เดอะโอ๋ !!! ประธานประชุมบริหารราชการ ภ.7 ครั้งที่ 8 / 2566 สั่งการเน้นย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติตาม ทั้ง 8 จังหวัด 104 สถานี
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ 9 สิงหาคม 2566 ที่ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารตำรวจภูธรภาค 7 จว.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานในการประชุม บริหารราชการ ภ.7 ครั้งที่ 8 / 2566 โดยมี พล.ต.ท.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผทค.พิเศษ ตร.รรท.รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ท.วรายุทธ สุขวัฒน์ผทค.พิเศษ ตร.รรท.รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พร้อม พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พล.ต.ต.จักษ์ จิตตธรรม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7 พล.ต.ต.นรเศรษฐ์ สุวรรณนิกขะ ผบก.กค.ภ.7 พล.ต.ต.กฤษณะ สุขสมบูรณ์ ผบก.อก.ภ.7 และรอง ผบก.ภ.จว.ทั้ง 8 จังหวัด ผกก.หัวหน้าสถานีทั้ง 104 สถานี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยก่อนการประชุม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้จัดพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณ ด้านงานป้องกันปราบปราม และ ด้านการสืบสวน กรณีพิเศษ พร้อมเงินรางวัล ประจำเดือน กรกฎาคม 2566 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ เจ้าหน้าที่ สภ.นครชัยศรี และ สภ.เมืองสมุทรสาคร
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวในที่ประชุมโดยได้สั่งการเน้นย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติ 1.พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 กำหนดให้ความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียวตาม พ.ร.บ.ต่างๆ (ตามบัญชีท้ายจำนวน 168 พ.ร.บ.) จะไม่ใช่โทษปรับทางอาญา แต่ต้องดำเนินการปรับทางพินัย โดยมีผลในวันที่ 25 ต.ค.2566 เป็นต้นไป โดยให้ บก.กค.ภ.7 ประสานกับ กมค. เพื่อเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับแนวปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย ทั้งเรื่องระเบียบ ประกาศ แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง คู่มือ แนวทางการปฏิบัติต่างๆ เช่น ขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหา การออกคำสั่งปรับ การปรับ การทำสำนวนคดีพินัย และให้เตรียมจัดทำแผนการอบรมให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่และ พงส. เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามกฎหมาย 2.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ควบคุม กำกับ ดูแล ประชุมชี้แจงการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ให้มีความเข้าใจในข้อกฎหมาย และขั้นตอนการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 โดยให้ถือตามแนวทางที่กำหนดในหนังสือสั่งการของ ตร. อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะประเด็น การแจ้งเรื่องการควบคุมตัว ไปยังพนักงานอัยการและฝ่ายปกครองตาม มาตรา 22 วรรคสอง ให้ดำเนินการผ่านระบบการรับแจ้งการควบคุมตัว ของกรมการปกครอง 3.ให้ทุก สภ./กก.เตรียมข้อมูลกำลังพลทุกนายในหน่วยที่มีสิทธิได้รับเครื่องแบบ และทำการวัดตัวให้เรียบร้อยทุกนายเมื่อ สกบ.แจกจ่ายผ้า และ สงป.จัดสรรงบประมาณลงไป จะได้ดำเนินการตัดเครื่องแบบได้ทันที ภายใน ก.ย.66 ทั้งนี้ ให้ทุกหน่วยถือปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย ว่าด้วยการจัดซื้อจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ 4.เน้นย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติหน้าที่ในการตั้งจุดตรวจ ตามแนวทางที่ ตร. กำหนดโดยเคร่งครัด (ตามหนังสือ ตร.ที่ 0007.22/438 ลง 2 ก.พ.66) และให้จัดทำ Checklist ด้านวัสดุ อุปกรณ์ และขั้นตอนการปฏิบัติในการตั้งจุดตรวจ เพื่อตรวจทานก่อนการตั้งจุดตรวจทุกครั้ง กำชับการใช้วาจาสุภาพ เป็นมิตรกับประชาชน เน้นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี อธิบายให้เข้าใจถึงขั้นตอนการปฏิบัติ ที่มาของอำนาจหน้าที่ สามารถตอบข้อซักถามต่างๆ ได้ กรณีมีประชาชนมาถ่ายคลิปหรือไลฟ์สด ให้หัวหน้าจุดตรวจเข้าไปอธิบาย ประชาสัมพันธ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบทันที ห้ามแสดงกิริยา ในลักษณะไม่เหมาะสม เช่น เดินหลบหนี ปิดป้ายชื่อ ใช้มือปัดมือถือ หรือบ่ายเบี่ยงการตอบคำถาม อันเป็นลักษณะของการสร้างความไม่เชื่อมั่นแก่ประชาชน และให้แจ้งผู้ถ่ายคลิปว่าการนำข้อมูลไปเผยแพร่ในทางที่ไม่เหมาะสม เกิดความเสียหาย อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการหมิ่นประมาท และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 5.ตามที่ ตร.ได้มีหนังสือสั่งการ ที่ 0007.22/2536 ลง 30 มิ.