วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

นครพนม ยังเนืองแน่น! งานไหลเรือไฟคืนเพ็ญเต็มดวง ขึ้น 15 เดือน 11 สุดงดงามกลางสายน้ำ ประชาชนขอขมาลอยเคราะห์ไปกับเรือไฟโบราณ 12 ราศี

นครพนม ยังเนืองแน่น! งานไหลเรือไฟคืนเพ็ญเต็มดวง ขึ้น 15 เดือน 11 สุดงดงามกลางสายน้ำ ประชาชนขอขมาลอยเคราะห์ไปกับเรือไฟโบราณ 12 ราศี

วันที่ 21 ตุลาคม 2564 เวลา 18.00 น. บริเวณแลนด์มาร์คชื่อดังลานพญาศรีสัตตนาคราช ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานพิธีไหลเรือไฟประจำปี 2564 เทศกาลบุญออกพรรษา คืนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ระหว่างวันที่ 18-23 ตุลาคม โดยมีนายคมสิน ศรีมานะศักดิ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม กล่าวถึงความเป็นมาของเรือไฟโบราณที่มีมาแต่ครั้งบรรพชน จากนั้นพระสงฆ์ 9 รูปเจริญพระพุทธมนต์ ขณะที่นักท่องเที่ยวและประชาชนต่างหลั่งไหลเข้ามาในบริเวณที่ตั้งของเรือไฟโบราณ ซึ่งอยู่ติดกับลานพญาศรีสัตตนาคราช เพื่อร่วมในการขอขมาต่อแม่น้ำที่เคยล่วงเกิน ด้วยการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงไป ด้วยการตัดผม ตัดเล็บ เขียนชื่อ-นามสกุล ใส่ในเรือไฟตามปีนักษัตร 12 ราศี อีกทั้งเป็นการลอยเคราะห์ลอยโศก รับโชคลาภที่จะเกิดในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นคติความเชื่อของคนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ลุ่มน้ำ และได้ไปนั่งริมอัฒจันทร์ เพื่อรอชมเรือไฟโชว์จำนวน 3 ลำ ที่จะปล่อยจากจุดหน้าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานนครพนม พร้อมกับกระทงสายหรือไข่พญานาค จำนวน 12,000 ดวง ในเวลา 19.00 น.

โดยเรือไฟโชว์ในปีนี้มีขนาดความยาว 10 เมตร สูง 6 เมตร ซึ่งจากเดิมที่เคยสร้างยาว 100 เมตร สูง 15 เมตร เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ทางจังหวัดนครพนมจึงสร้างเรือไฟโชว์เพื่อสืบสานวัฒนธรรมที่เคยมีมาแต่ครั้งอดีต ถึงกระนั้นก็มีนักท่องเที่ยวหลายจังหวัด เดินทางเข้ามาชมความงามของเรือไฟที่เลื่องชื่อขจรไกลไปถึงต่างประเทศ ทำให้การจราจรติดขัดยาวเหยียด บางคนหอบเสื่อมาปูรอตั้งแต่เที่ยงวัน พร้อมนำข้าวปลาอาหารมาปรุงกันที่ริมอัฒจันทร์ เพราะเกรงจะพลาดการชมเรือไฟอันตระการตา และไม่ทำให้ผิดหวังเรือไฟโชว์ได้ล่องอยู่กลางสายน้ำท่ามกลางแสงจันทร์สาดส่องกระทบผืนน้ำ เป็นภาพที่ประทับใจจนสุดบรรยาย

ทั้งนี้ ผู้ที่เข้ามาในบริเวณงานไหลเรือไฟ ต้องผ่านการตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิ และสวมแมกส์ตลอดเวลา ที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มงานวันที่ 18 ตุลาคม ยังไม่พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด นอกจากนี้ฝ่ายรักษาความปลอดภัย มีทั้งตำรวจ ทหาร ปกครอง และ อส. ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ตรวจตราความเรียบร้อยตลอดเวลา
ประเพณีไหลเรือไฟของจังหวัดนครพนม สืบเนื่องมาแต่ครั้งเป็นศูนย์กลางอาณาจักรศรีโคตรบูร ซึ่งการดำรงตนของชาวนครพนม เป็นไปตามครรลองของความเชื่อ และของพระพุทธศาสนา เรียกว่าฮีตสิบสอง(จารีต 12 เดือน) คองสิบสี่ (แนวทางหรือครรลอง) ที่ชาวอีสานยึดถือปฏิบัติการมา เช่นฮีตเดือน 11 คือ บุญออกพรรษา หนึ่งในกิจกรรมนั้นก็มีการไหลเรือไฟ เพื่อบูชารอยพระพุทธบาท พญานาค และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่อยู่ในแม่น้ำโขง อีกทั้งขอขมาต่อแม่น้ำพร้อมลอยเคราะห์ลอยโศก โรคภัยไข้เจ็บ สิ่งอัปมงคลลอยหายไปกับสายน้ำแห่งนี้ และขอพรให้มีความสุขความเจริญตลอดไป

เทพพนม รายงาน

Loading