นาย วีระชัย นาคมาศ (นาค-คะ-มาด)ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรมการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและการแก้ปัญหาสำคัญของพื้นที่
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมอโยธยา ชั้น 3 อาคาร 4 ชั้น ศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยก่อนเริ่มการประชุม นายวีระชัย นาคมาศ(นาค-คะ-มาด) ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล/ประกาศเกียรติคุณ/การมอบโล่ที่ระลึก ให้แก่ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ดีเด่น โครงการร้านอาหารวัตถุดิบปลอดภัยเลือกใช้สินค้า Q (Q Restaurant) ในขณะเดียวกันนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดพิธีติดเข็มกลัดริบบิ้นสีขาว ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด และมอบเข็มกลัดแก่หัวหน้าส่วนราชการทุกคน เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อันเป็นแบบอย่างในการไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย และไม่ทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ตามมติ ครม. เห็นชอบให้เดือนพฤศจิกายน ของทุกปีเป็น “เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี”
จากนั้น ได้แนะนำตัวหัวหน้าส่วนราชการที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่หรือเข้าประชุมครั้งแรก จำนวน 12 ท่าน ได้แก่ นายประทีป การมิตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายประพันธ์ ตรีบุบผา ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายธนรัฐ โคจรานนท์ สหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสาวพจนันท์ กองมาก ปฏิรูปที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายประจัญ จันทร์เนตร์ พัฒนาการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายธนภูมิ ชัยฤกษ์ จัดหางานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางจุไร ยอดระบำ ย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา นายธีรภัทร อินทร์ศวร ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาพระนครศรีอยุธยา นางสาวเนตรภัทร รัชนีกร หัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์พระนครศรีอยุธยา นายปรีดา บุญภา สรรพสามิตพื้นที่พระนครศรีอยุธยา 1 นายกฤษ แก้วทองหลาง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และนายชนะชัย สุนทรศารทูล ผู้อำนวยการสำนักงานจัดรูปที่ดินและจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 11
โดย นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรมการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 11/2564 โดยมี คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้นำองค์กรเอกชน เข้าร่วมประชุม พร้อมด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ ณ ที่ตั้ง ภายใต้มาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและการแก้ปัญหาสำคัญของพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประจำเดือนพฤศจิกายน 2564
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับผลการดำเนินงานและติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาลและการแก้ไขปัญหาสำคัญในพื้นที่ ประกอบด้วย นโยบายด้านเศรษฐกิจ เกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ด้านสังคมและความมั่นคง ในส่วนของการปฏิบัติที่สำคัญของศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัด และการจัดตั้งศูนย์ราชการสะดวก GECC จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอยุธยา ด้านสิ่งแวดล้อม ได้รายงานผลการขับเคลื่อนและความก้าวหน้าของนโยบายลดเลิกใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และการบริหารจัดการคัดแยกขยะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และด้านการบริหารจัดการ สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และการบริหารจัดการวัคซีนโควิด ตลอดจนการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ รวมทั้ง ประชาสัมพันธ์การจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” เพื่อเฉลิมฉลองครบ 3 ทศวรรษ ที่ UNESCO ประกาศให้อยุธยาเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในวันที่ 17-26 ธันวาคม 2564 ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โดยจะจัดกิจกรรมเดินรณรงค์การแต่งกายด้วยผ้าไทย/ผ้าพื้นเมือง ในวันที่ 3 ธันวาคม จัดงานวัน “รวมน้ำใจช่วยกาชาด” ที่ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจัดงานแถลงข่าว ณ วัดพระราม ในวันที่ 8 ธันวาคม ตามลำดับ รวมทั้ง จัดพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในวันที่ 13 ธันวาคม 2564
นายวีระชัย นาคมาศ กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันนี้ (29 พ.ย. 64) หลายพื้นที่ยังมีการระบาด โดยได้รับการรายงานพบสาเหตุจากการเดินทางไปทำงานข้ามจังหวัด จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเชิงรุก 3 มาตรการเร่งด่วน ได้แก่ 1.การฉีดวัคซีนเชิงรุก 2.การตรวจคัดกรองเชิงรุก และ 3.การกวดขันตรวจการดำเนินกิจการต่าง ๆ ที่อาจเป็นการสุ่มเสี่ยงให้เกิดการติดเชื้อในวงกว้าง โดยให้ดำรงมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อกำหนดขอบเขตของการแพร่ระบาด และหาสาเหตุของการติดเชื้อได้ จะทำให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดและลดจำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล หรือ Universal Prevention For COVID-19 ซึ่งหมายถึง การระมัดระวังป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลาของทุกคน 10 ข้อ อาทิ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร และหมั่นล้างมือ เป็นต้น
สุขุม แก้วกุดั่น อยุธยา