ย.2566 ให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรม อาชญากรรมทางเทคโนโลยี และบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก ห้วง 1 ก.ค.66 –30 ก.ย.66 ผลการปฏิบัติในภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี แต่การจับกุมความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้า และซิมม้า ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ปี 2566 ยังมีจำนวนน้อย โดยภาพรวมของระดับตร. จำนวน 128 ราย ซึ่งภ.7ยังไม่มีผลการจับกุมเลย ขอให้เพิ่มความเข้มข้นการกวดขันจับกุมความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้า และซิมม้า ให้ ผบก.ทุก บก./ภ.จว. แถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมฯ รวมถึงผลการจับกุมบัญชีม้าและซิมม้าของหน่วยงาน เป็นประจำทุกสัปดาห์ และ ผบช.ภ.7 จะแถลงข่าวประชาสัมพันธ์ผลการระดมฯ เป็นประจำทุกเดือน โดยให้ทุกหน่วย เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ ข้อกฎหมายให้ประชาชนรับทราบถึง อัตราโทษ และผลร้ายของการเปิดบัญชีม้า ซิมม้า ควบคู่กับการแถลงข่าวด้วย 6.ด้วยปรากฏว่าในปัจจุบัน มีการนำรถที่ติดตั้งไฟสัญญาณวับวาบโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ถูกต้องตามระเบียบมาใช้ในทางจำนวนมาก จึงให้กวดขันจับกุมรถที่ใช้ไฟวับวาบโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือติดตั้งโดยไม่ถูกกฎหมาย และเน้นประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ทราบแนวทางการขออนุญาตที่ถูกต้อง 7. สืบเนื่องจากสถานการณ์การเมืองในช่วงนี้ ซึ่งอาจมีการเคลื่อนไหวด้านกิจกรรมทางการเมือง หรือกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ จึงกำชับให้ทุกหน่วย ติดตาม สืบสวน หาข่าว และเฝ้าระวังในพื้นที่ทุกช่องทาง เพื่อประเมินสถานการณ์ กำหนดแผนการปฏิบัติของหน่วย และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบในการหลีกเลี่ยงเส้นทางการชุมนุม 8.เรื่องงานจราจรยังพบว่ามีอุบัติเหตุใหญ่อยู่บ่อยครั้ง ให้ผู้รับผิดชอบงานจราจรของหน่วยนำข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่จุดซ้ำๆ มาวิเคราะห์นำไปหารือ เสนอแนะ ในการประชุมศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน อบถ. ระดับ อำเภอ และ จังหวัด เพื่อหาทางแก้ไข หรือกำหนดมาตรการต่าง ๆ 9.กำชับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญา กรรมและบังคับใช้กฎหมายห้วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณพุทธศักราช 2566 ในส่วนมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมกำหนดให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมายห้วงไตรมาสสุดท้ายของ ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยมีเป้าหมาย เช่น ความผิดเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน และการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ในห้วงระยะเวลาที่เหลือขอให้ร่วมกันสืบสวนปราบปรามกวาดล้าง และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อไป
เพื่อให้ความรุนแรงของอาชญากรรมและการกระทำผิดกฎหมายลดลง ในห้วงที่ผ่านมาพบการกระทำผิดเกี่ยวกับสถานบริการบ่อยครั้ง ทั้งเปิดบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต เปิดเกินเวลา ยินยอมให้เด็กและเยาวชนเข้าไปใช้บริการ ปล่อยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และพกพาอาวุธปืน กำชับให้ทุกพื้นที่บังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัดอย่าให้บกพร่องอีกเด็ดขาด 10.รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทางของเด็กและเยาวชน โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการขับเคลื่อนการป้องกันปราบปราม และบังคับใช้กฎหมายผ่านศูนย์ป้องกัน และปราบปรามการแข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องใน 4 มาตรการหลัก ได้แก่ 1. มาตรการก่อนเกิดเหตุ 2. มาตรการขณะเกิดเหตุ 3. มาตรการสอบสวนขยายผลและ 4. มาตรการเฝ้าระวังปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จึงให้ทุกหน่วยดำเนินการดังนี้ ระดมกวาดล้างจับกุม และเพิ่มความเข้มในการปราบปรามการแข่งรถในทางการ ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น การรวมกลุ่มหรือมั่วสุ่มในลักษณะหรือโดยพฤติการณ์ที่น่าจะเป็นการนำไปสู่การแข่งรถในทาง เร่งรัดตรวจสอบและเพิ่มความเข้มในการระดมกวาดล้างจับกลุ่มการกระทำความผิดทุกช่องทางทั้ง Online และ OnGround เช่น คลิปการแข่งรถ การขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ร้านค้าออนไลน์ เป็นต้น จุดนัดหมาย ร้านจำหน่ายอะไหล่ดัดแปลงสภาพ ร้านแต่งซิ่ง โรงงานและร้านท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐาน ดำเนินการตามกฎหมายกับตัวการ และสอบสวนขยายผลไปยังผู้สนับสนุนผู้ผลิต จำหน่าย ประกอบดัดแปลง ยุยงส่งเสริม Admin เพจ และกองเชียร์กรณีมีการชักชวนรวมกลุ่มแข่งรถในทาง หรือออกที่ท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุดราชการ และวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเดือนกรกฎาคม ถึง สิงหาคม 2566 ให้ดำเนินมาตรการตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด ตั้งแต่พื้นที่ต้นทาง พื้นที่กลางทาง พื้นที่ปลายทาง ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อกวดขันวินัยจราจร ตรวจสอบป้องกันปราบปราม และติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็วหากเกี่ยวข้องในหลายพื้นที่
