กาญจนบุรี อนาถรถสาวห้างดังวัย 22 ขับขี่รถ จยย.กลับบ้านชนรถไถ เสียชีวิตคาที่สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ในสภาพร่างอยู่ติดกับรถ จยย.ด้านหน้ารถพังยับล้มทับร่าง สภาพศพใบหน้าฉีกขาด คอหักหมุนได้ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ระบุรถคู่กรณีเป็นรถไถนา แล้งน้ำใจ หลังเกิดเหตุไม่ลงมาดู รีบขับรถหลบหนีทิ้งหลักฐานเศษดินเกลื่อนถนน ตำรวจวิทยุแจ้งสกัดจับตามเส้นทางที่หลบหนี แต่ก็ยังไม่พบวี่แววทั้งรถไถนาทั้งคนขับ
เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 1 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพ.ต.ท.ไชยยศ พฤติพงศ์พาณิชย์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดอุบัติเหตุรถ จยย.ชนกับรถไถนามีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสายพนมทวน-อู่ทองใกล้เคียงทางแยกเข้าหมู่บ้านดอนงิ้ว กิโลเมตรที่ 31 หมู่ 12 ต.ดอนตาเพชร อ.พนมทวนฯ
หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมประสานแพทย์เวร รพ.เจ้าคุณไพบูลย์ฯ ให้มาร่วมทำการชันสูตรพลิกศพ ในที่เกิดเหตุพบว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์(ศาลเจ้าพ่อขุนรัตนาวุธ) กำลังยืนอำนวยความสะดวกในด้านการจราจรโดยการนำรถกู้ภัยมาทำการเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินตรงจุดเกิดเหตุ เนื่องจากจุดเกิดเหตุบนถนนสายดังกล่าวไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างเกรงว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนเกิดขึ้นได้
ตรวจสอบในจุดเกิดพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่กับพื้นถนนในสภาพที่มีรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟไอ.125 ซีซี.สีขาว หมายเลขทะเบียน 7 กศ.-4596 กรุงเทพมหานครฯ ทับร่างอยู่ในสภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย ห่างไปเล็กน้อยพบเศษดินตกเกลื่อนถนน จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์พบว่า สภาพศพผู้ตายเลือดออกปากออกจากใบหน้าฉีกขาด ลำคอหัก ตรวจสอบหลักฐานในตัวผู้ตายพบบัตรประจำตัวประชาชนระยุชื่อผู้ตายชื่อ นส.สิรีธร สุภาวรรณ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ 1 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ผู้เสียชีวิตทำงานเป็นพนักงานอยู่ในร้านฟูจิ (อาหารญี่ปุ่น) ตั้งอยู่ในห้างดังเมืองกาญจนบุรี
เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นทราบว่า รถคู่กรณีเป็นรถไถนา ก่อนเกิดเหตุรถของผู้ตายวิ่งตามหลังรถไถนามาตามถนนสายดังกล่าว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงดังโครม จากนั้นรถไถก็ขับหลบหนีไปโดยที่คนขับไม่ได้จอดรถลงมาดูแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิทยุแจ้งสกัดจับรถไถนาที่ก่อเหตุหลบหนีไปตามเส้นทางที่คาดว่าน่าจะหลบหนีไปทางแยกเข้าหมู่บ้านหนองถ่าน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 1 กม.ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ออกติดตามรถไถนาแล้งน้ำใจคันนี้มาสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนศพหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายรายนี้ได้มอบให้เป็นหน้าที่ของมูลนิธิฯ นำไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปจัดการตามประเพณีต่อไป.
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์