วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด”จับยาบ้า-ยาไอซ์”ขยายผลรวบเครือข่าย พีอาร์”เงินล้าน”

ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับยาบ้า-ไอซ์-ขยายผลรวบเครือข่าย’พีอาร์เงินล้าน’


วันนี้ 20 ส.ค.ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.)พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป)/ผอ.ศอ.ปส.ตร.พร้อมด้วยพล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.พล.ท.กิตติธัช บุพศิริ ผอ.ศปป.2 กอ.รมน.พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.พล.ต.ต.บัญชา ศรีพัทยากร ผบก.สกส.บช.ปส.พล.ต.ต.ชยพจน์ หาสุณหะ ผบก.ขส.บช.ปส.พล.ต.ต.ภาณุวิชญ์ ทองยิ้ม ผบก.อก.บช.ปส.พ.ต.อ.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบก.ปส.1บช.ปส.ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ 3 คดีพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 750 มัดรวมประมาณ 1,500,000 เม็ดและไอซ์จำนวน 66 ก้อนน้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 970 กรัม
คดีที่ 1
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่าเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2562 เวลาประมาณ 11.30 น.ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สกส.บช.ปส.สนธิกำลังร่วมกับบก.ปส.3.บก.ขส.บช.ปส.ได้ร่วมกันทำการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 1 คนนายบัญชา โสภารัตกุล อายุ 32 ปีอยู่บ้านเลขที่127 ม.13 ต.บ้านเวียง อ.ร้องกวาง จว.แพร่ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 750 มัดรวมประมาณ 1,500,000 เม็ดรถยนต์กระบะอีซุซุสีดำหมายเลขทะเบียน บต 8262 แพร่ โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง


พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่าทางเจ้าทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนบก.สกส.บช.ปส.ได้ทำการสืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายนักค้ายาเสพติดของกลุ่มชนเผ่าซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้พร้อมของกลางยาบ้า 8 แสนเม็ดที่จว.เพชรบุรีทราบว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือตอนบนนำมาส่งมอบให้กับกลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่ภาคกลางโดยใช้ยานพาหนะเป็นรถยนต์กระบะอีซุซุสีดำหมายเลขทะเบียน บต 8262 แพร่จะใช้เส้นทางจว.เชียงราย – จว.พะเยา – จว.แพร่ – จว.อุตรดิตถ์-จว.พิษณุโลก – จว.นครสวรรค์ – จว.ชัยนาท – จว.สิงห์บุรี จึงได้สั่งการให้ดำเนินการสืบสวนติดตาม สกัดจับกุมกลุ่มบุคคลดังกล่าวจนกระทั่งวันที่ 11 ส.ค.62 ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถสกัดจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย (32) ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ระหว่างหลัก กม. ที่ 97-96 หน้าวิทยาลัยอาชีวศึกษาสิงห์บุรี ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี จว.สิงห์บุรี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 750 มัดรวมประมาณ 1,500,000 เม็ด
โดยกล่าวหาว่า”ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 เพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายและยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯต่อไป


คดีที่ 2
พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2562 เวลาประมาณ 14.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ปส.1สนธิกำลังร่วมกับบก.ปส.3 สตม.ป.ป.ส.และเจ้าหน้าที่ศุลกากรตามโครงการ AITF ร่วมกันทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา 1 คนนายมีชัย มนต์คาถา อายุ 46 ปี ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย เลขที่ AB2351693 พร้อมของกลาง ไอซ์ จำนวน 66 ก้อนน้ำหนักรวมประมาณ 970 กรัมโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง
พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยอีกว่า จากการสืบสวนเก็บข้อมูลโปรไฟล์ของทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้โดยสารที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักรไทยไปยังประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งสืบทราบว่ามีเที่ยวบินเที่ยวหนึ่งซึ่งจะเดินทางออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานนาริตะ(NARITA) )ประเทศญี่ปุ่นมีผู้โดยสารที่มีรายชื่อความเสี่ยงเดินทางไปกับเที่ยวบินนี้ คือ นายมีชัย มนต์คาถาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกก.2 บก.ปส.1จึงได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.เฝ้าระวังตรวจสอบผู้โดยสารรายดังกล่าวจนกระทั่งเวลา 21.30 น.ผู้โดยสารที่จะเข้ารับการตรวจบัตรโดยสารทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้พบนายมีชัยกำลังออกบัตรผ่านเพื่อขึ้นเครื่อง ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้เชิญตัวไปยังห้องปฏิบัติการศุลกากรเพื่อตรวจค้นโดยละเอียดเมื่อปลดกระดุมกางเกงที่สวมใส่พบว่านายมีชัยนั้นสวมกางเกงในสองชั้นและพบผ้าอนามัยที่นำเส้นใยด้านในออกและบรรจุวัตถุต้องสงสัยไว้แทน ลักษณะเป็นก้อนวงรีห่อหุ้มยา(ไอซ์)จำนวน 25 ก้อนน้ำหนักรวมประมาณ 370 กรัม

จากการสอบสวนนายมีชัยให้การรับสารภาพว่าตนได้ซุกซ่อนยา(ไอซ์)อยู่ในช่องทวารหนักอีก จำนวน 41 ก้อนน้ำหนักรวมประมาณ 600 กรัม รวมของกลางทั้งหมด 66 ก้อน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 970 กรัมทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการตรวจยึดยา(ไอซ์)ดังกล่าวไว้เป็นของกลาง
โดยกล่าวหาว่า“พยายามนำออกซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน(ไอซ์)ไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 บช.ปส.เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 3
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่าเมื่อวันที่ 19 ส.ค.62 เวลาประมาณ 12.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ปส.2 บช.ปส.พร้อมกำลังร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา น.ส.วีรนุช วรรณแสง อายุ 27 ปีอยู่บ้านเลขที่139 ม.4 ต.สว่าง อ.สว่างวีระวงศ์ จว.อุบลราชธานีโดยตามหมายจับศาลอาญาที่ 529/2561 ลง วันที่ 6 พ.ย.61 จับกุมได้ที่บริเวณห้องพักเลขที่ 286/548 ชั้น 8 เดอะโฮเทล คอนโดมิเนียม ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จว.นนทบุรี
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.ค.61 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการจับกุมนายเอกนิธิ กอบชัยณรงค์ กับ นส.หนึ่งฤทัย ภาคพูลไทร พร้อมยาบ้าประมาณ 294,000 เม็ดยาไอซ์ จำนวนประมาณ 6,700 กรัมและของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ

โดยกล่าวหาว่า“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 ดำเนินคดีตามคดีอาญาที่ 23/2561
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลทราบว่ามีนายประสงค์ มณีจิตต์ นส.วีระนุช วรรณแสงและพวกอีกรวม 6 คนสมรู้ร่วมคิดกันในการกระทำความผิดครั้งนี้ด้วย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้ง 6 คนและต่อมากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้เปิดยุทธการ สยบไพรี 62/2“เครือข่าย PR เงินล้าน” ติดตามจับกุมนายประสงค์ มณีจิตต์ ซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่กับพวกรวม 4 คนไว้ได้พร้อมยึดทรัพย์มูลค่าประมาณ 24 ล้านบาทเมื่อวันที่ 8-23 พ.ย.61ที่ผ่านมาและต่อมาวันที่ 19 ส.ค.62 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนบก.ปส.2 สามารถติดตามจับกุม นส.วีรนุช วรรณแสงซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับรายสำคัญอีกคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวและเป็นผู้ต้องหาตามโครงการประกาศสืบจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญสำนักงาน ป.ป.ส.ลำดับที่ 33 ไว้ได้
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Loading