วันจันทร์, 28 ตุลาคม 2567

เริ่มแล้ว!!เทศกาลช้างบานหอมกรุ่น”ทั่วอุทยานในสวนป่า”

เริ่มแล้ว!! เทศกาลช้างบานหอมกรุ่นทั่วอุทยานในสวนป่า

อุทยานกล้วยไม้เดอะบลูมส์ ออร์คิดพาร์ค อ.บางแพ จ.ราชบุรี ชวนเที่ยวชมกล้วยไม้ตระกูลช้าง 1 ปีบางครั้งเดียว เริ่มผลิช่ออวดโฉม ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ 1 ใน 12 เมืองต้องห้าม…พลาด ที่ ททท.บรรจุไว้ในปฏิทินแห่งการท่องเที่ยว ประชาชนพาครอบครัวหนีฝุ่นละอองมาพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น

วันที่ 28 ม.ค.62) บรรยากาศที่บริเวณอุทยานกล้วยไม้ เดอะบลูมส์ ออร์คิดปาร์ค ( The Blooms Orchid Park ) ตั้งอยู่เลขที่ 65 หมู่ 7 ต.วัดแก้ว อ.บางแพ จ.ราชบุรี เป็น 1 ใน 12 เมืองที่ต้องห้าม… พลาด ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บรรจุไว้ในปฏิทินด้านการท่องเที่ยว กำลังคึกคักเต็มนักท่องเที่ยว ทั้งผู้สูงอายุ คู่รัก หนุ่มสาว พาครอบครัว เข้ามาพักผ่อนกันเป็นจำนวนมาก บนพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ แบ่งการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ ประมาณ 20 ไร่ และพื้นที่ปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ที่หายากโดยเฉพาะช่วงนี้ที่อุทยานฯกำลังมีกล้วยไม้ช้างหลากหลายสายพันธุ์ที่เริ่มผลิบานชูช่อส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปเกือบทั่วอุทยานในสวนป่า นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาชมความสวยงามของกล้วยไม้ช้างที่จะบานให้เห็นเพียงปีละ 1 ครั้ง ยาวไปประมาณเกือบ 1 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ ซึ่งถ้าอากาศหนาวเย็น ก็จะทำให้กล้วยไม้ช้างมีลักษณะช่อที่ยาวสมบูรณ์ และยืดอายุการบานได้นานกว่าอากาศร้อนที่ช่อดอกจะค่อนข้างสั้น ท่ามกลางมวลไม้ดอกสีสันสวยงามเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาพักผ่อน

ทั้งนี้ นางรัชยาวรรณ ยุกแผน ผู้บริหารเดอะบลูมส์ เปิดเผยว่า กล้วยไม้สกุลช้างจะมีอยู่ 3 ชนิด ได้แก่ ช้าง ไอยเรส และ เขาแกะ ซึ่งกล้วยไม้ช้างจะบานช่วงฤดูหนาว ส่วนไอยเรส จะบานก่อนต้นฤดูฝนประมาณเดือน พฤษภาคมช่อดอกจะยาวห้อยระย้าลงมา ส่วนเขาแกะจะออกเรื่อย ๆ มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง กล้วยไม้ช้างมีหลายสี เช่น ช้างเผือก สีขาวล้วน ช้างกระมีจุดสีชมพูเรียก และก็ยังมีช้างพราย ช้างการ์ตูน นอกจากนี้ยังมีช้างส้ม ช้างชมพู ช่อดอกจะห้อยลงมาหรือตั้งขึ้น ความยาวของช่อดอกเกือบเท่าๆของใบยาวประมาณ 20-40 ซม. มีดอกแน่นช่อละ 25-60 ดอก มีกลิ่นหอมฉุน หอมไกล ลักษณะแตกต่างจากกล้วยไม้สกุลอื่น ๆ คือ มีลำต้นสั้น แข็งแรง ใบแข็ง หนาค่อนข้างยาว อวบน้ำ เรียงชิดกันอยู่บนลำต้น ใบเป็นร่อง ซึ่งมีการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ออกมาเรื่อย ๆ ตามอายุการบานของช้างจะบานอยู่ประมาณ 3 อาทิตย์ขึ้นอยู่กับอากาศ ถ้าอากาศร้อนจะบานแล้วโรยเร็ว แต่ถ้าอากาศเย็นจะส่งเสริมให้ช่อมีลักษณะยาวขึ้นทำให้ดอกอยู่ได้นานยิ่งขึ้น บางปีอาจจะบานถึง 1 เดือน แต่ด้วยสภาพอากาศของประเทศไทยฤดูกาลแปรปรวนบ่อย ฤดูหนาวแทบไม่มี ทำให้กล้วยไม้ช้างสับสนกับการออกดอกปีละครั้ง แม้จะเจอกับอากาศที่แปรปรวนแต่ก็ยังคงออกดอกให้ชมได้ทุกปี และที่นี่ถือว่ามีกล้วยไม้ช้างที่มากที่สุดในประเทศ เพราะที่อุทยานฯจะพยายามติดฝัก เพาะช้างต้นเล็กๆขึ้นมาทุกปี หลังจากการเพาะได้ประมาณ 3 ปี ช้างก็จะเจริญเติบโตเริ่มให้ดอก ทำให้ที่อุทยานฯจะมีกล้วยไม้ช้างทุกสายพันธุ์ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ยลโฉมทุกปีมากขึ้นเรื่อย ๆ

นอกจากกล้วยไม้ช้างจะบานในช่วงนี้แล้วก็ยังจะมีกล้วยไม้หลายสายพันธุ์ที่จะเบ่งบานในช่วง 5 เดือนแรกของปี พอถัดจากกล้วยไม้ช้างช่วงมกราคม- กุมภาพันธ์แล้ว เดือนมีนาคมเริ่มจะเริ่มเห็นกล้วยไม้เอื้องผึ้งดอกสีเหลือง ประมาณเดือนเมษายน ก็จะมีเอื้องสาย เอื้องกุหลาบ ประมาณเดือนพฤษภาคม จะพบกับกล้วยไม้ไอยเรสจะห้อยระย้าเป็นสายยาว หลังจากนั้นก็จะมีกล้วยไม้แปลกหลายชนิดที่จะบานตามฤดูกาล นักท่องเที่ยว จะได้ชมสวนป่าที่มีต้นไม้นานาพันธุ์หลายชนิด หลายสายพันธุ์ที่หาชมยาก เช่น ต้นกันเกรา พยุง สารภี มะหาด ตะคร้อ

ภายในยังมีน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ให้นั่งพักผ่อนในบรรยากาศที่ร่มรื่น และยังมีจุดมุมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพสวย ๆ ท่ามกลางดอกกล้วยไม้ที่สวยงาม ยิ่งช่วงนี้ประชาชนกำลังประสบปัญหาเรื่องหมอกควัน ทำให้สวนป่าแห่งนี้เปรียบเหมือนกับเป็นปอดอย่างดีให้กับประชาชนทั่วไปที่จะเข้ามาพักผ่อนได้ตลอด

สำหรับการเดินทางมา The Blooms Orchid Park จากกรุงเทพฯ เพียง 84 กิโลเมตร สามารถใช้เส้นทางถนนสายเพชรเกษม ผ่าน จ.นครปฐม ตรงผ่านสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จากนั้นใช้สะพานข้ามสี่แยกบางแพตงมาประมาณ 4 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายที่คลองชลประทานหลัก กม.ที่ 84+380 ม. ตรงมาประมาณ 4 กม. ก็จะถึง The Blooms Orchid Park จะอยู่ด้านขวามือ เปิดให้เที่ยวชมระหว่างเวลา 9.00น. – 17.00 น. ทุกวัน

สุจินต์ นฤภัย (เต้)

Loading