วันอาทิตย์, 6 ตุลาคม 2567

บรรยากาศสวดพระอภิธรรมคืนแรกเหตุสังหารยกครัว”มีแต่ญาติ

02 ม.ค. 2019
29

สวด5ศพคืนแรกมีแต่ญาติสนิท
ที่ สำนักสงฆ์ปะติมะ ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะจ.ชุมพร ชาวบ้านใน อ.พะโต๊ะ ได้ช่วยกันตบแต่งหีบบรจุศพ ของ สมาชิกในตระกูล อ่อนมุกข์ จำนวน5 คน โดยใช้หีบปรับอากาศ และ ตบแต่ง ด้วยดอกไม้สวยงาม เท่าที่หาได้ในท้องถิ่น บางส่วยนก็เตรียมอาหารไว้ต้อนรับแขกที่จะมาร่วมงาน


ในคืนแรกของการสวดพระอภิธรรมศพ ของ คนทั้ง 5 คน มี เพียงญาติสนิท ลูกหลานในตระกูล อ่อนมุกข์ ที่อยู่ ใน จ.ชุมพรเดินทางมาร่วมงาน มีนายทินกร อ่อนมุกข์ ลูกชายคนสุดท้องที่ยังมีอาการบาดเจ็บ แผลที่ถูกยิงบริเวณลำตัว แต่ยังคงมาร่วมในการต้อนรับแขก ในช่วงเย็น นางสาวบุณยนุช ศรสังข์ ภรรยา ของนายสุชีพ ศรสังข์ มือสังหารที่ปลิดชีพคนในตระกูล อ่อนมุกข์ ได้เดินทางมาถึง แต่พยายามหลบหน้านักข่าว ไม่ให้บันทึกภาพ เมื่อเสร็จพิธีก็รีบขึ้นรถยนต์ฟอรจูนเนอร์ ออกไปจากบริเวณที่จัดงานทันที จนเป็นวิพากษ์ วิจารณ์ของชาวบ้านว่าไม่เหมาะสม


บรรยายกาศ ของงานในวันแรก มีแต่เงียบเหงา เศร้า ของผู้ที่สนิทกับคนในตระกูล อ่อนมุกข์ เนื่องจาก คนในตระกูลไม่เคยสร้างความเดือดร้อนหให้ใคร จึงเป็นที่รักใคร่ของ คนรอบข้าง ในวันนี้ไม่มีแกนนำของกลุ่มมวลชนใดๆเดินทางมาร่วมในพิธี

ยิง7ศพ นอภ.ลั่นเอาตัวเจ้าของปืน มาดำเนินคดีด้วย
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 2 มค.62 ที่วัดปะติมะ ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร นายอุดม บุญญโส นายอำเภอพะโต๊ะ เดินทางไป ตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยในการบำเพ็ญกุศลศพ ทั้ง 5 ราย ที่เป็นเหยื่อคมกระสุนปืนโหด เปิดเผยว่า”ในส่วนของ อำเภอจะให้การช่วยเหลือในการบำเพ็ญกุศลศพ อย่างเต็มที่ เป็นเจ้าภาพ ช่วยในขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้งานผ่านพ้นไปได้ ด้วยดี เนื่องจาก ในครอบครัวนี้เหลือ เพียงนายทินกร อ่อนมุกข์ และ นางสาวบุญยนุช ศรสังข์ พี่สาว เท่านั้น และ อยู่ในสภาวะที่กำลังเสียใจอย่างหนัก เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ที่กำลังตกทุกช์ นอกจากนั้นได้ประวานไปยัง รพ.พะโต๊ะ เพื่อให้เข้ามาดูแล ทางด้านสุขภาพจิต ของ นายทินกร ถึงแม้ในช่วงนี้จะยังเข็มแข็ง แต่เมื่อผ่านพ้นงานศไปแล้ว จะต้องคอยช่วบยดูแล ทางด้านสุขภาพจิต ด้วย

ใมนส่วนอาวุธปืนที่ใช้สังหาร เบื้องต้นทราบว่า เป้นปืนที่มีการจดทะเบียนได้ในท้องที่อำเภออื่น แต่ไม่ใช่ปืนของ นายสุชีพ ศรสังข์ แต่ได้ไปซื้อมาจากเพื่อน และยังไมได้โอน พร้อมทั้งกำลังประกาศต่อ ซึ่ง ทางอำเภอจะต้องไปสืบหาว่า เจ้าของปืนเป็นใคร และจะต้องเรียกมาสอบปากคำ ว่ามีส่วนรู้เห็นในการก่อเหตุในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ ในขณะที่อำเภอพะโต๊ะ มีคววามเข้มงวดในการอนุญาติการมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองของ ปชช.มาก ส่วนใหญ่จะอนุญาติ ปืนเล็กยาว .22เพื่อไว้ใช้ในบ้านเท่านั้น

เมียมือสังหาร7ศพเปิดใจครั้งแรก ทนเจ็บกายใจมานานนับปี
เมื่อเวลา12.00 น.วันที่ 2 มค.62 ที่ วัดปะติมะ ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ที่เป็นตั้งศพ ของเหยื่อคมกระสุนปืน 5ราย เป็นคนในครอบครัว อ่อนมุกข์ นายอำนวยบุญญโส นายอำเภอพะโต๊ะ ได้พูดคุย กับ นาวสาวบุญยนุช ศรสังข์ อายุ37 ปี ภรรยาของนายสุชีพ ศรสังข์ มีอสังหารโหด 7 ศพ เพื่อเป็นกำลังใจ ให้กับสองพี่น้อง ในครอบครัว อ่อนมุกข์ เพื่อให้ต่อสู้ชีวิตต่อไป


