ศรีสะเกษ 2 ตายายช็อคเงินขายวัวเพื่อไปใช้หนี้กองทุนหมู่บ้านร่วม 100,000 บาทตกหายโชคดีที่โชเฟอร์รถประจำทางใจบุญเก็บได้นำส่งคืน
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2561 เวลา 15.00 น. ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมืองศรีสะเกษ นายทรงศักดิ์ สถาปนะนันท์ เจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดศรีสะเกษและนางเย็นจิต ไชยหงส์
เจ้าหน้าที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดศรีสะเกษและคณะ ได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในการส่งมอบเงินสด จำนวน 86,000 บาท พร้อมด้วยเอกสารหลายรายการ ซึ่งนายทวี ไชยสุวรรณ อายุ 57 ปี พนักงานขับรถโดยสารประจำทางสายขุนหาญ – ศรีสะเกษ อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 3 บ้านนา ตำบลโนนสูง อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ที่เก็บได้บนรถโดยสารที่ตนเองเป็นผู้ขับขี่ ส่งมอบเงินสดทั้งหมดให้แก่ นายดำ ประอาง
อายุ 63 ปี และนางฉวี ประอาง อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 8 บ้านพะแวะ ต.สุขสวัสดิ์ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ สองตายายที่เดินทางมาฟอกไตที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ทำกระเป๋าเงินตกไว้ที่เบาะบนรถโดยสาร ซึ่งหลังจากที่ฟอกไตแล้ว 2 ตายายถึงกับช็อคเมื่อนึกขึ้นได้ว่า กระเป๋าผ้าสีดำที่ใส่เงินและทรัพย์สินอื่นติดตัวมาด้วย ได้สูญหายไป แต่โชคดีที่นายทวี คนขับรถบัสโดยสาร เก็บเงินและทรัพย์สินอื่น ๆ เอาไว้ให้ สร้างความซาบซึ้งใจแก่ 2 ตายายเป็นอย่างมาก
นายดำ ประอาง และนางฉวี ประอาง ร่วมกันเล่าว่า ตนได้ขึ้นรถโดยสารประจำทางของบริษัท ขุนหาญพัฒนา จำกัด หมายเลขทะเบียนรถ 10-0422 ศรีสะเกษ หมายเลขข้างรถ 4189 -02 จากปากทางเข้าบ้านพะแวะ อำเภอไพรบึง ไป รพ.ศรีสะเกษ เพื่อฟอกไต โดยได้นำเอาเงินที่ได้จากการขายวัว จำนวน 3 ตัว และเงินจากการขายข้าว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 86,000 บาท ใส่กระเป๋าผ้าสีดำแล้วสะพายไว้ที่ด้านหลังของนางฉวี เนื่องจากว่า หากเก็บไว้ที่บ้านเกรงว่า อาจจะสูญหายไปได้ ซึ่งเมื่อรถบัสมาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดศรีสะเกษ นางฉวี พบว่า ตนเองสวมเสื้อกลับด้าน โดยสวมเสื้อด้านในออกมาอยู่ด้านนอก จึงได้ถอดกระเป๋าสะพายเงินออกวางไว้ที่เบาะรถที่ แล้วสวมเสื้อให้ถูกต้อง หลังจากนั้น ได้เดินทางไปฟอกไตที่ รพ.ศรีสะเกษ โดยที่ไม่ได้ถือกระเป๋าเงินติดตัวมาด้วย หลังจากฟอกไตเสร็จแล้ว ตนนึกขึ้นได้ว่า ไม่เห็นกระเป๋าผ้าสีดำที่ใส่เงินมาด้วย ทำให้ตนและนางฉวี ถึงกับช็อค เนื่องจากว่า เงินทั้งหมด 86,000 บาท เป็นเงินก้อนเดียวในชีวิตที่ตนมีอยู่จากการขายวัวขายข้าว เพื่อจะนำเอาเงินไปใช้หนี้กองทุนหมู่บ้านและใช้หนี้ต่างๆ จึงได้พากันเดินทางมาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งนางเย็นจิตและคณะ ได้ช่วยกันติดตามหากระเป๋าเงินและแนะนำให้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ
หลังจากนั้น นางเย็นจิต แจ้งให้ตนทราบว่า ได้พบกระเป๋าเงินของตนแล้ว โดยขณะนี้ นายทวี ซึ่งเป็นพนักงานขับรถโดยสารของบริษัทขุนหาญพัฒนา จำกัด ได้เก็บกระเป๋าเงินเอาไว้และกำลังจะนำเอาส่งคืนให้แล้ว ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มดีใจให้กับ 2 ตายายเป็นอย่างมาก ที่ได้พบคนดีมีน้ำใจและใจบุญ ซึ่งหากเงินก้อนนี้หายไป ตนก็ไม่ทราบว่า จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ดังกล่าว
ด้านนายทวี ไชยสุวรรณ อายุ 57 ปี พนักงานขับรถโดยสารประจำทางสายขุนหาญ – ศรีสะเกษ
กล่าวว่า หลังจากที่ตนขับรถมาส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดศรีสะเกษ ได้ตรวจดูความเรียบร้อยของรถ และพบว่ามีกระเป๋าผ้าสีดำวางอยู่ที่เบาะนั่งโดยสารข้างประตูทางขึ้นรถด้านหน้า จึงได้เก็บเอาไว้เพราะคาดว่าเป็นของผู้โดยสารและต่อมาได้ขับรถกลับไปส่งผู้โดยสารที่อำเภอขุนหาญ ได้เปิดกระเป๋าผ้าสีดำออกดู ซึ่งตนถึงกับตกตะลึงเมื่อพบว่าภายในกระเป๋าผ้าสีดำมีเงินอยู่จำนวนมาก และทรัพย์สินรวมทั้งเอกสารเช่น สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน เนื่องจากว่า เป็นเงินจำนวนมาก ตนจึงเกิดความกลัวและสงสารคนที่เป็นเจ้าของเงิน จึงได้แจ้งให้เพื่อนที่ขับรถด้วยกันทราบ และแจ้งให้เจ้าของบริษัทรถรับทราบพร้อมทั้งได้เก็บเงินเอาไว้ จนกระทั่งได้รับการติดต่อจาก นางเย็นจิต ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดศรีสะเกษ แจ้งให้ทราบว่า มี 2 ตายายมาตามหากระเป๋าเงิน ตนจึงได้นำเอาทรัพย์สินทั้งหมดมาส่งคืนให้กับเจ้าของ
หลังจากที่ 2 ตายายรับเงินสด 86,000 บาทและทรัพย์สินอื่นๆ คืนมาจากนายทวี แล้ว 2 ตายายได้มอบเงินจำนวน 2,000 บาทให้แก่ นายทวี พนักงานขับรถโดยสารใจบุญ เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจ เมื่อนายทวี รับเงิน จำนวน 2,000 บาท ได้ส่งเงินคืนให้ 2 ตายาย จำนวน 1,000 บาท และกล่าวด้วยคำพูดที่ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับปรบมือให้ว่า “เงิน 2,000 บาทที่ได้รับ มากเกินไปสำหรับผม จึงขอส่งเงิน 1,000 บาท คืนให้ 2 ตายาย เพราะว่า 2 ตายายมีความจำเป็นต้องใช้เงินมากกว่าผมในการรักษาตัวเองที่ป่วยเป็นโรคไตทุกวัน ส่วนเงินที่ได้รับมา 1,000 บาท ตนจะนำเอาไปใช้หนี้สินที่มีอยู่ต่อไป
บุญทัน ธุศรีวรรณ ภาพ/ข่าว
