วันอาทิตย์, 22 กันยายน 2567

รอง.ผบช.ภ.1 แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วันนี้ (16 ส.ค.60) เวลาประมาณ 14.00-14.30 น. พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์  รอง ผบช.ภ.1 (สส) / เอราวัณ4พร้อมด้วย พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ภูวดิท ชนะคชภัทร์ พ.ต.อ.ฉลอง สุขจันทร์
พ.ต.อ.ธนศักดิ์ ปานแย้ม พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพชร พ.ต.อ.สง่า ธีรศรัณยานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา
พ.ต.อ.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบก.สส.ภ.1พ.ต.อ.สมชัย อนิวัตกูลชัย ผกก.สภ.มหาราช และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

ได้ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม นายกริษณ์ หรือแจ้ว นิ่มน้อย อายุ 46 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ จ.359/2560) พร้อมด้วยของกลาง  อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก
เครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 1 นัด  อาวุธปืนกึ่งออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ บาเรตต้า จำนวน 1 กระบอก  ซองบรรจุกระสุน 1 อัน เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 44 นัด
6.ซองบรรจุอาวุธปืน สีดำ จำนวน 1 ซอง  อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 4 นัด กระเป๋าสะพายข้างสีเขียวขี้ม้า ยี่ห้อ Traveller จำนวน 1 ใบ กระสอบปุ๋ย สีขาว จำนวน 1 กระสอบ
11.ผ้าขนหนู จำนวน 2 ผืน
เสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีดำเขียว และกางเกงขาสั้นลายพรางทหาร จำนวน 1 ชุดรถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน
เรือเหล็กสีฟ้า จำนวน 1 ลำ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่องโดยกล่าวหาว่า
“ร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และร่วมกันฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย”พฤติการณ์กล่าวคือ


ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ สภ.มหาราช ได้รับแจ้งเหตุ พบรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ถูกทิ้งลงในคลองกลางทุ่งนา และพบโทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง ถูกเผาฝังทิ้งไว้ใกล้กับยอดักปลา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบจุดเป็นหลุมฝังศพ จำนวน 2 หลุม ภายในหลุมพบศพ จำนวน 3 ศพ (ทราบชื่อภายหลัง) ดังนี้
1. นายสมพาล หรือพาน บุญสนุน
2. นายไพรรัช หรือแฝด หอมชะเอม
3. นายสารวย หรือรวย วงษ์อักษร
ต่อมาจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุในคดีดังกล่าว นายกริษณ์ หรือแจ้ว นิ่มน้อย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับ จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัว นายกริษณ์ หรือแจ้วฯ ได้ในเวลาต่อมา
โดยนายกริษณ์ หรือแจ้วฯ ให้การรับว่า สาเหตุที่ก่อเหตุเพราะสงสัยเกี่ยวกับเรื่องยาบ้าที่หายไป จำนวน 2,000 เม็ด จึงได้โทรศัพท์นัดกลุ่มผู้ตายมาพบที่บริเวณกระท่อมที่เกิดเหตุ และพูดคุยกัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาด้วยยิงกลุ่มผู้ตาย หลังก่อเหตุจึงได้นำร่างผู้ตายทั้ง 3 ลงใส่เรือ เพื่อนำไปฝังบริเวณจุดที่พบศพ
โดยในการจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าผู้ตายทั้ง 3 ศพ และเป็นผู้ขุดหลุมอำพรางศพ พร้อมทั้งเผาทำลายโทรศัพท์มือถือ และนำรถจักรยานยนต์ทิ้งน้ำ
จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

การปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังสืบสวนตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาอันรวดเร็ว คดีดังกล่าวถือเป็นคดีที่สะเทือนขวัญต่อประชาชนและสังคม ผู้ต้องหาในคดีนี้มีพฤติกรรมที่เหี้ยมโหด ก่อเหตุฆ่า 3 ศพ อย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและบาปกรรม การปฏิบัติในครั้งนี้จึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง

ในนามของตำรวจภูธรภาค1 จึงขอชมเชยและขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

ณ สภ.มหาราช อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธ

Loading