จ.พะเยา – ปลานิลพะเยาล้นตลาดราคาร่วงระนาวแตะ10บาทต่อ1กก. เกษตรกรวอนรัฐหาตลาดใน-นอกประเทศรองรับผลผลิต
วันนี้( 11 พ.ค.2561) ผู้สื่อลงพื้นที่บ้านต๊ำกลาง ม.8 ต.บ้านต๊ำ อ.เมือง จ.พะเยา เพื่อสอบตรวจสอบกรณีที่มีกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิล ได้รับความเดือดร้อนหนักเนื่องจากปลานิลล้นตลาดทำให้ราคาตกลงลงไปถึงกก.ละ10บาท
นายมนัส นามบ้าน ประธานสหกรณ์เลี้ยงปลาบ้านต๊ำเมืองพะเยา จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาปลานิลขนาดไซส์เบอร์1-2 ซึ่งมี่ขนาด0.5-0.8กก.ขึ้นไป ราคาซื้อขายหน้าบ่อราคาตกลงไปถึง10บาท เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยปลาขนาดเบอร์1-2 เมื่อปี 2561จะขายในราคา57-58 บาท แต่ปรากฎว่าในปีนี้กลับขายได้ราคาเพียง47-48บาทต่อ 1กก. ซึ่งถือว่าราคาตกแบบดิ่งเหวและมีแนวโน้มจะตกลงไปอีก
นายมนัส กล่าวต่อไปว่า สาเหตุเพราะ มีคนขุดบ่อปลามากขึ้นและเกษตรกรรายใหม่ไม่เข้าร่มกับสหกรณ์เลยควบคุมทุกอย่างไม่ได้ ทำให้ผลิตปลานิลได้มากกว่าปริมาณความต้องการของตลาด ในขณะเดียวกันปลานิลพะเยา ถูกนำไปขายเฉพาะเขตภาคเหนือเท่านั้น จึงอยากวิงวอนส่วนราชการช่วยในการทำตลาดให้กระจายไปทุกภาคและส่งออกไปยังต่างประเทศ เพื่อเป็นการพยุงราคาและระบายปลาออกได้เร็วที่สุด ซึ่งก็สอดคล้องกับ
นายสวิง อ้อยหอม อดีตประธานสหกรณ์ฯ ซึ่งกล่าวว่า ปัญหาปลานิลล้นตลาดจนทำให้ราคาตกลงไปมากนั้น สาเหตุคือมีคนเลี้ยงปลาเยอะขึ้น แต่มีตลาดในปริมาณที่จำกัดอยู่เฉพาะในภาคเหนือ มีทางเดียวที่จะช่วยเกษตรกรได้คือ การเร่งรัดหาตลาดให้กระจายไปทั่งประเทศและขยายตลาดออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ไม่อย่างนั้นปลาก็จะเพิ่มปริมาณในตลาดขึ้นเรื่อยซึ่งจะส่งผลให้ราคาตกลงไปกว่าเดิมอีก
สำหรับสหกรณ์เลี้ยงปลาบ้านต๊ำเมืองพะเยา จำกัด มีสมาชิก กว่า 130 ราย มีบ่อเลี้ยงปลาจำนวน 332 บ่อ ผลิตปลานิลสดออกสู่ตลาดในภาคเหนือได้ประมาณวันละ2500-2700กก.ต่อวัน สร้างรายได้ต่อปีประมาณ 45-47ล้านบาท
( นพพร/พะเยา)