วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรท่ามะกา

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรท่ามะกา

วันนี้ 15 สิงหาคม 2566 ที่สภ.ท่ามะกา จว.กาญจนบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย คุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 คุณกิ่งฟ้า ม่วงศิริ รองประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 คุณสุภิชญา โล่กันภัย รองประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 คุณเสาวนีย์ สุขสมบูรณ์ ประธานแม่บ้านกองบังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 7 ร.ท.หญิง กชพร ทองอยู่ ผู้แทนประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และ คณะแม่บ้านตำรวจภูธรภาค7เดินทางลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเพื่อตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรท่ามะกา ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมมอบสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภคจำพวก ถุงบำรุงขวัญ 20 ถุง น้ำดื่ม 20 แพ็ค ข้าวสารถุงละ 5 ก.ก.20 ถุง มาม่า 5 กล่อง กาแฟเบอร์ดี้ชนิดซอง 4 ห่อกระดาษทิชชู 1 แพคน้ำมันพืช 1 ลังเครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ 1 ลัง อิชิตัน 1 ลัง ขนมดิวเบอร์รี่ 5 กล่อง ปลากระป๋อง 1 ลัง กาแฟกระป๋อง 1 ถาด รองเท้าแตะแบบผู้ชาย 40 คู่รองเท้าแตะแบบผู้หญิง 30 คู่ รองเท้าแตะแบบเด็ก 20 คู่ พัดลม 16 นิ้ว 3 ตัว เพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรท่ามะกา

จากนั้น พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้เดินตรวจเยี่ยมที่ทำการ สภ.ท่ามะกาและประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมคณะแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 ได้เดินตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญครอบครัวข้าราชการตำรวจที่พักอาศัยบริเวณบ้านพักหลัง สถานีตำรวจภูธรท่ามะกา หลังจากนั้น พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานในการประชุมเร่งรัดติดตาม ขับเคลื่อน การบริหารราชการ และขับเคลื่อนการยกระดับการบริการประชาชนของสถานีตำรวจ ตามนโยบายของ ผบ.ตร.ให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด สถานีตำรวจภูธรท่ามะกา โดยมี พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.นัฐพงษ์ เอกเผ่าพันธุ์ ผกก.สภ.ท่ามะกา พร้อม คณะ กต.ตร.สภ.ท่ามะกา และข้าราชการตำรวจ สภ.ท่ามะกา รอให้การต้อนรับการตรวจเยี่ยมและเข้าร่วมการประชุม

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวในที่ประชุมโดยได้กำชับให้ปฏิบัติ 1.นำนโยบายรัฐบาล วิสัยทัศน์ ผบ.ตร. “เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน” วิสัยทัศน์ตำรวจภูธรภาค 7 “ภักดีองค์ราชันมุ่งมั่นสร้างศรัทธา พัฒนาเป็นมืออาชีพ บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม นำสมัย เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา” และวิสัยทัศน์ ผบช.ภ.7 “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” ไปปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม 2.ต้องทำงานกันเป็นทีม ยึดมั่นในระเบียบวินัย บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน และดำรงตนอย่างมีเกียรติ 3.การทำงานต้องประกอบด้วย “หลักการทำงาน 4443” 3.1 “4 เกาะ” เกาะติดพื้นที่ เกาะติดประชาชน/มวลชน/และชุมชน เกาะติดคนร้ายหรือเกาะติดศัตรูของประชาชน และเกาะติดผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเกาะติดลูกน้อง 3.2 “4 ยก” ยกระดับองค์ความรู้ ยกระดับวิธีคิด ยกระดับวิธีการทำงานและยกระดับการใช้ดุลพินิจ 3.3 “4 ทำ” ทำงาน ทำดี ทำบุญ และมีภาวะผู้นำ 3.4 “3 S” Smart Smile Strong 4.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติ และพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชา ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ คำสั่ง แบบแผนธรรมเนียมของทางราชการอย่างสม่ำเสมอโดยใกล้ชิด และสร้างขวัญกำลังใจ ความสามัคคี ภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น

 

และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริงตามคำสั่งกรมตำรวจ ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค. 2537 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ 5.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การกระทำความผิดใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์ การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพันกับการกระทำความผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางวินัย คดีอาญาและปกครองอย่างถึงที่สุด 6.กำชับให้มีการฝึกทบทวนทางยุทธวิธีทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวนเป็นประจำสม่ำเสมอ ให้เกิดความคุ้นชินเมื่อต้องปฏิบัติ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่เพื่อนพี่น้องข้าราชการตำรวจ 7.ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ เป็นภารกิจเร่งด่วนของผบ.ตร. ให้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรูปแบบต่าง ๆ

 

 

ให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อ หากพบการกระทำความผิดดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้ถึงที่สุด 8.ปัญหายาเสพติดเป็นภารกิจเร่งด่วนของ ผบ.ตร. มุ่งเน้นใช้วิธีการบำบัดยาเสพติดต่อผู้เสพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคมตามนโยบายรัฐบาล โดยปฏิบัติการเชิงรุกซักถามถึงแหล่งที่มาและเครือข่าย เพื่อจัดทำฐานข้อมูลในการติดตามจับกุมและขยายผลต่อไป 9.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นมีความเข้าถึงและใส่ใจในความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัว อย่างใกล้ชิด คอยช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สิน ความเป็นอยู่ อย่าปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องเคว้งคว้างเผชิญปัญหาเพียงผู้เดียว 10.ให้ผู้บังคับบัญชาเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านงานในหน้าที่ ด้านการใช้ชีวิต การครองตนให้อยู่ในศีลธรรมอันดี 11.กำชับความรักความสามัคคีในหมู่คณะ ทำงานเป็นทีม(Teamworks) เคารพซึ่งกันและกันระหว่างรุ่นพี่ รุ่นน้อง โดยให้ยึดหลักการครองตน ครองคน และครองงาน

 

 

Loading