“เสมา 3 ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบาย ศธ.การจัดการศึกษาสำหรับผู้พิการในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางกนกวรรณ วิลาวัลย์) ณ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดกระบี่
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2564 ระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2564 ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) พร้อมด้วย นายกมล รอดคล้าย ที่ปรึกษา รมช.ศธ.,นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ,นายพะโยม ชิณวงศ์ ประธานคณะทำงาน รมช.ศธ.,นายสุทิน แก้วพนา รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ,นายประพัทธ์ รัตนอนุณ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (รองเลขาธิการ กช.)ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ
นางกนกวรรณ กล่าวว่า การขับเคลื่อนงานตามนโยบายการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ในการจัดการศึกษาสำหรับผู้พิการ เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงการศึกษาที่เหมาะสมและมีคุณภาพ โดยมีพื้นที่นำร่องในจังหวัดระนอง กระบี่ ตรัง ภูเก็ต พังงา และสตูล ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลในครั้งนี้ พบกลุ่มเป้าหมายผู้พิการที่มีความต้องการได้รับการศึกษา แต่ยังเข้าไม่ถึงโอกาสทางการศึกษา เนื่องจากสภาพปัญหา อุปสรรค ซึ่งสำนักงาน กศน. จังหวัดทั้ง 6 แห่ง จะได้รายงานผลการดำเนินงานให้ทราบในการประชุมครั้งนี้นั้น ตนคิดว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเนื่องจากเป็นเสียงสะท้อนมาจากผู้พิการโดยตรง โดยเฉพาะฐานข้อมูล “ระนองโมเดล” ที่จะนำเสนอในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ สามารถนำไปขยายผล เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการจัดการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้พิการในภาพรวมทั้งประเทศต่อไป
ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่กำกับดูแลสำนักงาน กศน.ตนได้ร่วมอภิปรายเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ ตามที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งเร็วๆ นี้ ที่ประชุมรัฐสภาลงมติรับหลักการแห่งร่างดังกล่าว ซึ่งต่อมาดิฉันได้ทำหน้าที่เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการในโควต้าของคณะรัฐมนตรี นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่จะเปลี่ยนบทบาทของสำนักงาน กศน. เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้รับการศึกษาตามความต้องการในระบบต่างๆ รวมถึงส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย นำไปสู่การพัฒนาประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน นางกนกวรรณ กล่าวทิ้งท้าย