นครปฐม เถ้าแก่เนี้ยวอู่ใหญ่ขับปิคอัพข้ามทางรถไฟ ไม่เห็นไม้กั้น ชนสนั่นลากไปพลิกตะแคง รอดตายหวุดหวิด
เมื่อเวลา10.09น.วันที่ 17 ตุลาคม ร.ต.อ.แสงเพชร วิไลกุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งรถไฟดีเซลราง ประจวบคีรีขันธ์ -ธนบุรี ชนรถปิคอัพบริเวณแยกจุดตัดทางรถไฟกระดีเดียว ตำบลหนองปากโลง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม มีคนขับบาดเจ็บติดอยู่ในรถปิตอัพ จึงประสานชุดกู้ชีพมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ไปที่เกิดเหตุพบนถปิคอัพมิซูบิชิ รุ่นไทรทรัล แบบแคป สีขาว ทะเบียน บห-4249 นครปฐม กระเด็นพลิกตะแคงอยู่ข้างรางรถไฟ จึงช่วยกันนำนางเชาวณี มากสถิตย์ อายุ 48 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 7/243 ซอยเลียบคลองสอง19 แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เจ้าของอู่พูลทรัพย์ ตำบลหนองปากโลง อ.เมืองนครปฐม ซึ่งเป็นคนขับรถปิคอัพคันดังกล่าวออกมา มีบาดแผลฉีกแตกที่บริเวณศีรษะด้านขวา และศีรษะบวม ส่งโรงพยาบาลนครปฐม
จากการสอบถามนายนรนทร์ กลางกรอง พนักงานขับรถไฟ(พขร.)ขบวนรถบริการสังคม 252 (ประจวบคีรีขันธ์ – ธนบุรี ) ว่าควบคุมขบวนรถไฟขบวนดังกล่าวมาก่อนถึงจุดแยกตัดกระดีเดียว ต.หนองปากโลง อ.เมืองนครปฐม เห็นรถปิคอัพคันดังกล่าวข้ามตัดเข้ามาในเส้นทางรถไฟจึงได้ส่งสัญญานแตร ยาวหลายครั้งก่อนหัวรถจักรพุ่งชนท้ายรถปิคอัพกระเด็นตกข้างทางห่างจากแยกปิดกั้นทางรถไฟ มีเครื่องกั้นเสียหาย และกาดล่างหน้ารถจักรเสียหาย
ด้านร.ต.อ.แสงเพชร วิไลกุล พนักงานสอบสวน ตรวจที่เกิดเหตุแล้วและสอบถามพขร.ถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารบนขบวน ทุกคนปลอดภัย และให้เดินรถไฟจากจุดเกิดเหตุไปสถานีรถไฟนครปฐมได้ แล้วจะนัดพขร.มาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง
ขณะที่ชาวบ้านที่ขายของอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ บอกว่า เครื่องกั้นทางรถไฟจุดนี้เป็นแบบอัตโนมัต และด้ามสั้นแบบกั้นเลนเดียว ก่อนเกิดเหตุ เครื่องกั้นทางรถไฟลงแล้ว รถปิคอัพคันดังกล่าวขับมาแล้วหลบเครื่องกั้นเพื่อข้ามทางรถไฟ ตัดหน้ารถไฟขบวนดังกล่าวจึงพุ่งชนและลากไปพลิกตะแคงข้างทาง
ต่อมานายภูมิพัฒน์ พูลสวัสดิ์ อยู่บ้านเลขที่ 139 ม.3 ต.หนองปากโลง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ญาติของผู้บาดเจ็บมาที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้มอบทรัพย์สินของนางเชาวณี มากสถิตย์ คืนให้ ละว่ารถปิคอัพคันดังกล่าวมีประกันภัยชั้น1