วันอาทิตย์, 29 กันยายน 2567

!!ภาค 1 จับแก็งโจรกรรมรถจักรยานยนต์”

09 ก.ค. 2018
20

​วันที่ 9 กรกฎาคม 2561 เวลา 11.00 น. ตามนโยบายรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจเอก เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ,พลตำรวจโท ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ตำรวจภูธรภาค ๑ ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจโท สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๑ , พลตำรวจตรี สมชาย พัชรอินโต รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๑ , พลตำรวจตรี ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๑ , พลตำรวจตรี อำนาจ จันทร์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจ ภูธรภาค ๑
​ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจตรี สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี , พันตำรวจเอก วสันต์ บุญเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี , พันตำรวจเอก ณัฐพล ศุกระศร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี , พันตำรวจเอก พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี , พันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี , พันตำรวจเอก อรรณพ นวมนาคะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง , พันตำรวจโท เมษนนท์ นาขวัญ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ , พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรรัตนา ธิเบศร์ และสถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง
​ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจตรี สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี , พันตำรวจเอก อภิชาติ วรรณภักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี, พันตำรวจเอก โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้กำกับสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี , พันตำรวจเอก สมิทธิ สารอต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคูคต , พันตำรวจเอก ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี

ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ดังนี้
๑. สภ.รัตนาธิเบศร์ จว.นนทบุรี
​รายที่ ๑
​วันที่ ๓ ก.ค. ๖๑ ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ได้แก่
​๑. นายอดุลย์หรือดวง มีปัทมา อายุ ๔๐ ปี
​๒. นายประวิท หรือวิท สุกเกษม อายุ ๓๔ ปี
​โดยกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร
​พร้อมของกลาง
​๑. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้ารุ่นคลิ๊ก ๑๒๕i สีเหลือง-ดำ ทะเบียน ๗กธ-๖๒๑๐ กทม. ( ถูกก่อเหตุมาจาก สน.โคกคราม )
​๒. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้ารุ่นคลิ๊ก ๑๒๕i สีเขียว-ดำ ทะเบียน ๗กก-๔๘๗๑ กทม.( ถูกก่อเหตุมาจาก สน.มีนบุรี ) ​
​สืบเนื่องจากเมื่อจากเมื่อวันที่ ๑ ก.ค.๖๑ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.ภ.๑ และ ศปจร.ภ.จว.ปทุมธานีจับกุมเครือข่ายโจรกรรมรถข้ามชาติ ด้วยวิธีการลักรถจักรยานยนต์แล้วนำมาแยกชิ้นส่วนบรรจุใส่กล่องส่งพัสดุไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านไว้ได้ โดยได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน ๓ คน คือ
​๑. นายอนิรุทธิ์ หรือยู ขันมณี อายุ ๓๕ ปี
​๒. นาย KHIN MAUNG WIN (คิน มาว วิน) สัญชาติพม่า อายุ ๓๔ ปี
​๓. นายซาฮิด อายุ ๓๘ ปี (บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน)

ฝ่ายสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ร่วมกับสืบสวน ภ.จว.ปทุมธานี และสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ร่วมกันขยายผลผู้ต้องหาทั้ง ๓ คน จนสามารถจับกุมตัวนายอดุลย์ฯและนายประวิท ผู้ก่อเหตุได้พร้อมของกลางดังกล่าว จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง ๒ คน ให้การรับสารภาพว่า ได้ออกตระเวนโจรกรรมรถจักรยานยนต์หลายพื้นที่ที่มีเขตติดต่อกันทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีพฤติการณ์ในการขับรถยนต์ตระเวนไปตามห้างต่างๆ เพื่อหารถเป้าหมายที่จะทำการโจรกรรม เมื่อพบรถเป้าหมายแล้วจะใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมาทำลายเบ้ากุญแจ และสตาร์ทเครื่องยนต์ขับขี่นำรถมาส่งให้ชุดที่ทำหน้าที่แยกชิ้นส่วนบรรจุลงกล่องเพื่อส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้แจ้งข้อร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร
รายที่ ๒

