ลูกท๊อปตัดสินใจไม่ผิดเลือกประภัตรเป็นเลขาฯ
นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยที่ จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่านายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา อยู่กับพรรคชาติไทยเดิม มาก่อน นายบรรหาร ศิลปอาชา ถ้าย้อนเวลากลับไป ตนก็จะตัดสินใจเลือกนายประภัตรเป็นเลขาธิการพรรคฯ อย่างที่ตัดสินใจ เพราะในประเทศไทยในสังคมไทย สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออาวุโส ไม่ใช่ประสบการณ์ ที่สังคมบอกต้องการคนรุ่นใหม่ในวงการธุรกิจอาจจะใช่แต่ในวงการการเมืองตราบใดที่ยังมีอาวุโสอยู่ นั้นไม่ได้
ชทพ.ส่งผู้สมัคร 320 เขต
ชีวิตคนเราต้องมีค่าเล่าเรียน แต่ละช่วงจังหวะของชีวิต ประสบการณ์จะเกิดขึ้นได้ ความสำเร็จของตนเกิดจากความล้มเหลวของตน ถ้าไม่มีความล้มเหลวก็จะไม่เกิดความสำเร็จ ถ้าไม่มีค่าเล่าเรียนก็จะไม่ได้เรียนรู้ประสบการณ์ ถ้าตนยังเดินหน้าต่อไปในที่จะใช้ 5 เสือคนรุ่นใหม่ในวันนั้น พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้เกิดมาเมื่อวานซึน ไม่เหมือนพรรคการเมืองใหม่ๆที่ตั้งขึ้นมาโดยไม่มีระดับอาวุโส และยังเดินในเส้นทาง 5 เสือคนรุ่นใหม่ที่ว่าตนจะเสียใจ เพราะการทำพรรคการเมืองไม่ได้ทำคนเดียว
พรรคชาติไทยพัฒนา เราส่งผู้สมัคร 320 เขต 70 จังหวัด ภาคใต้ส่ง 49 เขต จาก 50 เขต ภาคกลางมีไม่ส่ง 5 จังหวัดคือนครนายก สระแก้ว อ่างทอง อุทัยธานีและประจวบคีรีขันธ์ ส่วนภาคเหนือที่ไม่ส่งคือคือ พะเยาว์กับแพร่ ส่วนอีสานส่งครบทุกจังหวัด ถามว่าถ้าลำพังเด็กๆอย่างพวกตนจะมีปัญญาทำได้แบบนี้หรือเปล่า การที่จะทำพรรคการเมืองได้ต้องใช้ผู้ที่มีประสาบการณ์ ตนและคนรุ่นใหม่ที่เคยประกาศไว้ อาจจะไม่มีศักยภาพพอที่จะไปหาผู้สมัครมา 320 คน ทั่วประเทศได้ จึงต้องอาศัยผู้ใหญ่ในการทำงาน ต้องอาศัยประสบการณ์
สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของตนคือพรรคชาติไทยพัฒนา และใครก็ตามที่จะเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตของพรรคฯตนยอมไม่ได้ รวมทั้งท่าคนๆนั้นคือตนและตนมาเป็นหัวหน้าพรรคฯแล้วทำให้พรรคฯหดเหลือแค่นี้ ตนก็ต้องเอาตัวตนออก ดังนั้นคนที่เหมาะคือ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา และพรรคชาติไทยพัฒนาเกิดมาได้จากน้ำพรรคน้ำแรงของผู้ใหญ่ จู่ๆตนจะมาถีบหัวทิ้งตนทำไม่ได้
เปิ้ล ซีโฟร์ / พิราบ 3 เมืองสุพรรณ