ชัยภูมิแจ้งข้อหาหนักเจ้าของ3สุนัขเขี้ยวโหดรุมกัด4ขวบดับพร้อมรับผิดย้ายหมาออกจากชุมชนแล้ว
พร้อมขอโทษทุกฝ่ายและรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด หลังคนในชุมชนไม่สบายใจว่าหากยังปล่อยให้สุนัขทั้ง 3 ตัวอยู่ในชุมชนหวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยได้อีก จึงขอนำสุนัขตัวเองที่ก่อเหตุทั้งหมดย้ายออกจากชุมชนไปอยู่บ้านญาติที่ต่างจังหวัดตามคำเรียกร้องของคนในชุมชนทั้งหมดแล้ว
( 21 ก.ย.61 ) ความคืบหน้า หลังเกิดเหตุสุดสะเทือนใจต่อคนในชุมชนไปทั่วและครอบครัวของด.ญ.หนูน้อง 4 ขวบเศษ “น้องตวงข้าว”หรือด.ญ.ธัญลักษณ์ สลิตกุล อายุ 4 ขวบเศษ ซึ่งถูกกลุ่มสุนัขรวม 3 ตัวของเพื่อนบ้านติดกันหลุดออกมาไล่รุมขย้ำกัดคอหอยหวิดขาด ฉีกร่างจนเด็กเสียชีวิตคาที่ ขณะน้องตวงข้าวออกไปปั่นจักรยานเล่นหลังเลิกเรียนตามปกติอย่างเช่นทุกวันบนถนนในซอยด้านหลังของบ้านตนเองเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 ก.ย.61 ที่ผ่านมา
หลังทางด้าน นางสาวเสาวรี จุลเขว้า อายุ 33 ปี แม่ของน้องตวงข้าว วัย 4 ขวบพร้อมด้วยญาติๆได้ตัดสินใจเดินทางแจ้งความและพาพยานที่เห็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ปากคำต่อ พ.ต.ท.เอกพล เพชรนอก รอง.ผกก.สภ.บ้านเขว้า และพ.ต.ต.ทองสุก รัตน์สีวอ สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี สภ.บ้านเขว้า เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดดำเนินคดีกับเจ้าของสุนัขเขี้ยวโหดรายนี้
ซึ่งล่าสุดในวันนี้เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ทางด้านพ.ต.ท.เอกพล เพชรนอก รอง.ผกก.(สอบสวน).สภ.บ้านเขว้า และพ.ต.ต.ทองสุก รัตน์สีวอ สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี สภ.บ้านเขว้า ได้เชิญตัวเจ้าของสุนัขรายนี้ที่เป็นต้นเหตุก่อเหตุครั้งนี้คือ นางสาวปิยวฎี แดงสร้อย อายุ 40 ปี เข้ามาพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.บ้านเขว้า เพื่อสอบสวนปากคำและแจ้งให้รับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม นานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าของสุนัขรายนี้ได้ยอมรับสารภาพตามข้อกล่าวหาในครั้งนี้
ซึ่งทางด้านพ.ต.ท.เอกพล เพชรนอก รอง.ผกก.(สอบสวน)สภ.บ้านเขว้า กล่าวว่า ความคืบหน้าของคดีขณะนี้ถือว่าเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว ที่ต่อไปจะได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งผู้ต้องหาดำเนินคดี จากนี้ต่อไปรวม 2 ข้อหา ที่มีการปล่อยปละละเลยฯ กระทำการโดยประมาทให้สัตว์เลี้ยงของตนเองออกไปทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีโทษหนักจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพื่อที่ทางจนท.ตร.จะได้รวบรวมพยานหลักฐานพิมพ์ลายนิ้วมือส่งตัวดำเนินคดีกับเจ้าของสุนัขตามกฏหมายต่อไป
โดยหลังรับทราบข้อกล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่เสร็จสิ้นครั้งนี้ นางสาวปิยวฎี แดงสร้อย อายุ 40 ปี เจ้าของสุนัขรายนี้ ได้เปิดเผยว่า อยากขอโทษต่อครอบครัวของน้องและคนในชุมชนทั้งหมดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย และพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างเต็มที่ เพราะไม่อยากมีใครอยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเลย อยากให้ผู้ที่เลี้ยงสุนัขและคนที่มีบุตรหลานเล็กๆช่วยกันระมัดระวังและไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกเลย
รวมทั้งในส่วนที่มีชาวบ้านในชุมชนต่างพากันหวาดผวาว่าเสี่ยงที่จะเกิดเหตุสุนัข 3 ตัวนี้ อาจจะหลุดออกมาไล่กัดทำร้ายคนและเด็กในชุมชนจำนวนมากได้ซ้ำรอยอีก และออกมาเรียกร้องให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยนำสุนัขกลุ่มนี้ออกจากชุมชนไปอยู่ในที่อื่นของหน่วยจะสามารถช่วยควบคุมสัตว์ดุร้ายเก็บรักษาเลี้ยงในที่ปลอดภัยกว่านี้แทน
ล่าสุดเองทั้งทางด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ เมื่อช่วงสายที่ผ่านมาได้สั่งประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ และนายอำเภอบ้านเขว้า เข้าเจรจาต่อเจ้าของสุนัขรายนี้ ซึ่งทางเจ้าของสุนัขก็ขอรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วยและยอมทำตามที่ชาวบ้านร้องขอเพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายคนในชุมชนทั้งหมดในครั้งนี้
นางปิยวฎี เจ้าของสุนัขดังกล่าวที่ต้องตกเป็นผู้ต้องหาแทนสุนัขเขี้ยวโหดครั้งนี้ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ไม่อยากให้เกิดความไม่สบายใจและเกิดความไม่เข้าใจกันในทางที่ไม่ดีอีก ทางครอบครัวตนเองพร้อมขอโทษทุกฝ่ายและพร้อมจะรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อครอบครัวน้องตวงข้าวทั้งหมด
รวมทั้งจากที่มีคนในชุมชนไม่สบายใจว่าหากยังปล่อยให้สุนัขทั้ง 3 ตัวอยู่ในชุมชนหวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยได้อีก ทางครอบครัวตนเองจึงขอย้าย นำสุนัขตัวเองที่ก่อเหตุทั้งหมดย้ายออกจากชุมชนไปเอง ไม่ต้องเดือดร้อนต่อเจ้าหน้าที่อีก เพื่อนำไปเลี้ยงที่บ้านญาติที่ต่างจังหวัดตามคำเรียกร้องของคนในชุมชนทั้งหมดแล้ว ขอให้ทุกฝ่ายได้เกิดความสบายใจขึ้น ซึ่งตนเองพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างจากนี้ไปหลังเสร็จงานเผาศพน้องตวงข้าวในวันพรุ่งนี้ต่อไป
////////ทีมข่าว จ.ชัยภูมิ รายงาน/////////