ให้บูรณาการข้อมูล และการปฏิบัติระหว่างพื้นที่อย่างต่อเนื่องแสวงหาความร่วมมือ ข้อมูล และเบาะแสจากเครือข่ายภาคประชาชนในทุกช่องทาง ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชน กรณีผู้ให้ข้อมูลหรือเบาะแสที่สามารถนำไปสู่การจับกุมจะได้รับค่าตอบแทน จำนวน 3,000 บาท โดยสามารถแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสผ่านศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 สายด่วน 1599 และ ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.11.ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งให้ทุกหน่วยดำเนินโครงการ Stop Walk and talk หรือแนวทางหยุดเดินพูดคุยกับประชาชน เพื่อรับทราบข้อมูล ข่าวสาร ปัญหา และข้อเสนอแนะจากประชาชน กระตุ้นให้เกิดการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในระดับสถานีตำรวจที่มีประสิทธิภาพส่งผลต่อความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน และสังคมโดยปัจจุบันให้มีการบันทึกผลการปฏิบัติลงใน Application Police 4.0 ในหัวข้อตรวจเยี่ยมประชาชนนั้น จากการตรวจสอบพบปัญหาในการปฏิบัติ เช่น มีการลงข้อมูลและรายละเอียดในการตรวจเยี่ยมประชาชนไม่ครบถ้วน ข้อมูลที่บันทึกไม่มีคุณภาพ เช่น ไม่มีรูปถ่ายข้อมูลไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หรือบางแห่งเน้นแต่จำนวนไม่เน้นคุณภาพ
จึงกำชับให้ดำเนินการ Stop Walk and talk เพื่อสร้างความสัมพันธ์และสร้างความจริงใจในการเข้าไปช่วยเหลือรับทราบปัญหา และสร้างความรู้สึกปลอดภัยให้เกิดกับประชาชน ทั้งนี้ในการบันทึกข้อมูล ให้บันทึกข้อมูลที่มีคุณภาพสามารถนำไปใช้ประโยชน์เชิงรุกต่อไปได้ 12.ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสถานีตำรวจ พิจารณาวางแผนปรับกำลังให้เหมาะสม และให้ผู้บังคับบัญชาระดับกองบังคับการ และตำรวจภูธรจังหวัด จัดกำลังเสริมในภาพรวมเพื่อตรวจตราความสงบเรียบร้อย และรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ สถานที่ราชการ สถานที่เฝ้าระวังพิเศษ บริเวณที่มีการรวมตัวกันของประชาชน และนักท่องเที่ยว รวมทั้งจุดเสี่ยง จุดล่อแหลมต่างๆ จัดกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วในการเข้าระงับเหตุและการรักษาความปลอดภัยโดยบูรณาการกำลังภายในหน่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุด พิจารณาตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ตรวจค้นอาวุธ และสิ่งผิดกฎหมาย ในห้วงเวลาที่เหมาะสมไม่ให้กระทบต่อภารกิจ และปัญหาการจราจร
ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นควบคุมกำกับดูแลและแก้ไขปัญหาการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามหลักยุทธวิธีตำรวจและคู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปราม Standard operating procedure (S.O.P) อย่างเคร่งครัด 13.ปัจจุบันเกิดเหตุที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติในการเข้าระงับเหตุ การปฏิบัติต่อคนคุ้มคลั่งวิกลจริตหรือมีอาการทางจิต มีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกทำร้ายเสียชีวิตได้รับบาดเจ็บอีกทั้งยังกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีทั้งเกิดจากความผิดพลาดทางยุทธวิธี ขาดความใส่ใจของผู้บังคับบัญชา และความประมาทของตัวเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติเอง จึงกำชับผู้บังคับบัญชาทุกระดับให้ความใส่ใจควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติฝึกฝนทบทวนยุทธวิธี และซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ
ให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา และขอให้ดำรงตนตั้งอยู่ในความไม่ประมาท หมั่นพัฒนาทักษะและขีดความสามารถให้มีมาตรฐาน และสามารถดูแลความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินและสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาให้กับประชาชน ณ.ที่ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารตำรวจภูธรภาค 7 ถ.ข้างวัง ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จว.นครปฐม