ปราจีนบุรี-สุดสลด เด็กป่วยพิการทางสมองถูกหลวงตาหลอกล่วงละเมิดทางเพศแลกเงิน
จากกรณีที่มีคลิปเหตุการณ์ที่ชาวบ้านแอบถ่ายขณะที่ผู้หญิงคนหนึ่งพยายามบังคับให้ลูกสาวที่นั่งร้องไห้ ให้ลุกขึ้นกลับบ้าน แถมยังเอาทรายมาลูบหน้าด้วย ทำให้ลูกสาวร้องไห้ตลอดเวลา หลังคลิปเผยแพร่มีคนมาแสดงความเห็นจำนวนมาก เบื้องต้นทราบว่าเหตุการณ์ เกิดที่บ้านต้น ม.2 ตำบลโพธิ์งาม อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี เบื้องต้นเจ้าของคลิประบุว่าหญิงทั้งสองคนในคลิปเป็นแม่ลูกกัน โดยแม่ได้ทำร้ายลูกสาว ซึ่งสติไม่สมประกอบ ก่อนหน้านี้ลูกสาวมีอาการปกติ เป็นเด็กเรียนดี กระทั่งเรียนจบ ม.3 ถูกแม่ทำร้ายจนสติไม่ดี ที่ผ่านมาแจ้งให้จ้าหน้าที่ได้เข้ามาช่วยเหลือตลอด แต่ก็ยังมีการทำร้ายลูกบ่อยครั้ง จนตนเองทนไม่ไหวต้องถ่ายคลิปเอาไว้โดยเชื่อว่าหากเด็กสาวได้รับการรักษาอย่างดีจะหายเป็นปกติได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือเพราะสงสารเด็ก
ซึ่งหลังจากที่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด นางรัชฎภรณ์ แหวนเพร็ช วิชาชีพนักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ พบกับนางประคอง (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 51 หมู่ 8 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม มารดา น.ส.วารุณอร อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นคนพิการและป่วยจิตเวช (หญิงสาวทั้ง 2คนในคลิป) ซึ่งได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.วีรพล สิทธิพันธ์ สว.(สอบสวน) สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี สงสัยว่าบุตรสาว จะถูกหลวงตาในวัดแห่งหนึ่งในอำเภอประจันตคาม ล่วงละเมิดทางเพศ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี หลังจากนั้น พ.ต.ต.วีระพล จึงได้ทำบันทึกส่งตัว น.ส.วารุณอร เพื่อไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลประจันตคาม โดยมีสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปราจีนบุรีเป็นผู้พาไป เพื่อพนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมพยานหลักฐานจากผลการพิสูจน์ของแพทย์ รวมทั้งจะมีการสอบสวน น.ส.วารุณอร อีกครั้ง ซึ่งในช่วงนี้ ทางเจ้าตัวยังให้การไม่รู้เรื่อง ต้องให้แพทย์ทำการรักษาทางจิตก่อน
จากการสอบถาม นางประคอง แม่ของเด็กสาว กล่าวว่า ตอนเช้ามากับลูกสาวมาเอากับข้าวที่วัด หลวงตาก็ให้เงินลูกสาว 100 บาท ต่อมาก็เห็นลูกผิดปกติ คือลูกอยากมาที่วัดคนเดียวและมาทำไมบ่อยๆ โดยไม่ให้แม่ไปด้วย แม่จึงได้แอบตามไปดูได้ยินเสียงหลวงตาบอกว่า ถอด ๆ ๆ แต่เด็กบอกว่าไม่ถอดถ้าไม่ได้ 2-3 ร้อยก็ไม่ถอด แล้วหลวงตาถามว่าแม่ตามมาไหมแล้วก็สอดสายตามองหาแม่ ตนจึงคิดว่าหลวงตาอาจมีอะไรกับลูกของตน เพราะลูกสาวหนีมาบ่อย ผิดสังเกตที่ว่าทำไมไม่ให้แม่และน้องมาด้วย เมื่อวันที่ 11 ได้เงินมา 200 และบอกว่าเก็บได้ วันนี้เลยมาแจ้งความ ลูกสาวก็ป่วยเกี่ยวกับจิตเวช นาน 2 ปีกว่าแล้วตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมศึกษา 4 ตามคลิปที่มีคนโพสต์ถึงการทำร้ายลูกและตบตีลูกบ่อยๆ ตนเองยอมรับว่าทำลูกจริง ทำผิดจริง เพราะลูกไม่ยอมกลับ ตนบังคับลูกไม่ไหวคนเดียว บางครั้งลูกก็อยู่กลางถนน บางครั้งก็เดินไปเรื่อยเปื่อย จนบางที่หน่วยกู้ภัยต้องมาส่งที่บ้านเพราะเค้าจำได้ ส่วนพ่อก็ทำงานเป็นโรคตับ แต่ก็ต้องไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว บางครั้งเกิดอาการเครียดจะเป็นโรคประสาทไปอีกคน ซึ่งตนพยายามที่จะสอบถามความจริงจากลูกหลังจากได้ยิน แต่ลูกไม่ยอมบอก จึงเกิดความโมโห ที่ทำลงไป ด้านนางรัชฎภรณ์ แหวนเพร็ช วิชาชีพนักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ กล่าวว่า ทราบข่าวจากสื่อโซเชียลในส่วนของ พม.จ.ปราจีนบุรี ก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในกรณีนี้เรายังไม่สามารถฟันธงได้ว่า ใครเป็นผู้กระทำหรือกระทำจริงหรือเปล่า ต้องประสานกับฝ่ายปกครองและสำนักพุทธศาสนาให้มาหารือร่วมกันในกรณีที่เรายังไม่สามารถตั้งข้อหาได้ ถ้าจะถามว่าถูกอนาจารไหม น้องเขายังมีอาการทางสมองอยู่ ก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าน้องให้การได้ระดับหนึ่ง ซึ่งตำรวจก็ยังไม่ฟันธงว่าถูกข่มขืนกระทำชำเราหรือไม่ ก็ต้องนำเด็กไปตรวจร่างกายให้ทางแพทย์ดูอาการทางจิตด้วย ถ้าอาการทางจิตดีขึ้นก็อาจให้การได้ชัดเจนมากขึ้น หลังจากนั้นจะนำน้องไปคุ้มครองสวัสดิภาพไว้ก่อนที่บ้านพักเด็ก และทางเราก็ได้วางแผนระยะยาวว่าจะประเมินสภาพครอบครัวแล้วอาจจะไม่สามารถเลี้ยงดูน้องได้อย่างปลอดภัยเหมือนเดิม ก็ต้องนำน้องไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยของรัฐ
ภาพ/ข่าว ณัฐวัฒน์ กุลเศรษฐ์สุวภา
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์
รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก