วันอาทิตย์, 24 พฤศจิกายน 2567

จัดโครงการส่งเสริมสถาบันครอบครัว”รักล้นใจ เมืองอุตรดิตถ์”เนื่องในวันวาเลนไทน์

อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จัดโครงการส่งเสริมสถาบันครอบครัว”รักล้นใจ เมืองอุตรดิตถ์”เนื่องในวันวาเลนไทน์

เมื่อเวลา 10.19 น.ของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ นายสมหวังพ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ นางวันทนา พ่วงบางโพ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุตรดิตถ์ เดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมสถาบันครอบครัว”รักล้นใจ เมืองอุตรดิตถ์”เนื่องในวันวาเลนไทน์
โดยมี นายทัศนัย สุธาพจน์ ปลัดจังหวัดอุตรดิตถ์ นางประพิมพ์ เดชายนต์บัญชา รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุตรดิตถ์ นายนิมิต เมืองเปี้ย ปลัดอาวุโสอำเภอเมือง นางวริยาภรณ์ ขวัญวงศ์ ปลัดอำเภอเมือง นายไพฑูรย์ พรหมน้อย อดีต นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดอุตรดิตถ์ นายสมศักดิ์ สุทะตั้ง นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่ล้านจังหวัดอุตรดิตถ์พร้อมหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอและคู่รักที่เดินทางมาจดทะเบียนสมรส 75 คู่ ในวันนี้มีคู่รักที่อาวุโสเดินทางมาจดทะเบียนสมรสกันคือ นายบรรพตพลประเสริฐ อายุ 61 ปีและนางสมจิต เปล่งแสง อายุ 65 ปี ซึ่งทางนายบรรพตได้เปิดเผยว่าตนได้ไปทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านและพบนางสมจิตอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวและคบหากันอยู่กันกันมาเกือบ 42 ปี

ในวันนี้จึงได้เดินทางมาจดทะเบียนสมรสกัน สำหรับการจัดกิจกรรมในวันนี้ถือเป็นมงคลยิ่งของการจดทะเบียนสมรสในครั้งนี้เนื่องในวันแห่งความรักในวันนี้ตามโครงการส่งเสริมสถาบันครอบครัว “รักล้นใจ เมืองอุตรดิตถ์”ประจำปี พ.ศ.2566 ซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตของคนทั้งสอง เพราะจากวันนี้เป็นต้นไปทั้งสองจะต้องถือว่าได้ เป็นบุคคลคนเดียวกันแล้ว โดยสมบูรณ์ตามกฎหมาย ปัจจุบันนี้คำว่าเพื่อนเป็นเพื่อนตายดูออกจะหายาก แต่ถ้าเราจะมองกันให้ลึกซึ้ง และเข้าใจซึ่งกันและกันเป็นอย่างดีแล้ว จะพบว่าบุคคลที่สามารถจะเป็นเพื่อนตายกันได้เป็นอย่างดี ก็คือ สามีและภรรยาที่มีความเข้าใจอันดีต่อกันนั่นเอง ความรักความเข้าใจอันดีระหว่างคุณทั้งสองได้บรรลุสู่จุดมุ่งหมายแล้ว นั่นคือการได้จดทะเบียนสมรสในวันนี้ ถึงแม้วันเวลาจะล่วงเลยจากวันนี้ไปอีกสักกี่ปีก็ตาม ขอให้ทุกคู่จงรักใคร่ ถนอมน้ำใจ เอาใจใส่ซึ่งกันและ”เหมือนเช่นขณะที่เริ่มมีความรักต่อกันเช่นนี้ตลอดไป ฝ่ายหญิงก็อย่าถือตนว่าบัดนี้เธอเป็นสามีของฉันแล้วเธอจะต้องเชื่อฟังและ ปฏิบัติตามคำพูดของฉันเสมอ หากฝ่ายหญิงคนใดคิดเช่นนี้แล้ว ก็มักจะได้ความผิดหวังและเสียใจเสมอ เพราะแทนที่ สามีจะเชื่อและปฏิบัติตามกลับตรงกันข้าม คือ มีความรู้สึกเหมือนกับว่า การแต่งงานของเขานั้น

เป็นเครื่องพันธนาการอันน่าเบื่อหน่าย ผู้ชายเราก็มักจะตายด้วยความอ่อนหวานน่ารักความเอาอกเอาใจของภรรยา ส่วนฝ่ายสามีก็อย่าได้ถือว่าเอาละตอนนี้เธอเป็นเมียฉันแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาอกเอาใจกันอีกต่อไปแล้ว เพราะถึงยัง ๆ เธอก็เป็นของตาย ของฉันวันยังค่ำ หากสามีคนไหนคิดเช่นนี้คงได้รับบทเรียนที่น่าเสียใจไปตลอดชีวิตเข้าสักวันหนึ่งจนได้ คือ ถูกภรรยาทิ้ง ถ้าสามีคนใดต้องการ ได้รับความอ่อนหวานต้องการการปรนนิบัติเอาใจใส่จากภรรยาอย่างจริงใจแล้วต้อง หมั่นจีบเธอ คล้ายกับเมื่อครั้งรักกันใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะธาตุแท้ ของผู้หญิงนั้นต้องการที่จะได้คำหวานคำชมจากสามีหรือคนรักอยู่ตลอดเวลา โดยไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเลย เพราะความรักเป็นสิ่งที่มีชีวิตและวิญญาณ คู่สมรสต้องหมั่นทำนุบำรุงรักษาสม่ำเสมอทุกวัน ต้นรักจึงจะเจริญงอกงามแผ่ขยายกิ่งก้านสาขา ผลิดอกออกผล เป็นที่น่าปลาบปลื้มใจตลอดไป


ณัฐวัฒน์ ราชประสิทธิ์ ภาพ/ข่าวอุตรดิตถ์

 

Loading