วันศุกร์, 7 กุมภาพันธ์ 2568

บิ๊กแซ็ก-เดอะโอ๋!!!นำทีมชุดสืบสวน” ทลายแก๊งแมวนำ้”รายใหญ่รวบผู้ต้องหา 10 รายพร้อมของกลางจำนวนมาก”

06 ก.พ. 2019
26

บิ๊กแซ็ก”เดอะโอ๋” นำทีมชุดสืบสวนทลาย “แก๊งแมวน้ำ” รายใหญ่รวบผู้ต้องหา 10 รายพร้อมของกลางจำนวนมาก

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1(บช.ภ.1)พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.บช.ภ.1 พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ภานุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี

ผกก.สส.1บก.สส.ภ.1พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สภ.ช้างใหญ่ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 10 คน นายภาณุพงศ์ ไชยถา อายุ 23 ปีอยู่บ้านเลขที่ 62/2 ม.3 ต.มะกอก อ.ป่าซาง จว.ลำพูน น.ส.ปิยะมาศ แป้นจั่น อายุ 27 ปีอยู่บ้านเลขที่ 26/2 ม.5 ต.มาบแก อ.ลาดยาว จว.นครสวรรค์ น.ส.สุนทรี แป้นจั่น อายุ 27 ปีอยู่บ้านเลขที่ 26/2 ม.5 ต.มาบแก อ.ลาดยาว จว.นครสวรรค์ นายประสิทธิ์หรือหมี สุทธิบุตร อายุ 36 ปีอยู่บ้านเลขที่ 73 ม.10 ต.กระโสบ อ.เมืองอุบลราชธานี จว.อุบลราชธานี นายธนันวัฒน์หรือแหว่ง บุณยทวีเกียรติ อายุ 56 ปีอยู่บ้านเลขที่1/13 ซ.ปริยานนท์ แขวง บางโพงพาง เขตยานาวา กรุงเทพฯนายสมชาย สาแย้ม อายุ 67 ปีอยู่บ้านเลขที่ 34/2 ม.1 ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จว.นนทบุรี นายชูศักดิ์ สาแย้ม อายุ 56 ปีอยู่บ้านเลขที่ 47 ม.1 ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จว.นนทบุรี นายคมสัน ศรีเทพ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/71 ซ.พระยามนธาตุฯแยก 12 แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯนายดำรัสหรือแก่น ดวงแก้ว อายุ 37 ปีอยู่บ้านเลขที่ 90 ม.9 ต.น้ำอ้อม อ.เกษตรวิสัย จว.ร้อยเอ็ดและนายสมพร หรือยัน ชัยยะวง สัญชาติลาวพร้อมด้วยของกลาง ข้าวสารที่บรรจุอยู่ในกระสอบน้ำตาลทรายขาว บริษัทน้ำตาลเอราวัณ จำนวน 6 กระสอบ กระสอบน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ บริษัทน้ำตาลไทยรุ่งเรือง จำนวน 6 กระสอบ กระสอบน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ คริสตอลลา จำนวน 53 กระสอบ กระสอบน้ำตาลมิตรผล จำนวน 55 กระสอบ กระสอบน้ำตาลทรายขาว KSL GROUP จำนวน 122 กระสอบ(บรรจุข้าวสาร)จักรเย็บกระสอบ 3 เครื่อง ข้าวสารจำนวน ครึ่งกระสอบ รถเข็นขนของ 9 คัน เรือชะล่า(เรือเหล็ก) 1 ลำ เรือชะล่า (เรือไม้) 1 ลำมูลค่าความเสียหายของข้าวสารจำนวน 1,162 กระสอบ คิดเป็นเงินมูลค่า 618,300 บาท

พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่าเมื่อวันที่ 7 ม.ค.62 ที่ผ่านมา บริษัทในเครือกลุ่มธนสรรไรซ์ เจ้าของสินค้าข้าวสาร และบริษัท วอเทอร์โบ๊ท จำกัด โดยนางสาวธัญรดี พรวัฒนเศรษฐ์ ผู้รับมอบอำนาจ ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สามโคก ว่าข้าวสารจำนวน 378 กระสอบได้สูญหายไปขณะทำการขนส่งทางเรือระหว่างเดินทางจาก อ.สามโคก จว.ปทุมธานี ไปขึ้นเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่ อ.เกาะสีชัง จว.ชลบุรี จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาที่ร่วมกันลักข้าวสารไปจากเรือโป๊ะลากคือ นายภาณุพงศ์ ไชยถา และ น.ส.ปิยะมาศ แป้นจั่น ผู้ควบคุมเรือโป๊ะอลิซ 17

พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า จากการสืบสวนขยายผลของทางเจ้าหน้าที่ทราบว่ากลุ่มผู้ร่วมขบวนการมีน.ส.สุนทรี แป้นจั่น จะทำหน้าที่เป็นนายหน้าติดต่อผู้รับซื้อคือนายประสิทธิ์หรือหมี สุทธิบุตร ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งแมวน้ำ จะทำหน้าที่ติดต่อรับซื้อและคุมทีม ส่วนนายสมชาย สาแย้ม และนายชูศักดิ์ สาแย้ม จะทำหน้าที่ขนส่งข้าวสาร นายธนันวัฒน์ หรือ แหว่ง บุณยทวีเกียรติ ทำหน้าที่เป็นนายทุน,นายจ้าง,สั่งการ นายคมสัน ศรีเทพ จะทำหน้าที่ขับรถบรรทุกขนส่งสินค้าทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ประสานข้อมูลกับพ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สภ.ช้างใหญ่ซึ่งพบว่ามีเหตุเกิดในลักษณะเดียวกันจึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่ามีผู้ต้องหาอีก 2 คนที่ได้ร่วมกันก่อเหตุในเขตพื้นที่ สภ.ช้างใหญ่คือนายดำรัส หรือ แก่น ดวงแก้วจะทำหน้าที่สรั่งเรือ นายสมพร หรือ ยัน ชัยยะวง สัญชาติลาว ทำหน้าที่ผู้ช่วย

พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวอีกว่าทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ร่วมกันบูรณาการเร่งรัดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานมาโดยตลอด จนกระทั่งสืบทราบขบวนการของกลุ่มคนร้าย จนนำไปสู่การขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดต่อมาในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมบูรณาการกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ทั้งหมด”ภายใต้ยุทธการขุดรากถอนโคนทลายแก๊งค์แมวน้ำในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1” สามารถจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการได้ทั้งหมด จำนวน 10 ราย พร้อมของกลางดังกล่าว


พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวอีกด้วยว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ขยายผลจนสามารถจับกุมนายภาณุพงศ์และน.ส.ปิยะมาศ สองสามีภรรยาซึ่งมีหน้าที่ควบคุมเรือบรรทุกข้าวสารไปส่งที่เกาะสีชังซึ่งระหว่างทางได้ติดต่อกับน.ส.สุนทรีซึ่งเป็นพี่สาวของน.ส.ปิยะมาศเพื่อให้ติดต่อหาคนมาซื้อข้าวสารที่บรรทุกอยู่บนเรือในราคา 22,000 บาทโดยจะจ่ายค่านายหน้าให้จำนวน 1,500 บาท น.ส.สุนทรีจึงได้ติดต่อแก๊งแมวน้ำผ่านนายประสิทธิ์เพื่อนำเรือมาเทียบและลักข้าวสารไปจำนวน 376 กระสอบรวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 108,000 บาทเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.61ที่ผ่านมาที่ บริเวณท่าเรือเมรีน่าในพื้นที่ สภ.สามโคก จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ขยายผลจับกุมขบวนการเดียวกันในพื้นที่ สภ.ช้างใหญ่ จับกุมนายดำรัส ดวงแก้ว และนายสมพรหรือยันต์ ชาวลาว ซึ่งได้ร่วมกันลักข้าวสาร มาแล้ว 2 ครั้ง โดยติดต่อผ่านนายประสิทธิ์ เป็นผู้นำเรือมาเทียบและลักข้าวสารไปจำนวน 786 กระสอบรวมมูลค่าความเสียหาย 510,200 บาท ที่บริเวณท่าเรือพลพิพัฒน์ เมื่อวันที่ 22-28 ธ.ค.61 โดยกลุ่มขบวนการแก๊งแมวน้ำจะทำการติดต่อซื้อขายกับผู้ควบคุมเรือขนสินค้า อาทิ ข้าวสาร น้ำตาล เมล็ดพืช ซึ่งล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา จากท่าเรือลงสินค้านำไปส่งเรือบรรทุกสินค้าใหญ่ในน่านน้ำอ่าวไทย อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี เพื่อนำไปขายยังต่างประเทศ โดยจะมีการนัดหมายกันนำเรือเข้าประกบและขนถ่ายสินค้าหรือลักเอาสินค้าในระหว่างทางในการเดินเรือโดยแก๊งแมวน้ำจะเลือกพื้นที่ก่อเหตุในจ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ สมุทรปราการ จากนั้นก็นำสินค้าขึ้นรถบรรทุกไปยังโกดังเพื่อสับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์แล้วนำไปขายให้กับลูกค้าทั่วไปตามโรงงานอาหารสัตว์ย่านจังหวัดนครปฐม

พล.ต.ต.ธนายุตม์ รอง ผบช.ภ.1 กล่าวต่อว่าอยากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังให้ผู้ประกอบการ การขนส่งสินค้าทางน้ำไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร น้ำตาล ปุ๋ย และเมล็ดพันธุ์พืช หรือสินค้าอื่นๆ ที่ใช้เรือในการขนส่งสินค้าออกต่างประเทศ ทราบถึงวิธีการของคนร้ายและเฝ้าระวังป้องกัน เนื่องจากคดีลักษณะนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านการส่งออกสินค้าสู่ต่างประเทศ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของต่างชาติ และเพื่อความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของประเทศ
โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ”ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะ(เรือ)เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม “
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สามโคก และสภ.ช้างใหญ่สอบสวนขยายผลผู้ที่ร่วมขบวนการรายอื่นๆและจะติดตามจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Loading