สถาบันพระปกเกล้าลงพื้นที่นราธิวาส ศึกษาดูงาน ชม พิพิธภัณฑ์ อัล-กุรอานเขียนด้วยลายมือ อายุ กว่า 1,000 ปี และพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้ ในพื้นที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส
ที่ ห้องพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์เรียนรู้ อัล – กุรอาน อาคารโรงเรียนสมานวิทย์ บ้านศาลาลูกไก่ ม.6 ต.ลาหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส พลเอก เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธี และธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า นำคณะนักศึกษาหลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่นที่ 8 จำนวน 28 คน เดินทางมาชมและศึกษาประวัติศาสตร์ของพระคัมภีร์โบราณ อัล – กุรอาน ที่ทางโรงเรียนสมานวิทย์ได้รับการบริจาคและนำรวบรวมมาจากประเทศต่างๆกว่า 20 ประเทศ รวมถึงจากประเทศไทยเอง จำนวนกว่า 78 เล่ม โดยพระคัมภีร์อัล-กุรอาน โบราณที่จัดแสดงขึ้นนั้นมีอายุตั้งแต่ 150 – 1,112 ปี ซึ่งได้ผ่านการซ่อมแซมจากต่างประเทศ และถูกดูแลมาอย่างดี จนมีผู้สนใจเข้าชมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศมุสลิมทั้งแถบตะวันออกกลาง และเอเชีย รวมถึงนักเรียน นักศึกษาที่สนใจด้านประวัติศาสตร์ติดต่อขอชมและศึกษาประวัติศาสตร์ในพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม
นายมาหะมะลุตฟี หะยีสาและ ผู้บริหารโรงเรียนสมาวิทย์ และพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้ เปิดเผยว่า พิพธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่โรงเรียนสมาวิทย์ บ.ศาลาลูกไก่ ม.6 ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ซึ่งปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ได้เก็บรวบรวมคัมภีร์อัล-กุรอานที่เขียนด้วยลายมือที่มีจำนวนกว่า 78 เล่ม อายุอยู่ในราว 150 – 1,112 ปี ซึ่งถือเป็นมรดกอันล้ำค่าของชุมชนมุสลิมในโลกมุสลิมที่เคยมาติดต่อกับประเทศไทยในอดีต
นอกจากคัมภีร์อัล-กุรอานเก่าแก่แล้วยังมีเอกสารโบราณที่สำคัญของพี่น้องมุสลิมในอดีตจากคาบสมุทรมลายูซันตาราและอาหรับ เช่น เอกสารภาษาศาสตร์ ศาสนาวรรณคดี ศิลปะขนบธรรมเนียนประเพณี กฎหมาย เวชศาสตร์เป็นต้น
นายมาหะมะลุตฟี กล่าวต่อไปอีกว่า คัมภีร์อัล-กุรอานและเอกสารโบราณดังกล่าว มีลักษณะเป็นหนังสือที่มีปกทำด้วยหนังสัตว์ ส่วนเนื้อในทำด้วยกระดาษและเปลือกไม้ เขียนด้วยตัวอักษรโดยใช้หมึกสีดำเป็นภาษายาวีและอาหรับโบราณบางหน้าตกแต่งด้วยการเขียนสี 5 สี โดยมีลวดลายที่แตกต่าง บางลายเป็นลวดลายแบบศิลปะจีนมลายูผสมอาหรับและมีการตกแต่งด้วยทองคำเปลวมีตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ สภาพของคัมภีร์บางเล่มเริ่มชำรุดเสื่อมสภาพ จำเป็นต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างเร่งด่วนและจัดเก็บให้ถูกตามหลักวิชาการ เพราะคัมภีร์อัล-กุรอาน ถือเป็นมรดกที่มีคุณค่าความสำคัญทางด้านศาสนาและวัฒนธรรม มีความยิ่งใหญ่ต่อมวลมนุษยชาติ และนอกจากนี้ ทางพิพธภัณฑ์ได้จัดแสดงเกี่ยวกับความโดดเด่นของเทคโนโลยีและอารยธรรมมลายูมุสลิมในอดีตอีกด้วย
ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ จ.นราธาวส