วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

สืบภาค 1 ตามรวบยกแก๊งคนร้ายก่อเหตุ”ปล้นทรัพย์”

สืบภาค 1 เจ๋ง ตามรวบยกแก๊งคนร้ายก่อเหตุ”ปล้นทรัพย์”


วันนี้ 4 เมษายน 62 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตารวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธารงค์ รองผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต. สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จว.ชัยนาท พ.ต.อ.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ. ชยานนท์ มีสติ รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด ผกก.3 สส.บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ประภาส เหมือนปิ๋ว ผกก.สส.ภ.จว.ชัยนาท พ.ต.อ อารักษ์ สมถวิล ผกก.สภ.หางน้ำสาคร ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 6 คนในคดีปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และ รับของโจร นายธนิตพงศ์ บารมีธีระภัสร์ อายุ 43 ปีอยู่บ้านเลขที่ 3/250 ซอยสะแกงาม 14 แยก 2 ต.แสมดำเขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชัยนาท ที่ 1/2562 ลงวันที่ 8 มกราคม 2562 ข้อหา “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน”นายธนเดช แจ้งกระจ่าง อายุ 48 ปีอยู่บ้านเลขที่ 6/3 หมู่ 2 ต.บางกะเจ้า อ.พระประแดง จว.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชัยนาท ที่ 5/2562 ลงวันที่ 8 มกราคม 2562 ข้อหา “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน”นายบรรพต ฟักเจริญ อายุ 35 ปีอยู่บ้านเลขที่ 466/1 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวง ศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชัยนาท ที่ 10/2562 ลงวันที่ 8 มกราคม 2562 ข้อหา “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน”นายไวพจน์ ทวีพูน อายุ 49 ปีอยู่บ้านเลขที่ 13/1 ถนน มิตรภาพ ต.แก่งคอย อ.แก่งคอย อ.แก่งคอย จว.สระบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชัยนาท ที่ 6/2562 ลงวันที่ 8 มกราคม 2562 ข้อหา “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน”นายเกรียงศักดิ์ สมสร อายุ 39 ปีอยู่บ้านเลขที่ 445/8 ถนนนนทรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชัยนาท ที่ 9/2562 ลงวันที่ 8 มกราคม 2562 ข้อหา “รับของโจร”นายคมเพชร์ โพธีวัต อายุ 49 ปีอยู่บ้านเลขที่ 42/269 ซอย เลียบฯฝั่งถนนเหนือ 8/1 แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชัยนาท ที่ 8/2562 ลงวันที่ 8 มกราคม 2562 ข้อหา “รับของโจร”พร้อมด้วยของกลางที่ตรวจยึดได้มี รถยนต์เก๋ง ฮอนด้า สีขาว ซีวิค หมายเลขทะเบียน 5 กฮ 5473 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง พระเครื่องชนิดต่างๆ จำนวน 7 องค์ คือ พระเครื่องหลวงปู่ทวดเนื้อโลหะ จำนวน 1 องค์พระเครื่องท่ากระดานเนื้อโลหะจำนวน 1 องค์ พระเครื่องพระอาจารย์ฟั่นเนื้อโลหะจำนวน 2 องค์พระเครื่องหลวงพ่อธรรมจักรเนื้อโลหะจำนวน 1 องค์พระเครื่องนางพญาเนื้อดิน จำนวน 2 องค์ พระเครื่องและเครื่องราง จำนวน 4 รายการ คือ มีดหมอหลวงพ่อเดิม ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 1 เล่มมีดหมอหลวงพ่อเดิม ขนาด 6 นิ้ว,พระรูปหล่อหลวงพ่อพรหมจำนวน 1 องค์ เหรียญหล่อหลวงพ่อพรหมจำนวน 1 องค์