วันที่ ๘ ก.ค. ๖๑ ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ได้แก่
​๑. นาย MIN HTET (มินเทะ) อายุ ๓๒ ปี สัญชาติพม่า (หนังสือเดินทางเลขที่ CC ‭๖๕๘๙๓๔๒‬ )
๒. นายTHURA (ตูรา) อายุ ๓๑ ปี สัญชาติพม่า (หนังสือเดินทางเลขที่ CC ‭๖๕๘๙๓๓๙‬ )
​๓. นายSAR DAR (ซาดา) อายุ ๒๑ ปี สัญชาติพม่า (หนังสือเดินทางเลขที่ CC ‭๖๒๗๔๘๙๗‬ )
​โดยกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร
​พร้อมด้วยของกลาง
​๑. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ออนด้า รุ่นคลิ๊ก ๑๒๕ i สี แดง-ดำ ทะเบียน ๗กภ-๖๘๘๐ กทม. ซึ่งสภาพรถถูกถอดแยกชิ้นส่วนไปแล้วบางส่วน จำนวน ๑ คัน ( รถของ จนท.ตำรวจ )
​๒. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ออนด้า รุ่นคลิ๊ก ๑๒๕ i สีขาว-ดำ ทะบียน ๗กฌ-๘๖๙๔ กทม. ถูกถอดแยกชิ่นส่วน สภาพรถเหลือเฉพาะโครงรถ (เป็นรถที่ถูกโจรกรรม และแจ้งความร้องทุกข์ สภ.บางแก้ว จว.สมุทรปราการ วันที่ ๖ ก.ค.๖๑)
​๓.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ออนด้า รุ่นเวฟ ๑๒๕ i สี แดง-ดำ ทะเบียน ๑กญ-๓๔๘๕ เพชรบูรณ์ สภาพสมบูรณ์ (เป็นรถที่ถูกโจรกรรม และแจ้งความร้องทุกข์ สภ.บางแก้ว จว.สมุทรปราการ วันที่ ๖ก.ค.๖๑)
​๔. พบชิ้นส่วน รถจักรยานยนต์ที่ถอดแยกชิ้นส่วน จำนวน หลายรายการ
​๕. พบกล่องลังกระดาษขนาดใหญ่ที่ยังไม่บรรจุสิ่งของ จำนวน ๔๗ กล่อง
​๖. พบตะกร้าวางสิ่งของหน้ารถจักรยานยนต์ สีดำ จำนวน ๑๐ อัน
​๗. พบเครื่องมือช่าง สำหรับถอดชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ จำนวนหนึ่ง

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๖ ก.ค.๒๕๖๑ เวลาประมาณ ๑๗.๓๐ น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้นำรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น คลิ๊ก สีแดงดำหมายเลขทะเบียน ๗กภ-๖๘๘๐ กทม. ไปจอดไว้ที่ห้างฯโลตัส สาขาติวานนท์ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์บ่อยครั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้เคียง และต่อมาเวลา ๑๘.๓๐ น.ได้มีคนร้ายได้มาลักรถคันดังกล่าวและขับออกจากห้างฯโลตัส เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถจักรยานยนต์ติดตามไป จนทราบว่าคนร้ายได้นำรถที่ก่อเหตุเข้าไปจอด ซุกซ่อนในบ้านบ้านเลขที่ ๔๑๗/๕๗ซอยวชิรธรรมสาธิต ๒๙ แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.บ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว มีรั้วหนาแน่น และเป็นช่วงเวลากลางคืน จึงได้จัดกำลังเฝ้าบ้านดังกล่าวไว้
​ต่อมาวันที่ ๘ ก.ค.๒๕๖๑ เวลาประมาณ ๐๖.๐๐ น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยรักษาความสงบเขตบางนาและเขตพระโขนง ร่วมกันเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ ๔๑๗/๕๗ เมื่อเข้าไปในบ้านดังกล่าวพบผู้ต้องหาทั้ง ๓ คนพร้อมของกลางดังกล่าว จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง ๓ คน ให้การรับว่า ได้มาพักอาศัยที่บ้านดังกล่าวนายประมาณ ๑๒ วัน โดยมีนายจ้าง ( ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง ) เช่าไว้ให้พักอาศัย และไว้สำหรับใช้เป็นสถานที่ถอดชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ ที่โจรกรรมมาและบรรจุใส่กล่อง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง ๓ คน มีหน้าที่ถอดแยกชิ้นส่วน และบรรจุใส่กล่อง จากนั้นจะมีคนไทยขับรถยนต์กระบะ แบบติดหลังคาโครงเหล็กทึบ มารับ และจะได้ค่าจ้างคันละ ๑,๐๐๐ บาท โดยได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร
๒. ภ.จว.ปทุมธานี

ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ คือ นายวัชรินทร์ หรือมืด คูณผล อายุ ๔๑ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๕๐ ม.๑๘ ต.โดด อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ โดยกล่าวหาว่ามีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ลักทรัพย์หรือรับของโจร
​พร้อมด้วยของกลาง
​เครื่องวิทยุคมนาคม ยี่ห้อโมโตโรล่า สีดำ รุ่น Radius GP๓๐๐ จำนวน ๑ เครื่อง และได้ตรวจยึด
​๑. รถจักรยานยนต์ หมายเลขตัวรถ MLHJF๓๕๐๔K๕๕๕๖๖๕๒ หมายเลขเครื่องยนต์ JF๓๕E-๐๑๕๖๖๕๒ ถูกแยกชิ้นส่วนบรรจุในกล่องกระดาษจำนวน ๒ กล่อง (แจ้งหายที่ สน.ทองหล่อ)
​๒. รถจักรยานยนต์ หมายเลขตัวรถ MLHJF๓๕๑๕H๕๓๓๑๓๕๒ หมายเลขเครื่องยนต์ JF๓๕E-๓๐๓๑๓๕๒ ถูกแยกชิ้นส่วนบรรจุในกล่องกระดาษจำนวน ๒ กล่อง (แจ้งหายที่ สน.ลาดพร้าว)
​๓. รถจักรยานยนต์ หมายเลขตัวรถ MLHJA๑๔๐๙J๕๗๒๑๔๕๓ หมายเลขเครื่องยนต์ JA๑๔๐E-๐๗๒๑๔๕๓ ถูกแยกชิ้นส่วนบรรจุในกล่องกระดาษจำนวน ๒ กล่อง (แจ้งหายที่ สน.ลาดกระบัง)
​๔. รถจักรยานยนต์ หมายเลขตัวรถ MLHJF๓๕๐๗H๕๕๑๑๘๓๐ หมายเลขเครื่องยนต์ JF๓๕E-๐๑๑๑๘๓๐ ถูกแยกชิ้นส่วนบรรจุในกล่องกระดาษจำนวน ๒ กล่อง (แจ้งหายที่ สภ.บางพลี)
​๕. รถจักรยานยนต์ หมายเลขตัวรถ MLHJA๑๔๐๐H๕๔๐๐๔๙๒ หมายเลขเครื่องยนต์ JA๑๔๐E-๐๔๐๐๔๙๒ (แจ้งหายที่ สน.บางเขน)
​๖. รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออิซูซุ คันหมายเลขทะเบียน ถธ-๘๕๖๖ กรุงเทพมหานคร จำนวน ๑ คัน
​๗.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง จำนวน ๑ เครื่อง
​๘.ใบรับส่งสินค้า จำนวน ๓ ใบ
​๙.บัตรเอทีเอ็ม ธนาคารกสิกรไทย ของนายวัชรินทร์ คูณผล จำนวน ๑ ใ
​สืบเนื่องจากเมื่อจากเมื่อวันที่ ๑ ก.ค.๖๑ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.ภ.๑ และ ศปจร.ภ.จว.ปทุมธานีจับกุมเครือข่ายโจรกรรมรถข้ามชาติ ด้วยวิธีการลักรถจักรยานยนต์แล้วนำมาแยกชิ้นส่วนบรรจุใส่กล่องส่งพัสดุไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านไว้ได้ โดยได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน ๓ คน คือ
​๑. นายอนิรุทธิ์ หรือยู ขันมณี อายุ ๓๕ ปี
​๒. นาย KHIN MAUNG WIN (คิน มาว วิน) สัญชาติพม่า อายุ ๓๔ ปี
​๓. นายซาฮิด อายุ ๓๘ ปี (บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน)
​จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีก ๒ คน คือ
​๑.นายอดุลย์ มีปัทมา อายุ ๔๐ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๗๐ ม.๑๓ ต.โคกสะอาด อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ
๒. นายประวิท สุกเกษม อายุ ๓๔ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๙๓ ม.๑๒ ต.ทะเลบก อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักมา จำนวน ๒ คัน โดย๒ คนดังกล่าว มีหน้าที่ตระเวนโจรกรรมรถจักรยานยนต์หลายพื้นที่ที่มีเขตติดต่อกันทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีพฤติการณ์ในการขับรถยนต์ตระเวนไปตามห้างต่างๆ เพื่อหารถเป้าหมายที่จะทำการโจรกรรม เมื่อพบรถเป้าหมายแล้วจะใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมาทำลายเบ้ากุญแจ และขับขี่นำรถมาส่งให้ชุดที่ทำหน้าที่แยกชิ้นส่วนบรรจุลงกล่อง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีก ๑ คน คือ