หลังจากนั้น นางสาวบุณยนุช หรือ น้องจุ๊ ยอมเปิดใจกับสื่อมวลชน เป็นครั้งแรก หลังจากปฏิเสธ การพูดคุยตั้งแต่เมื่อวานนี้ บอกว่า รู้สึกเสียใจและช็อคมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีคนก่อเหตุยิงยกครัว เปิดเผยเพราะความขี้หึงและเป็นคนใจร้อน อีกทั้งเป็นคนไม่ทำอะไรเลย ทำให้ทุกคนไม่ยอมรับ จึงมีการบ่นบ้างตามธรรมดา ซึ่งเค้าควรจะรู้ตัวบ้าง อีกทั้งคนอื่นมองเค้าเป็นคนดีนั้นแค่เปลือกนอกแต่คนในบ้าน ยอมรับว่าอึดอัดใจที่ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน เหตุการณ์ในครั้งนี้ สร้างความสะเทือนใจให้กับตนเองเป็นอย่างมาก แม้จะพยายามทำใจแล้วแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะต้องรับข้อมูลกระแสข่าวที่คนภายนอกไม่รับรู้ ว่าทางบ้านของตนเองกดดันทำให้นายสุชีพ สามี ได้ใช้อาวุธปืนยิงทุกคนในครอบครัวของตนเองตายไปถึง 6 คน

นางสาวบุญญานุช กล่าวว่า คนภายนอกอาจจะดูว่า นายสุชีพ เป็นคนดี มีความเป็นสุภาพบุรุษ ชอบช่วยเหลือคน อีกทั้งยังเป็นคนโน้มน้อม แต่ในความจริงนั้น ภายในบ้านกลับตรงกันข้าม เพราะตั้งแต่อยู่กินกันมานับ 10 ปี ใหม่ๆจะดูดี สุภาพ แต่นับวันนานเข้า นายสุชีพ เริ่มออกลาย ทำในสิ่งไม่ดีหลายๆอย่าง อีกทั้งเป็นคนขี้หึงอย่างรุนแรง ชนิดคอยตามโทรจิกหาตนตลอดเวลา ซึ่งนายสุชีพ ก็รู้ว่าอาชีพของตนต้องพบปะลูกค้า ทำงานไม่เป็นเวลา

นางสาวบุญญานุช กล่าวต่อว่า นายสุชีพ เคยทำร้ายถึงขนาดใช้อาวุธปืน ไล่ยิง ตนเองมาแล้วก็มี ใช้กำลังทำร้ายร่างกายถึงขนาดหามส่งโรงพยาบาลมาแล้วก็หลายครั้ง และหนักสุดชกตนถึงขนาดม่านตาแตก ตนต้องหอบร่างไปแจ้งมูลนิธิของปวีณามาแล้ว ซึ่งทุกครั้งที่ตนจะฟ้องหย่า นายสุชีพ ก็จะเอาลูกมาเป็นตัวประกัน ซึ่งตนก็ต้องอ่อนใจทุกครั้งเพราะสงสารลูกไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยก ซึ่งลึกๆตนแค้นมากและเคยบอกกับเค้าด้วย แต่แทนที่เค้าจะสำนึกกลับหนักข้อขึ้นกว่าเดิม จนตนต้องหนีออกจากบ้านไป ซึ่งก็ทำให้นายสุชีพ โกรธแค้นหนัก ชนิดโทรขู่ฆ่าตนและครอบครัว

นางสาวบุญญานุช กล่าวต่ออีกว่า ยอมรับว่าทางครอบครัวไม่มีใครชอบนายสุชีพ เนื่องจากไม่สนใจที่จะช่วยเหลือที่บ้านเลย แม้กระทั้งค่าเลี้ยงดูลูกทั้งสองคน ซึ่งก็เป็นลูกของเค้าเอง เงินที่มีก็พาไปกินเหล้าเมายา ปล่อยให้เป็นภาระตนและครอบครัว ซึ่งก็มีบ้างที่เค้าจะต้องบ่น ต้องว่ากล่าวกัน ประกอบกับเมื่อวันปีใหม่ที่ผ่านมา เค้าเองตั้งใจว่าตนเองจะต้องกลับมาเยี่ยมบ้านเพื่อมาเยี่ยมแม่และลูก แต่ตนไม่ได้กลับไปเพราะติดงานที่พัทยา ทำให้เค้าโกรธแค้น และยังมาได้ยินเสียงบ่นจากคนในครอบครัวเข้าอีก จึงน่าจะเป็นมูลเหตุทำให้เค้าก่อเหตุโหดร้ายในครั้งนี้ ซึ่งความโกรธแค้นที่มีต่อกันได้จบลงไปกับความตายของเค้าเอง และหากวันนั้นตนเองอยู่ด้วย ศพแรกนั้นที่นายสุชีพ ที่จะยิง ก็คือตนแน่นอน

นายสาธิต ศรีหฤทัย จ.ชุมพร

Loading