พล.ต.ต. ธนายุตม์ กล่าวว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ระหว่างเวลาประมาณ 20.30 น.ได้มีคนร้ายจำนวน 6 คนก่อเหตุปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนที่บ้านเลขที่ 85/9 หมู่ 5 ต.อู่ตะเภา อ.มโนรมย์ จว.ชัยนาทซึ่งเป็นบ้านของ นางละไม ทับฤทธิ์ อายุ 68 ปีโดยคนร้ายได้ทรัพย์สินไปเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 4 บาทพร้อมพระเลี่ยมทองจำนวน 4 องค์และพระเครื่องอีกเป็นจำนวนมาก โดยคนร้ายสวมหน้ากากอนามัยและสวมใส่หมวกไหมพรหมแบบไอ้โม่ง ปิดบังใบหน้าได้งัดกระจกหน้าต่างบานเกร็ดเข้ามาภายในบ้านของ นางละไมและหลานสาวซึ่งกำลังนอนพักผ่อนอยู่ โดยคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนจี้บังคับข่มขู่ไม่ให้นางละไม ขัดขืนแล้วจับนางละไมและหลานสาวมัดขังไว้ภายในห้องนอนแล้วคนร้ายได้ขึ้นไปที่บริเวณบนชั้นสองของบ้านรื้อค้นทรัพย์สินพร้อมตัดตู้เซฟเอาทรัพย์สินของมีค่าเช่นพระเครื่องและเครื่องรางของเกจิอาจารย์ดังจำนวนกว่า 200 องค์แล้วพากันหลบหนีไป

พล.ต.ต. สุภธีร์ กล่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.1 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเก็บวัตถุพยานหลักฐาน พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามสถานที่ใกล้เคียงและตามเส้นทางต่างๆซึ่งคลาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี
จากการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่มาก่อเหตุดังกล่าวคือนายธนิตพงศ์ บารมีธีระภัสร์ นายธนเดช แจ้งกระจ่าง นายบรรพต ฟักเจริญ และนายไวพจน์ ทวีพูน
ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดชัยนาท และได้ติดตามจับกุมจนกระทั่งจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนได้ในเวลาต่อมา

พล.ต.ต. สุภธีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่าจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันปล้นทรัพย์บ้านของ นางละไมจริง โดยก่อนลงมือก่อเหตุพวกตนได้ข้อมูลมาว่าที่บ้านหลังดังกล่าวว่ามีทรัพย์สินเก็บไว้ในตู้เซฟภายในบ้านเป็นจำนวนมากและที่บ้านหลังมีเพียงผู้หญิงแก่และเด็กพักอาศัยอยู่เท่านั้นพวกตนจึงได้เดินทางดูลาดเลาและเส้นทางเข้าออกและหลบหนีจำนวนหลายครั้งจนแน่ใจแล้วก่อนลงมือก่อเหตุในครั้งนี้เมื่อพวกตนได้ทรัพย์สินแล้วพากันหลบหนีและได้นำทรัพย์ที่ปล้นได้ไปขายให้กับ นายเกรียงศักดิ์ สมสร และนายคมเพชร์ โพธีวัต ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลของหมายจับ นายเกรียงศักดิ์ และนายคมเพชร์ ในข้อหา“รับของโจร”และติดตามจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมาซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธหางนำสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้ง 6 คน พบประวัติต้องโทษคดีอาญา
1.นายธนิตพงศ์ บารมีธีระภัสร์ อายุ 43 ปีจำนวน 1 ครั้ง(พ้นโทษ พ.ย.2559)-เดือน มิ.ย.2542 ข้อหา”จำหน่ายยาบ้า”ในพื้นที่ สน.ปทุมวัน
2.นายธนเดช แจ้งกระจ่าง อายุ 48 ปี ไม่พบประวัติการกระทำความผิด
3.นายบรรพต ฟักเจริญ อายุ 35 ปีจำนวน 1 ครั้ง -26 ก.ย.2555 ข้อหา”ลักทรัพย์ในเคหะสถาน” พื้นที่ สน.ตลิ่งชัน
4.นายไวพจน์ ทวีพูน อายุ 49 ปีมีหมายจับของศาลจังหวัดพัทยาข้อหา “ร่วมกันรับของโจร” ปี 2555 พื้นที่ สภ.บางละมุง
5.นายเกรียงศักดิ์ สมสร อายุ 39 ปีจำนวน 1 ครั้ง-1 ก.ย.2545 ข้อหา”ครอบครองยาเสพติดเพื่อจาหน่าย” พื้นที่ สน.วัดพระยาไกร
6.นายคมเพชร์ โพธีวัต อายุ 49 ปีไม่พบประวัติการกระทาความผิด

Loading