นายวัชรินทร์ หรือมืด คูณผล อายุ ๔๑ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๕๐ ม.๑๘ ต.โดด อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ โดยกล่าวหาว่ามีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ลักทรัพย์หรือรับของโจร พร้อมด้วยของกลาง จากการจับกุมผู้ต้องหาที่ได้ลักรถจักรยานยนต์ เพื่อนำมาแยกชิ้นส่วนบรรจุในกล่องพัสดุแล้วส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านนั้น จากการขยายผลจนทราบว่า หลังจากที่ได้นำรถจักรยานยนต์บรรจุกล่องแล้วจะมีนายวัชรินทร์ฯ ทำหน้าที่มารับพัสดุ แล้วไปส่งให้กับบริษัทขนส่งเอกชน เพื่อส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมของนายวัชรินทร์ฯ จนกระทั่งทราบว่า ในวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๑ นายวัชรินทร์ฯจะนำกล่องที่บรรจุรถจักรยานยนต์ ไปส่งให้กับบริษัทขนส่ง จึงติดตามจับกุมตัวนายวัชรินทร์ฯ ไว้ได้พร้อมด้วยของกลางดังกล่าว และสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ถูกบรรจุลงกล่องแล้วจำนวน ๕ คัน จากการสอบถามผู้ต้องหารับว่านายวัชรินทร์ฯรับว่ามีหน้าที่นำกล่องไปส่งให้กับบริษัทขนส่งเอกชน โดยปลายทางคือแม่สอดทุกครั้ง โดยได้ส่งสินค้าให้กับกลุ่มดังกล่าวมาตั้งแต่ปี ๒๕๖๐ โดยจะส่งทุกๆ ๒-๓ วัน จากการสืบสวนสอบสวนขยายผล ทำให้ทราบว่า นายวัชรินทร์ฯ มีส่วนเกี่ยวข้องในการโจรกรรมรถจักรยานยนต์หลายพื้นที่ที่มีเขตติดต่อกันทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจนกับสมาชิกในกลุ่ม โดยสร้างความเสียหายให้กับประชาชนทั่วไป
๓. สภ.บางบัวทอง จว.นนทุบรี

ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ คือ นายวัชรชัย หรือกอล์ฟ รัตนศิริ อายุ ๒๙ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๐ หมู่ ๓ ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ ๓๒๗ /๒๕๖๑ ลง ๑๙ มิ.ย.๖๑ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม , มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ (ยาไอซ์)ไว้ในความครอบครอง ทั้งหมดจะดำเนินคดีต่อไป

Loading