แม่ทัพภาคที่ 4 บินลงพื้นที่รับตัวผู้เห็นต่างที่อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส รายที 7 หลังหลบหนีนานกว่า 10 ปี ต้องการรายงานตัวเข้าร่วมโครงการโครงการพาคนกลับบ้าน เพื่อกลับมาอยู่กับครอบครัวและใช้ชีวิตอย่างปกติสุข
พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ ลงพื้นที่รับตัวนายฮารง แมเร๊าะ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 1 ตำบลลุโบ๊ะสาวอ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นผู้เห็นต่าง และหลบหนีออกจากพื้นที่กว่า 10 ปี มีหมายคดีความมั่นคงเกี่ยวกับวางระเบิดสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส โดยมีหมาย ป.วิอาญา ศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 575/2551 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2551 และอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีขู่บังคับและปล้นปืนลูกซอง 5 นัด ในพื้นที่ อ.บาเจาะอีก 2 คดี ทั้งนี้ หลังนางสาวนิสาบารียะห์ รายสาและ ภรรยาทราบข่าวการดำเนินโครงการตำบลประชารัฐสานใจ ร่วมแก้ไขปัญหาความรุนแรง ผ่านสื่อโทรทัศน์ จึงโทรศัพท์หาแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อให้มารับตัวในวันนี้
พลโท ปิยวัฒน์ กล่าวว่า ตั้งใจมารับเหมือนเดิม นายฮารง แมเร๊าะ ผู้กล้ามารายงานตัวเป็นคนที่ 7 แล้ว อยากบอกทุกคนที่เห็นต่างให้มาคุยกัน ไม่ต้องกลัวเรื่องกฎหมาย ซึ่งจะมีทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ค้ำประกันได้ ถ้าต้องใช้เงินก็มี ศอ.บต.เยียวยา รวมถึงมีทนายที่จะมาช่วยเรื่องกระบวนการยุติธรรม จะได้กลับมาอยู่บ้าน อยู่กลับครอบครัว ส่วนด้านคดีก็ว่าไป พร้อมนี้ขอเชิญชวนผู้เห็นต่าง ให้มาเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน มีงานให้ทำ อาทิ โครงการพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ทั้งนี้ พ่อแม่พี่น้องรออยู่ ครอบครัวได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ด้านนางสาวนิสาบารียะห์ รายสาและ กล่าวถึงความรู้สึกทั้งน้ำตาว่า รู้สึกใจที่สุดที่นำสามีออกมามอบตัวกับทางแม่ทัพภาคที่ 4 เนื่องจากตนและสามีต้องหลบๆซ่อนๆตัวยังประเทศมาเลเซียนานกว่า 10 ปี ต้องอดทนกรีดยางพาราต่างบ้านต่างเมือง ไม่กว้ากลับบ้านเนื่องจากเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย จากนี้ไปคงจะใช้ชีวิตได้อย่างอิสระทำมาหากินเลี้ยงลูก 2 คน อย่างปกติสุข และสร้างครอบครัวอีกต่อไป และขอขอบคุณทางแม่ทัพภาคที่ 4 ที่จัดโครงการดีๆและให้โอกาสตนและครอบครอวรวมทั้งคนอื่นๆอีกหลายก็พร้อมที่จะออกมามอบตัวหากมีความมั่นใจในชีวิตเช่นวันนี้.
ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ
