ตราด-ตราดสีทองไปไม่รอด!ชาวสวนสับปะรดระทมหนักหลังราคาตก พ่อค้าไม่รับซื้อปล่อยเน่าคาสวนขาดทุนยับ
วันที่ 11 มีค. 61 กว่า 1 เดือนแล้วที่ราคาสับปะรดตราดสีทองลดลงอย่างรวดเร็ว ปลายทางตลาดล้นพ่อค้าไม่รับซื้อสาเหตุระบายส่งไม่ทัน ทำชาวสวนที่สับปะรดในพื้นที่จังหวัดตราดต่างระทมขาดทุนย่อยยับปล่อยเน่าคาสวนอื้อ ราคาปัจจุบันวิ่งไปส่งเองที่ปลายทางตลาดไทยตกลูกละ 1-2 บาท จากเคยวิ่งเที่ยวละ 15,000 บาท ปัจจุบันเหลือเพียงเที่ยวละ 4-5 พันบาท วอนรัฐช่วยแก้ปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำ ชาวสวนรอวันตาย โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดตราดมีการปลูกสับปะรดตราดสีทองกันเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตำบลท่ากุ่ม ซึ่งเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีการปลูกสับปะรดตราดสีทองกันเป็นจำนวนมาก โดยวันนี้ชาวสวนและพ่อค้าได้ทำการตัดสับปะรดเพื่อจะนำไปยังปลายทางตลาดไทย ซึ่งจากการสอบถามถึงปัญหาราคาสับปะรด ณ ปัจจุบัน ชาวสวนเผยราคาลดลงอย่างมากเหลือเพียงลูกละ 1-2 บาท เท่านั้นเอง เป็นแบบนี้มากว่า 1 เดือนแล้ว ทำให้พ่อค้าที่มารับซื้อไม่มาซื้อ ส่งผลให้สับปะรดเน่าคาสวนจำนวนมาก ขาดทุนย่อยยับไปตามๆกัน พ่อค้าปลายทางจะเลือกซื้อสับปะรดที่ยังเปลือกสีเขียวอยู่ จะไม่รับซื้อที่สุกเป็นสีเหลืองแล้ว สาเหตุต้องนำไปกักตุนเพื่อรอในการระบายส่งออก จากการสอบถามพ่อค้ารายหนึ่งที่มาซื้อบอกว่า ตอนนี้มาซื้อได้เพียงราคาลูกละ 2 บาทเท่านั้น เนื่องจากปลายทางระบายไม่ทันซึ่งนำไป 1 เที่ยวรถต้องขายเป็นอาทิตย์ถึงจะหมด ซึ่งน่าจะเป็นจากสาเหตุมาจากเศรษฐกิจไม่ดีด้วยทำให้การค้าขายลำบาก ซึ่งต้องเสี่ยงกับการวิ่งไปขายปลายทางบางเที่ยวก็ได้ บางเที่ยวก็ขาดทุน
ด้านนายพันธ์ทิพย์ สารสนิท ผู้ดูแลสวนสับปะรดในพื้นที่ ต.ท่ากุ่ม อ.เมืองตราด จำนวน 40 ไร่ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาสับปะรดราคาตกต่ำมากเลย ลูกใหญ่ๆตอนนะราคาลูกละเพียงแค่ 2-3 บาท เท่านั้น ซึ่งตอนนี้บางทีก็ขายไม่ได้ ไม่มีคนมาซื้อ ยังมีเพียงพ่อค้าขาประจำที่เดินทางมารับซื้อบ้างบางครั้ง ซึ่งรับซื้อเพียงเที่ยวละ 4-5 พันบาท แต่ก็ต้องหักค่าใช้จ่ายอีกมาก เช่น ค่าจ้างคนตัดตกลูกละ 45 สตางค์ ซึ่งพ่อค้าจะเลือกตัดเฉพาะลูกที่มีผิวสีเขียวไป หากสุกแล้วก็ต้องปล่อยทิ้งให้เน่าคาสวนไป เนื่องจากราคาสับปะรดที่ตกต่ำไม่มีใครมารับซื้อ บวกกับปลายทางล้นตลาด วอนรัฐลงมาช่วยเหลือเรื่องราคาให้กับชาวสวนที่ปลูกสับปะรดบ้าง อย่างน้อยให้ชาวสวนได้ราคาตกลูกละ 7-8 บาท ก็ยังพอลืมตาอ้าปากได้
ภาพ/ข่าว ณัฐวุฒิ สวัสดิ์วารี
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์
รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก
