วันพฤหัสบดี, 6 มีนาคม 2568

รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 แถลงข่าวความคืบหน้าคดีคานปูนและเครนก่อสร้างถนนยกระดับบนถนนพระราม 2

นครปฐม050368รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 แถลงข่าวความคืบหน้าคดีคานปูนและเครนก่อสร้างถนนยกระดับบนถนนพระราม 2

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 เวลา 13.30 น.
ณ ห้องประชุม 2 อาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 7 ชั้น 2 อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐมผู้สื่อข่าวรายงานว่า

​​ด้วยเหตุในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เกิดเหตุคานปูนและเครนก่อสร้างถนนยกระดับบนถนนพระราม ของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย บ้านแพ้ว ตอน 1 ช่วง กม.21+600 เขตพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 2 ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร หล่นจากที่ติดตั้งลงมาเป็นเหตุให้มีคนงานรับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้

​ ​1. ผู้เสียชีวิต จำนวน 6 ราย
​ 1) นายอภิวัฒน์ พะพันทาง อายุ 30 ปี สัญชาติไทย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
​ 2) นายเอหรือAYAR อายุ 37 ปี เสียชีวิตที่ รพ.สมุทรสาคร
​ 3) นายสุทัศน์ บุญเรื่อง อายุ 31 ปี สัญชาติไทย เสียชีวิตที่ รพ.มหาชัย 1
​ 4) นายชิต โกโก เมียนมา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
​ 5) นายเพียว โก โก เมียนมา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
​ 6) นายอ่อง เทียน เท เมียนมา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
​​2. ผู้บาดเจ็บ
​ รักษาตัวอยู่ใน รพ.สมุทรสาคร จำนวน 4 ราย
​ 1) นายนัน โกโก อายุ 24 ปี เมียนมา
​ 2) นายเบ ดา อายุ 34 ปี เมียนมา
3) นายวรยศ ศรีรีเวช อายุ 25 ปี
4) นายพสิน ผิวทน อายุ 19 ปี
​รักษาที่ รพ.เอกชัย จำนวน 1 ราย
​ 1) นายพงษ์ศักดิ์ นรสาร อายุ 35 ปี
​รักษาที่ รพ.วิชัยเวชสมุทรสาคร จำนวน 1 ราย
​ 1) นายทรงวุฒิ พุทธเสน อายุ 18 ปีเศษ
​ผู้บาดเจ็บที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน จำนวน 3 ราย
​ 1) นายสอย โกโก อายุ 20 ปี ถลอกที่ศีรษะ
​ 2) นางสาวเมตู มิน อายุ 32 ปี เป็นลม
​ 3) นายอองซอ นิน อายุ 31 ปี ถลอกร่างกาย

สรุป เสียชีวิต 6 (คนไทย 2 ต่างด้าว 4) บาดเจ็บ 9 (คนไทย 4 ต่างด้าว 5) ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว นั้น ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาส่งเสริม สนับสนุน และแก้ไขปัญหางานสอบสวนอันเป็นอำนวยความยุติธรรมทางอาญา ให้ตำรวจเป็นที่พึ่งพิงของประชาชนอย่างแท้จริง ตำรวจภูธรภาค 7 โดยการนำของ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 รับผิดชอบฝ่ายกฎหมายและสอบสวน เข้าควบคุม กำกับ ดูแล การสอบสวนในคดีดังกล่าว เพื่อสอบสวนถึงสาเหตุและนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ในทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ประชาชนผู้สัญจร ทั่วไป

​​พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร เห็นว่า เหตุดังกล่าวนี้ได้เกิดขึ้นซ้ำมาหลายครั้งแล้ว มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน ต่อเศรษฐกิจของประเทศในวงกว้าง จึงได้เร่งรัด กำชับ การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ให้มีความศักดิ์สิทธิ์เกิดความผาสุกแก่ประชาชนไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกต่อไป ซึ่งได้เร่งรัดการทำงานสืบสวนสอบสวนมาโดยตลอด
​ ใไดทางตำรวจภูธรภาค7 ได้จัดประชุมเร่งรัดการสำนวนสอบสวนขึ้นเป็นครั้งที่ 3 สรุป ผลการดำเนินการขณะนี้ชุดพนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำ ผู้เกี่ยวข้อง ได้ 27 ปากได้ดำเนินคดีกับ บริษัท พีเอสซีไอ คอนสตรัคชัน จำกัด ในความผิดเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิ ไปแล้ว
ได้ดำเนินคดีกับ บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด และบริษัท พีเอสซีไอ คอนสตรัคชัน จำกัด ในความผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยอาชีวะอนามัยและสภาพแวดล้อมของการทำงานฯ ไปแล้ว

ยังคงเหลือ เรื่องการรวบรวมพยานหลักฐานจาก
โยธาธิการและผังเมืองสมุทรสาคร นายกสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์
นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย
ความเห็นของผู้ชำนาญการด้านวิศวกรรม ซึ่งได้มีการติดต่อไปแล้ว อยู่ระหว่างการตอบรับความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรมทางหลวง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเหตุ และผู้ที่ต้องรับผิดชอบในการเกิดเหตุครั้งนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

​ตำรวจภูธรภาค 7 ขอเรียนว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญกระทบต่อความเชื่อมั่นในการบังคับใช้กฎหมาย และกระทบต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างยิ่งกระทบต่อมาตรฐานความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ
​ ​จึงได้ให้คำมั่นว่าจะทำให้เป็นคดีตัวอย่างในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มประสิทธิภาพและเป็นธรรม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ซ้ำขึ้นอีก ในเส้นทางพื้นที่รับผิดชอบ บนถนนพระราม 2 ต่อไป

Loading