วันเสาร์, 8 กุมภาพันธ์ 2568

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 13 ตรวจราชการที่จังหวัดศรีสะเกษ

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 13 ตรวจราชการที่จังหวัดศรีสะเกษ

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2561 เวลา 11.30 น ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ นางสาวอรนุช ศรีนนท์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 13 ในฐานะประธานกรรมการธรรมาธิบาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามโครงการต่างๆในจังหวัดศรีสะเกษ ที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบมีการดำเนินงานเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล โดยมีนายปรากิจ แก้วลา นายอำเภอไพบึงและนายบุญเที่ยง สายแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดินแดง ให้การต้อนรับและร่วมบรรยายสรุปโครงการก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้าน แบบบาดาลขนาดใหญ่ บ้านอาหวด และสร้างใหญ่ ตำบลดินแดง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ

หลังจากนั้นนางสาวอรนุช ศรีนนท์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่13 และคณะ ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจการโครงการก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้าน แบบบาดาลขนาดใหญ่ บ้านอาหวด และสร้างใหญ่ ตำบลดินแดง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ

นางสาวอรนุช ศรีนนท์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 13 กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อสอดส่องโครงการของกรรมการที่ได้มอบหมายให้ดำเนินการ ว่าแต่ละโครงการหรือกิจกรรมที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบมีการดำเนินงานเป็นไปตามหลักธรรมมาภิบาลหรือไม่ ซึ่งทุกโครงการส่วนใหญ่เป็นไปตามข้อกำหนดของสัญญา ตามระบบระเบียบของกฎหมาย การจัดซื้อจัดจ้าง ระยะเวลาของการดำเนินงาน และเพื่อช่วยหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐในจังหวัดศรีสะเกษ ให้ทำงานไปด้วยวิถีของการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี ตามหลักคุณธรรม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่มีประโยชน์แก่ประชาชนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่วนเรื่องการร้องเรียนในพื้นที่อำเภอไพรบึง โครงการประปาหมู่บ้าน ที่ยังไม่สัมฤทธิ์ผล ใช้งานได้ไม่เต็มที่นั้น ได้สั่งการให้นายอำเภอและนายก อบต.ดินแดง เป็นผู้ให้ข้อมูลในกระบวนการแก้ไขปัญหา การบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพแก่ประชาชน และปัญหาเรื่องไฟฟ้าและท่อประปาหมู่บ้านที่ยังไม่ทั่วถึง ซึ่งจำเป็นต้องใช้งบประมาณ ก็ฝากทางองค์การปกครองท้องถิ่นหรือภาคประชาคมของจังหวัดศรีสะเกษ หรืออาจจะเป็นงบประมาณของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หากมีงบที่สามารถสำรองได้ก็ให้ดำเนินการไปก่อน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนต่อไป

บุญทัน ธุศรีวรรณ ข่าว/ภาพ

Loading