ตรัง “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” หน.ชุดพญาเสือนำเจ้าหน้าที่ จัดการตรวจปัญหาการบุกรุกป่าทั่วประเทศ ของกรมอุทยาน แห่งชาติ
เมื่อวันนี้ 23 พ.ย. 59 แหล่งข่าวของชุดพยาเสือได้รายงาน ชุดพระยาเสื้อได้เข้าตรวจสอบ
ผู้รับสัมปทานรังนกอีแอ่นตรัง ไม่รับของกลางคืนจากอุทยา
ใช้นามว่า “หจก.ญาตา” ผู้รับสัมปทานรังนกอีแอ่นตรัง ไม่ยอมเซ็นรับมอบของกลางคืนจากอุทยานฯ หลังอัยการจังหวัดสั่งคืนของกลางคดีบุกรุกพื้นที่เกาะเหลาเหลียง ไม้แปรรูปสูญหายกว่า 2,000 ชิ้น เรือพังเสียหาย เตรียมหารือผู้บริหารฟ้องร้อง
ตามที่นายวิทยา บุญชิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ผู้ส่งมอบ นายปานเทพ วิสุทธิสาโรจน์ ผู้รับมอบอำนาจจาก หจก.ญาตา สปา แอนด์ รีสอร์ท น.ส.ครินทราธ์ สุธาประดิษฐ์ ตัวแทนฝ่ายประสานงาน หจก.ญาตาฯ นายยงยุทธ ไชยมล เลขาฯนายก อบต.เกาะสุกร พร้อมด้วย ร.ต.ท.ประหยัด ทองสม ด.ต.วัศพล เกลี้ยงจุ้ย ส.อ.เอกทัศน์ คงเอียด เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ตรัง ร่วมเดินทางไปสังเกตการณ์การตรวจนับของกลางในการส่งมอบคืนของกลางที่ตรวจยึดไว้คืนให้กับ หจก.ญาตา สปา แอนด์ รีสอร์ท ณ ที่ทำการชั่วคราวหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา (ที่ ภต.4) เกาะเหลาเหลียง หมู่ 1 ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2559 นั้น
นายวิทยากล่าวว่า ได้ดำเนินการส่งมอบของกลางในคดีอาญา สภ.ปะเหลียน จ.ตรัง ที่ 594/2558 ตาม ปจว.ข้อ 4 เวลา 21.00 ยึดทรัพย์ที่ 393/58 ให้นายปานเทพ วิสุทธิสาโรจน์ ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจ โดยการคืนของกลางครั้งนี้ได้ปฏิบัติตามหนังสือ สภ.ปะเหลียน ที่ ตร 0024.(ตง).5 (11)(51) /3856 ลงวันที่ 28 ต.ค.2559 เรื่องขอคืนของกลางในคดีอาญา สภ.ปะเหลียน ที่ 594/2558 ระหว่างนายทวี พรหมสุทธิ์ ผู้กล่าวหา นายสมชาย ยงเยื้ยงพันธุ์ กับพวกเป็นคนงานรวม 10 ราย ผู้ต้องหาร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเขาไปยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ยึดถือ ครอบครอง ที่ดิน รวมตลอดถึงก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่าในอุทยานแห่งชาติ และกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยฯ ในพื้นที่อุทยานฯ บนเกาะเหลาเหลียง
นายวิทยากล่าวด้วยว่า การปฏิบัติหน้าที่การคืนของกลางในครั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราได้ให้ผู้รับมอบอำนาจตรวจสอบของกลางตามรายการดังกล่าวข้างต้น ปรากฏว่าครบถ้วนทุกรายการและตามคำสั่งพนักงานอัยการ จ.ตรัง ไม่ขอริบของกลางตามหนังสือดังกล่าวข้างต้นและผู้รับมอบอำนาจได้ตรวจสอบของกลางตามพนักงานอัยการฯมีคำสั่ง ไม่ขอริบของกลางครบถ้วนทุกรายการ จึงได้รับมอบของกลางไว้และร่วมลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ตรัง จากที่ไปสังเกตการณ์และร่วมตรวจนับ สรุปว่าจากการตรวจของกลางตามบัญชีตรวจยึด จำนวน 48 รายการ ตรวจนับได้แค่ 24 รายการ ประกอบด้วย ไม้แปรรูป จำนวน 7,137 ชิ้น/แผ่น นับได้แค่ 5,000 แผ่น เรือหางยาว 1 ลำ พร้อมเครื่องยนต์เสียหายจนใช้การไม่ได้ เครื่องปั่นไฟฟ้า รุ่น BKW-300 SW-MKRH จำนวน 1 เครื่องใช้การไม่ได้ รถแบ๊กโฮ ยี่ห้อคูโบต้า รุ่น KX 161-3C จำนวน 1 คัน ไม่ได้ตรวจสอบของกลาง ถังรูปทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 210 ซม. ยาว 610 ซม. จำนวน 2 ถัง ยังไม่ได้ตรวจสอบ จากมุงหลังคาจำนวน 3,000 ตับ เสื่อมสภาพไม่สามารถใช้การได้ ถือว่าเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราทำบันทึกส่งมอบคืนของกลาง ตัวแทน หจก.ญาตา สปา แอนด์ รีสอร์ท ปฏิเสธที่จะเซ็นรับมอบของกลาง เนื่องจากหายไปเยอะหลายรายการ ขณะนี้รอการตัดสินใจของนายปานเทพ วิสุทธิสาโรจน์ ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจ นายธวัชชัย พระเพชร ผู้บริหาร หจก.ญาตาฯ ผู้รับสัมปทานรังนกอีแอ่นตรัง ยังไม่ยอมเซ็นรับมอบของกลางคืนจากอุทยานฯ หลังอัยการจังหวัดสั่งคืนของกลางคดีบุกรุกพื้นที่ หลังไม้แปรรูปสูญหายกว่า 2,000 ชิ้น เรือพังเสียหาย และอีกหลายรายการเตรียมหารือเพื่อฟ้องร้องของกลางหาย
ด้าน น.ส.ครินทราธ์ สุธาประดิษฐ์ ตัวแทนฝ่ายประสานงาน หจก.ญาตา สปา แอนด์ รีสอร์ท กล่าวด้วยว่า คดีนี้สืบสวนเนื่องจากคนงานนำรถแบ๊กโฮเข้าไปในพื้นที่เกาะเหลาเหลียงที่ได้รับสัมปทาน 1 ใน 10 เกาะเพื่อขุดหลุมฝังขยะและปรับภูมิทัศน์และสร้างที่พักชั่วคราว ก่อนจับกุมคนงานรวม 10 ราย คดีนี้ชั้นตำรวจยื่นฟ้อง แต่ในชั้นอัยการสั่งไม่ฟ้องคนงาน 9 ราย แต่สั่งฟ้องนายวีระ บำเพ็ญบูรณ์ อายุ 47 ปี ผู้รับสัมปทานข้อหาบุกรุก กระทั่งเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2559 ศาลจังหวัดตรังพิพากษา จำคุก 2 ปี ปรับ 5,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เหลือจำคุก 1 ปี ปรับ 5,000 บาท แต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิด โทษจำให้รอลงอาญา และบำเพ็ญประโยชน์ 20 ชม.
ขอบคุณภาพ / ข่าว
แหล่งข่าว จังหวัดตรัง
มณฑิตา เขตนารี
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์บ้านข่าว หาดใหญ่
