หลวงพี่น้ำฝนเดินหน้า จัดตั้งวัดหลวงพ่อพูลกาญนาราม ชาวบ้านเสรีธรรม เชื่อศรัทธาความเจริญเข้าชุมชนยั่งยืน
ชาวบ้านเสรีธรรม ยกมือประชาคมท่วมท้น หนุนหลวงพี่น้ำฝน จัดสร้างวัดหลวงพ่อพูลกาญจนาราม ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เชื่อได้วัดแห่งใหม่ที่มีความสวยงามเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพระพุทธศาสนา พร้อมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพระพุทธศาสนา นำรายได้ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน สร้างรายได้ชาวบ้านได้ในอีกไม่ช้า หลวงพี่น้ำฝนให้ความเห็นเป็นความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อหลวงพ่อพูลและความเชื่อมั่นในการทำงานเพื่อญาติโยมของวัดไผ่ล้อม
ในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการขออนุญาตการก่อสร้างวัดหลวงพ่อพูลกาญจนาราม ณ ที่พำนักสงฆ์หลวงพ่อพูล บ้านเสรีธรรม หมู่ที่ 8 ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีพระครูอนุรักษ์กาญจนาทร เจ้าคณะตำบลลุ่มสุ่ม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระสมุห์รัตนภูมิ ฐานิโย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ประธานที่พักสงฆ์วัดไผ่ล้อม นายอานนท์ วัฒนกิจ ปลัดอาวุโส อำเภอไทรโยค นางสาวดลชนก จันทร์สุข นักวิชาการศาสนาชำนาญการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลลุ่มสุ่ม ผู้แทนกำนันตำบลลุ่มสุ่ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 8 พร้อมด้วยชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านเข้าร่วมในการประชุมลงความเห็นในการจัดตั้งวัดหลวงพ่อพูลกาญจนาราม ซึ่งมีการเสนอแนวคิดและหลักการในการจัดตั้งตามกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงการแจ้งวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งให้กับชาวบ้าน ผู้นำชุมชนให้ได้ทราบ ซึ่งในที่ประชุมมีมติยกมือสนับสนุนในการจัดตั้งวัดหลวงพ่อพูลกาญจนารามโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการอีกไม่กี่ขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการในการดำเนินให้เสร็จสิ้นตามหลักการเอกสารทางราชการ นับเป็นก้าวสำคัญที่จะเริ่มมีการดำเนินการในการจัดสร้างวัดแห่งใหม่ในชุมชนซึ่งจะมีการดำเนินการในอนาคตนี้
โดย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า ในการจัดตั้งวัดหลวงพ่อพูลกาญจนาราม ซึ่งเดิมเป็นที่พำนักสงฆ์ มีพื้นที่ 18 ไร่ 3 งาน 36 ตารางวา โดยการได้รับมติจากญาติโยมพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ให้จัดตั้งวัดหลวงพ่อพูลกาญจนาราม เป็นอีกหนึ่งในการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและเอกสารทางราชการ ซึ่งหากเสร็จสิ้นแล้วก็จะมีการดำเนินการในการจัดสร้างเป็นวัดแห่งใหม่ของชุมชนบ้านเสรีธรรมได้ทันที ซึ่งได้มีการแผนการและวางแผนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวไว้ทั้งหมดแล้ว
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อไปว่า การจัดตั้งวัดหลวงพ่อพูลกาญจนาราม ในจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอีกหนึ่งนิมิตรบัญชาที่อาตมาได้รับมาตั้งแต่ครั้งพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลท่านยังคงมีชีวิตอยู่ ซึ่งกว่าจะมีการค้นพบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหมาะสมในการจัดตั้งใช้เวลามานานนับสิบปี กระทั่งได้มีญาติโยมที่มีความศรัทธาในบารมีของพระเดชพระคุณพระมงคลสิทธิการ หลวงพ่อพูลอัตตรักโข พระเกจิเถราจารย์ ผู้มากด้วยบารมีแห่งเมตตา ได้มาประสานขอถวายที่ดินบนพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเมื่ออาตมาได้มาสำรวจแล้วตรงตามกับนิมิตบัญชาที่เคยปรากฏเอาไว้หลายปีก่อน และพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีพลังมีความศักดิ์สิทธิ์รวมถึงยังมีญาติโยมพุทธศาสนิกชนที่ เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด รวมถึงมีญาติโยมที่มีจิตศรัทธาบารมีระลึกถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล แม้จะอยู่ต่างพื้นที่แต่บารมีของท่านก็ปรากฏมาถึงพื้นที่ดังกล่าว
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวเสริมว่า การที่ญาติโยมได้มีเจตนารมย์ร่วมกันในการลงมติให้จัดตั้งวัดหลวงพ่อพูลกาญจนาราม ถือเป็นความสำเร็จในแง่ของบารมีที่หลวงหลวงพ่อพูลท่านได้ สั่งสมเอาไว้ตั้งแต่ครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ซึ่งอาตมาได้สานต่อปณิธานของหลวงพ่อพูล เรื่อยมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงานเพื่อสังคม การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และการช่วยเหลือญาติโยมในโอกาสต่างๆโดยเฉพาะญาติโยมที่ประสบปัญหาในการดำเนินชีวิต นี่จึงเป็นความสำเร็จในการร่วมมือร่วมใจกันก่อให้เกิดวัดแห่งนี้
“เรามีพื้นที่ซึ่งมีเนินเขาสูงประมาณ 50 เมตร โดยอาตมา ได้กำหนดที่จะจัดสร้างพระพุทธเจ้าปางเปิดโลก บนยอดเขา ซึ่งจะทำให้สถานที่ดังกล่าวเป็นจุดปักหมุดสำคัญในอำเภอลุ่มสุ่ม นอกจากนี้ยังจะมีการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีพื้นถิ่น รวมถึงจะได้มีการจัดสถานที่ให้สวยงามสงบร่มเย็นก่อให้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพระพุทธศาสนาเพราะในพื้นที่นอกจากมีเนินเขายังมีแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไหลอยู่ตลอดทั้งปีเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและเรียนรู้เรื่องราวในพระพุทธศาสนา รวมถึงยังภาคเอกชนและภาครัฐได้ประสานความร่วมมือว่าหากจัดตั้งวัดเสร็จแล้วอาจจะมีการขอดำเนินการในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นเมือง สินค้าพื้นบ้าน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ญาติโยมมีรายได้เข้าสู่ครัวเรือนและทำให้มีตัวเลขรายได้ในชุมชนที่สูงขึ้นในอนาคตได้ และทุกสิ่งทุกอย่างก็กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้แน่นอน” หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้าย