ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 และคณะแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 ตรวจเยี่ยมเพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจตามโครงการ “ ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน ”
วันนี้ 14 ก.ค.66 ที่สถานีตำรวจภูธรสามกระทาย จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย คุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 คุณกิ่งฟ้า ม่วงศิริ รองประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค7 นางนวรัตน์ ชมภูนุช ผู้แทนประธานแม่บ้านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นางพิมพ์ณพัช โห้ใย ผู้แทนประธานแม่บ้านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และคณะแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางลงพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสามกระทาย ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภคจำพวก ถุงบำรุงขวัญ 20 ถุง น้ำดื่ม 20 แพ็ค ข้าวสารถุงละ 5 ก.ก. 20 ถุง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 5 ลัง เบอร์ดี้ซอง 4 ห่อ ทิชชู 1 แพค น้ำมันพืช 1 ลัง สปอนเซอร์ 1 ลัง อิชิตัน 1 ลัง ขนมดิวเบอร์รี่ 5 กล่อง ปลากระป๋อง 1 ลัง กาแฟกระป๋อง 1 ถาด รองเท้าแตะผู้ชาย 40 คู่ รองเท้าแตะผู้หญิง 30 คู่ รองเท้าแตะเด็ก 20 คู่ พัดลม 16 นิ้ว 3 ตัว พร้อมมอบเงินช่วยเหลือชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 แก่ครอบครัวร.ต.ต.วิรัตน์ รูปสังข์ ซึ่งมีบุคคลในครอบครัวป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ และ ส.ต.อ.มงคล สวนเกิด ซึ่งมีบุคคลในครอบครัวป่วยติดเตียง ตามโครงการ “ ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน ” เพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจภูธรสามกระทาย จากนั้น พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้เดินตรวจเยี่ยมที่ทำการ สภ.สามกระทาย และประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมคณะแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 ได้เดินตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญครอบครัวข้าราชการตำรวจที่พักอาศัยบริเวณบ้านพักหลังสถานีตำรวจภูธรสามกระทาย
หลังจากนั้น พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานในการประชุม “ เร่งรัดติดตาม ขับเคลื่อน การบริหารราชการ และขับเคลื่อนการยกระดับการบริการประชาชนของสถานีตำรวจ ตามนโยบายของ ผบ.ตร.“ ให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด สภ.สามกระทาย
โดยมี พ.ต.อ.กิตติภพ ชมพูนุช รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.พิธี อินทร์น้อย สวญ.สภ.สามกระทาย คณะ กต.ตร.สภ.สามกระทาย และข้าราชการตำรวจ สภ.สามกระทาย รอรับการตรวจและเข้าร่วมการประชุม
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวในที่ประชุมโดยได้กำชับให้ปฏิบัติดังนี้ 1.นำนโยบายรัฐบาล วิสัยทัศน์ ผบ.ตร. “เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน” วิสัยทัศน์ตำรวจภูธรภาค 7 “ภักดีองค์ราชันมุ่งมั่นสร้างศรัทธา พัฒนาเป็นมืออาชีพ บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม นำสมัย เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา” และวิสัยทัศน์ ผบช.ภ.7 “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” ไปปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม 2.ต้องทำงานกันเป็นทีม ยึดมั่นในระเบียบวินัย บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน และดำรงตนอย่างมีเกียรติ 3.การทำงานต้องประกอบด้วย “หลักการทำงาน 4443” 3.1 “4 เกาะ” เกาะติดพื้นที่ เกาะติดประชาชน/มวลชน/และชุมชน เกาะติดคนร้ายหรือเกาะติดศัตรูของประชาชน และเกาะติดผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเกาะติดลูกน้อง 3.2 “4 ยก” ยกระดับองค์ความรู้ ยกระดับวิธีคิด ยกระดับวิธีการทำงาน และ ยกระดับการใช้ดุลพินิจ 3.3 “4 ทำ” ทำงาน ทำดี ทำบุญ และมีภาวะผู้นำ 3.4 “3 S” Smart Smile Strong 4.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติ และพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชา ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ คำสั่ง แบบแผนธรรมเนียมของทางราชการอย่างสม่ำเสมอโดยใกล้ชิด และสร้างขวัญกำลังใจ ความสามัคคี ภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริงตามคำสั่งกรมตำรวจ ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค. 2537 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ 5.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การกระทำความผิดใด ๆ
ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์ การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพันกับการกระทำความผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางวินัย คดีอาญาและปกครองอย่างถึงที่สุด 6.กำชับให้มีการฝึกทบทวนทางยุทธวิธีทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวนเป็นประจำสม่ำเสมอ ให้เกิดความคุ้นชินเมื่อต้องปฏิบัติ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่เพื่อนพี่น้องข้าราชการตำรวจ 7.ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ เป็นภารกิจเร่งด่วนของผบ.ตร. ให้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรูปแบบต่าง ๆ ให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อ หากพบการกระทำความผิดดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้ถึงที่สุด 8.ปัญหายาเสพติดเป็นภารกิจเร่งด่วนของ ผบ.ตร. มุ่งเน้นใช้วิธีการบำบัดยาเสพติดต่อผู้เสพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคมตามนโยบายรัฐบาล โดยปฏิบัติการเชิงรุกซักถามถึงแหล่งที่มาและเครือข่าย เพื่อจัดทำฐานข้อมูลในการติดตามจับกุมและขยายผลต่อไป 9.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นมีความเข้าถึงและใส่ใจในความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัว อย่างใกล้ชิด คอยช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สิน ความเป็นอยู่ อย่าปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องเคว้งคว้างเผชิญปัญหาเพียงผู้เดียว 10.ให้ผู้บังคับบัญชาเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านงานในหน้าที่ ด้านการใช้ชีวิต การครองตนให้อยู่ในศีลธรรมอันดี 11.กำชับความรักความสามัคคีในหมู่คณะ ทำงานเป็นทีม(Teamworks) เคารพซึ่งกันและกันระหว่างรุ่นพี่ รุ่นน้อง โดยให้ยึดหลักการครองตน ครองคน และ ครองงาน ณ.สถานีตำรวจภูธร สามกระทาย ตำบล สามกระทาย อำเภอ กุยบุรี จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์