วันพฤหัสบดี, 26 ธันวาคม 2567

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 !!! ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม เพิ่มขวัญ กำลังใจ กำลังพล

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 !!! ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม เพิ่มขวัญ กำลังใจ กำลังพล

วันนี้ 22 ธ.ค.65 ที่ สภ.บางคนที จว.สมุทรสงคราม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามเพื่อตรวจเยี่ยมสภ.บางคนที ภ.จว.สมุทรสงคราม ที่ทำการมีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีจุดคัดกรองโรค มีหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ไว้บริการ มีที่จอดรถสำหรับประชาชนที่มาติดต่อราชการ ไว้เพียงพอพร้อมมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคจำพวกข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม จำนวน 20 ถุง มาม่า จำนวน 12 กล่อง น้ำตาล จำนวน 10 กิโลกรัมน้ำดื่ม จำนวน 20 แพ็ค กาแฟเบอร์ดี้ จำนวน 1 ลัง สปอนเซอร์ จำนวน 1 ลัง นมจืด จำนวน 2 ลัง น้ำปลา จำนวน 1 ลัง พัดลม 14 นิ้ว จำนวน 3 ตัว น้ำมะพร้าวโคโค่แม๊ค จำนวน 2 ลัง หน้ากากอนามัย จำนวน 500 อัน เจลแอลกอฮอล์ จำนวน 5 ลัง เชลไดร์ จำนวน 1 ลัง รองเท้าเตะ จำนวน 90 คู่ เพื่อบำรุงขวัญ กำลังใจ แก่ข้าราชการตำรวจ สภ.บางคนที
โดยมี พล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม พ.ต.อ.สุภัค วงษ์สวัสดิ์ ผกก.สภ.บางคนที นายวุฒิชัย ยามโคกสูง นายอำเภอบางคนที คณะ กต.ตร.สภ.บางคนที และข้าราชการตำรวจ สภ.บางคนที รอให้การต้อนรับการตรวจและเข้าร่วมในการประชุม

จากนั้น พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานในการประชุม ” ขับเคลื่อนการบริหารราชการตามนโยบายของผบ.ตร.ให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด สภ.บางคนที ” โดยได้กำชับให้ปฏิบัติ 1.นำนโยบายรัฐบาล วิสัยทัศน์ ผบ.ตร.”เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน” วิสัยทัศน์ตำรวจภูธรภาค 7 “ภักดีองค์ราชันมุ่งมั่นสร้างศรัทธา พัฒนาเป็นมืออาชีพ บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม นำสมัย เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา” และวิสัยทัศน์ ผบช.ภ.7 “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” ไปปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม 2.ต้องทำงานกันเป็นทีม ยึดมั่นในระเบียบวินัย บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน และดำรงตนอย่างมีเกียรติ 3.การทำงานต้องประกอบด้วย “หลักการทำงาน 4443″ 3.1″4 เกาะ” เกาะติดพื้นที่ เกาะติดประชาชน/มวลชน/และชุมชน เกาะติดคนร้ายหรือเกาะติดศัตรูของประชาชน และเกาะติดผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเกาะติดลูกน้อง 3.2 “4 ยก” ยกระดับองค์ความรู้ ยกระดับวิธีคิด ยกระดับวิธีการทำงาน และ ยกระดับการใช้ดุลพินิจ 3.3 “4 ทำ” ทำงาน ทำดี ทำบุญ และมีภาวะผู้นำ 3.4 “3 S” Smart Smile Strong 4.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติ และพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชา ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ คำสั่ง แบบแผนธรรมเนียมของทางราชการอย่างสม่ำเสมอโดยใกล้ชิด และสร้างขวัญกำลังใจ ความสามัคคี ภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริงตามคำสั่งกรมตำรวจ ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค. 2537 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ 5.กำชับการให้นำแนวทางยกระดับการให้บริการประชาชนในสถานีตำรวจ ตามนโยบาย ผบ.ตร. มาพัฒนายกระดับการบริการประชาชนในสถานีตำรวจ 6.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การกระทำความผิดใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์ การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพันกับการกระทำความผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางวินัย คดีอาญาและปกครองอย่างถึงที่สุด 7.กำชับให้มีการฝึกทบทวนทางยุทธวิธีทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวนเป็นประจำสม่ำเสมอ ให้เกิดความคุ้นชินเมื่อต้องปฏิบัติ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่เพื่อนพี่น้องข้าราชการตำรวจ 8.กรณีประชาชนร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนรำคาญ จากการแข่งรถในทาง สถานบันเทิงเปิดเพลงเสียงดัง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใส่ใจที่จะแก้ปัญหาการร้องเรียนดังกล่าว อย่าปล่อยปละละเลย จนเกิดการร้องเรียนซ้ำซาก และอย่าให้มีการนำเสนอข่าวว่า “ตำรวจไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน” 9.ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ เป็นภารกิจเร่งด่วนของ ผบ.ตร.ให้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรูปแบบต่าง ๆ ให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อ หากพบการกระทำความผิดดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้ถึงที่สุด 10.ปัญหายาเสพติดเป็นภารกิจเร่งด่วนของ ผบ.ตร. มุ่งเน้นใช้วิธีการบำบัดยาเสพติดต่อผู้เสพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคมตามนโยบายรัฐบาล โดยปฏิบัติการเชิงรุกซักถามถึงแหล่งที่มาและเครือข่าย เพื่อจัดทำฐานข้อมูลในการติดตามจับกุมและขยายผลต่อไป 11.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสายงาน สำรวจจัดทำข้อมูลบุคคลในพื้นที่ที่มีอาการทางจิต และมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมประสานความร่วมมือหน่วยงานอื่น เฝ้าระวังบุคคลเหล่านี้ มิให้ก่อเหตุอาชญากรรม 12.ให้หัวหน้าสถานีมีการตรวจคลังอาวุธและเรียกตรวจสอบอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่เบิกไปใช้เป็นระยะ เพื่อมิให้เกิดการนำเอาอาวุธปืนหลวง ไปขาย หรือจำนำ หรือตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น ก่อเหตุอาชญากรรม 13.เน้นย้ำให้มีความรักความสามัคคีในองค์กร หมู่คณะ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง 14.เพิ่มความเข้มในการระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงปีใหม่ ระหว่างวันที่ 20 – 29 ธ.ค. 65 ตามที่ ตร.ได้สั่งการ 15.ให้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และจุดบริการประชาชน เพื่อป้องกันอาชญากรรม ระงับเหตุได้ทันท่วงที และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน 16.ให้เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางของประชาชน ประชาสัมพันธ์ เตรียมเส้นทางสายหลัก สายรอง และมีชุดแก้ปัญหาวิกฤติจราจร ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชม. เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา

จากนั้น พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้ประดับยศแก่ข้าราชการตำรวจ สภ.บางคนที ซึ่งได้รับพระราชทานยศตำรวจชั้นสัญญาบัตรจำนวน 3 นาย เพื่อเป็นเกียรติ และบำรุงขวัญกำลังใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา และได้เดินเยี่ยมชมห้องเก็บอาวุธปืนของ สภ.บางคนที พร้อมได้สั่งการให้นำนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการเก็บรักษาและการเบิกใช้อาวุธปืนของทางราชการไปเป็นแนวทางในการปรับปรุงห้องเก็บอาวุธปืนมาปรับปรุงพัฒนา เพื่อควบคุมการเบิกจ่าย และรักษาความปลอดภัยภายในห้องเก็บรักษาอาวุธปืนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ
ณ.สภ.บางคนที ต.บางคนที อ.บางคนที จว.สมุทรสงคราม

Loading