบท หมายเลข พย. 4033 เชียงคำ-จุน-ป่าแดด-เทิง-เชียงราย เนื่องจากได้มีบริษัทรับเหมาได้ทำการทุบสะพานข้ามลำน้ำอิง บ้านปางมดแดง-สักทุ่ง เมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ไม่ได้ดำเนินการทำการก่อสร้างสะพานดังกล่าวมากว่า 2 เดือน ซ้ำยังทำทางเบี่ยงซึ่งเดิมเป็นทางไปทำไร่ ทำนา ที่เต็มไปด้วยหลุม บ่อ น้ำท่วมขังเป็นจุดๆตลอดแนว ตลอดระยะทางไกลกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม อีกทั้งยังใช้ประตูระบายน้ำ ของของกรมชลประทานเป็นสะพานข้ามแม่น้ำอีกด้วย ที่สำคัญบริเวณที่ก่อสร้างก็ไม่มีป้ายโครงการปิดประกาศให้ชาวบ้านได้ทราบว่าหน่วยงานไหนรับผิดชอบ ผู้รับเหมาเป็นบริษัทใด รวมถึงระยะเวลาก่อสร้างและงบประมาณก็ไม่แจ้งแต่อย่างใด
นายสงกา ผลาปี ผู้ใหญ่บ้านปางมดแดง หมู่ 9 พร้อมชาวบ้านได้พาไปตรวจสอบเส้นทางดังกล่าวมีความกว้างเพียง 3-4 เมตร ซึ่งตลอดเส้นทางเป็นหลุมเป็นบ่อ บางที่มีน้ำหลากข้ามถนนชาวบ้านต่างช่วยกันซ่อมแซมกันเอง นายสงกา ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่ทุบสะพานทิ้งก็ไม่มีหน่วยงานไหนมาดำเนินการก่อสร้างสะพานดังกล่าวอีกเลย ทางเบี่ยงที่ชาวบ้านใช้สัญจรขณะนี้ก็เป็นเพียงทางเข้าไร่เข้านาของชาวบ้าน ปกติแล้วบริเวณนี้น้ำจะท่วมสูงกว่า 2-3 เมตร ทุกปี ซึ่งขณะนี้เป็นฤดูน้ำหลาก อีกไม่กี่อาทิตย์น้ำจะท่วมเส้นทางนี้หมด โดยตนเองทราบว่าโครงการนี้อาจใช้เวลาการก่อสร้างถึง 2 ปี จึงวอนขอให้ทางหน่วยงานหรือบริษัทที่รับผิดชอบช่วยสร้างสะพานเหล็กข้ามลำน้ำอิงให้ด้วย เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน รถกู้ภัย รถพยาบาลต้องนำคนไข้ส่ง รพ.เชียงราย ด้วยสภาพทางเบี่ยงเป็นหลุมบ่อ แคบ และอันตราย หรือการอ้อมในระยะทาง 20-30 กม. จากเส้นทางเดิม อาจจะทำให้คนป่วยเสียชีวิตได้

ด้าน นางธศวรรณ สักลอ อายุ 50 ปี 197/1 ม.10 บ้านสักทอง ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา อาชีพค้าขาย พร้อมชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจาการทุบสะพานข้ามลำน้ำอิง ที่ใช้เส้นทางนี้มานานกว่า 20 ปี โดยแต่ละวันต้องรับ-ส่ง สินค้า วันละ 3-4 เที่ยว และชาวบ้านที่ต้องส่งลูกเรียนไปโรงเรียนในพื้นที่อำเภอเชียงคำ ถือว่าเป็นระยะทางที่ใกล้ที่สุด เพียง16 กิโลเมตร แต่ขณะนี้ทางเบี่ยงก็ใช้ไม่ได้ ต้องใช้เส้นทางอื่นก็จะไกลถึง 30 กิโลเมตร นางธศวรรณ จึงทำการโทรสอบถามจากเบอร์โทรศัพท์ที่ปิดประกาศไว้ และได้คุยกับบริษัทผู้รับเหมาถึงปัญหาที่ชาวบ้านเดือดร้อน โดยวอนขอให้ทำการก่อสร้างสะพานเหล็กข้ามลำน้ำเพื่อให้สะดวกแก่การสัญจร ทางผู้รับเหมาได้ตอบมาว่า ทางบริษัทได้ใช้งบในการสร้างทางเบี่ยงไปหมดแล้วจึงไม่มีงบทำสะพานเหล็กให้อีก แต่ก็จะช่วยชาวบ้านแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเดินทางได้หากมีปัญหารถติดหลุม ติดโคลน ก็มีรถไถคอยบริการลากจูงให้ ส่วนสะพานเหล็กนั้น ทางบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องเช่ามาจากที่อื่นซึ่งจะเกินงบประมาณที่ตนได้รับจึงไม่สามารถสร้างสะพานเหล็กให้ได้ อีกทั้งสะพานเหล็กไม่สามารถรองรับน้ำหนักรถบรรทุกได้ นอกจาก รถเก๋ง รถกระบะ เท่านั้น ดังนั้นทางเบี่ยงที่ใช้การอ้อมไกลอีกนิดแต่สามารถรับน้ำหนักรถได้ดีกว่า ส่วนโครงการก่อสร้างสะพาน ตอนนี้ยังสร้างไม่ได้เนื่องจากเป็นฤดูน้ำหลาก มรสุมฝนตกจึงขอพักงานไว้ก่อน ส่วนทางที่โดนน้ำตัดขาด ทางบริษัทรับปากจะซ่อมแซมโดยด่วนภายในวันนี้ แต่เมื่อถามถึงชื่อบริษัทฯที่รับเหมางานก่อสร้างสะพาน ทางต้นปลายสายก็ตัดสายทิ้งทันที

สำหรับสะพานข้ามลำน้ำอิงที่ถูกรื้อเพื่อสร้างใหม่ เป็นเพียงจุดเดียวที่ใช้เป็นทางลัดจากชาวบ้านพื้นที่ อ.จุน อ.เชียงคำ จ.พะเยา เพื่อเข้าสู่ อ.ป่าแดด อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งจะทำให้ย่นระยะทางกว่า 20 กม. ลดเวลาเดินทางและค่าน้ำมันเชื้อเพลิงได้มาก ในขณะเดียวกันเมื่อมีการทุบสะพานทิ้งเพื่อสร้างใหม่ และทางเบี่ยงถูกปิด ชาวบ้านต้องหาทางอ้อมเพื่อข้ามฝั่งไปทาง จ.เชียงราย ต้องใช้เส้นทางอื่น ซึ่งใกล้สุดคือระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร จึงทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนจนทนไม่ไหวต้องร้องสื่อ เพื่อจะให้มีการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

(ภาพ/ข่าว สราวุธ ตั้งประเสริฐ พะเยา )

Loading