วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

นครปฐม หลวงปู่พุทธอิสระมอบหมายให้ผู้แทนยื่นหนังสือต่อสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

นครปฐม หลวงปู่พุทธอิสระ ได้มอบหมายให้ผู้แทน เข้ายืนหนังสือต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้เร่งดำเนินการสอบสวนและเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง กรณีเสนอชื่อนายไชยบูลย์ สุทธิล ซึ่งไม่ใช่พระภิกษุ ขึ้นกราบบังคมทูลเกล้าให้ได้รับสมณศักดิ์เป็น พระเทพญาณมหามุนี เมื่อปี 2554

วันนี้ ( 19 พ.ค.60 ) ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม นายมหัศจักร โสดี ผู้แทนพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือหลวงปู่พุทธอิสระ ผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย ตำบลห้วยขวาง อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยทนายความและคณะศิษยานุศิษย์ รวมกว่า 40 คน เดินทางมายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งได้มอบหมายให้ นายประดับ โพธิกาญจนวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธมณฑล ออกมาเป็นผู้รับ เพื่อให้ติดตามผลการสอบสวนและดำเนินการเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง กรณีเสนอชื่อนายไชยบูลย์ สุทธิล ซึ่งไม่ใช่พระภิกษุ ขึ้นกราบบังคมทูลเกล้าให้ได้รับสมณศักดิ์เป็น พระเทพญาณมหามุนี เมื่อปี 2554

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ นายไชยบูลย์ สุทธิล หรือพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ต้องคำวินิจฉัยของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาปรินายก ฉบับลงวันที่ 26 เมษายน 2542 ว่า ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา เหตุได้เบียดบัง ยักยอกทรัพย์สินของวัดพระธรรมกายไปเป็นของตน แต่กลับมีผู้รู้เห็นร่วมกันนำชื่อนายไชยบูลย์ สุทธิล ขึ้นกราบบังคมทูลเกล้าถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอรับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระเทพญาณมหามุนี ดังนั้นการกระทำดังกล่าว จึงถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนา ราชการ พุทธศาสนิกชนและสำนักพระราชวัง

ดังนั้น จึงขอให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องโดยเร็ว และขอให้ดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงทางด้านของหลวงปู่พุทธอิสระด้วย หากพบการกระทำผิด ก็ขอให้มีการดำเนินคดีเช่นเดียวกัน ทางด้าน นายประดับ โพธิกาญจนวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธมณฑล กล่าวต่อว่า เอกสารดังกล่าว จะได้นำเสนอต่อผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อให้พิจารณาและดำเนินกาต่อไป และเชื่อว่าจะไม่มีการเลือกปฏิบัติ ทุกรูปคนในประเทศไทย จะต้องปฏิบัติตามข้อกฎหมายเดียวกัน

 

Loading