พะเยา – เชียงคำ ครูบำนาญวูบ!! หลับขับรถยนต์ เสยเสาไฟฟ้าเจ็บสาหัส กู้ภัยเร่งปั๊มหัวใจช่วย สุดท้ายไม่รอด คาดเกิดโรคประจำตัวกำเริบ
(1 ต.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. ร.ต.อ.ทวี แก้วชมแก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์ชนเสาไฟฟ้าจนทำให้เสาขาดครึ่งบริเวณบ้านเนินสายกลาง ม.11 ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเชียงคำบรรเทาสาธารณภัย,สยามรวมใจจุดเชียงคำและกู้ชีพพระนั่งดิน เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านยืนมุงดูเป็นจำนวนมากและนอกจากยังพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีออส หมายเลขทะเบียน กข 9660 พะเยา สภาพส่วนหน้ารถพังยับเยินอัดกับเสาไฟฟ้า ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยและพยาบาลที่เห็นเหตุการณ์เข้าเร่งลงมือช่วยนำผู้บาดเจ็บลงมือจากรถยนต์แล้วทำ CPR ช่วยเหลือเพราะผู้บาดเจ็บหมดสติ ทราบชื่อต่อมาคือนายวิรัตน์ ธนาสัย อายุ 62 ปี ชาวบ้านปางมดแดง ม.10 ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา เป็นข้าราชการครูบำนาญ
จากการสอบถามนางจันทร์เพ็ญ สุดชู อายุ 60 ปี เพื่อนบ้านเดียวกับนายวิรัตน์ ได้ให้การว่า โดยส่วนตัวนายวิรัตน์มีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจ ตอนก่อนเกิดเหตุนั้นนายวิรัตน์คงจะไปโรงพยาบาลเชียงคำ ขากลับมาอาการของโรคหัวใจน่าจะกำเริบทำให้นายวิรัตน์หมดสติ เพราะตอนนั้นตนเองได้ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านแต่แล้วขับไปได้สักพักรถยนต์ของนายวิรัตน์ขับมาเฉี่ยวที่ขาทำให้ตนเองตกใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะเห็นรถยนต์ของนายวิรัตน์พุ่งอัดกับเสาไฟฟ้าต่อหน้าต่อตา
ด้าน ร.ต.อ.ทวี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์และญาติของนายวิรัตน์ได้ความว่า ตัวของนายวิรัตน์นั้นมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจ เพราะทุกครั้งนายวิรัตน์จะไปโรงพยาบาลเพื่อขอรับยามารับประทานตลอด แต่วันนี้คาดการณ์ว่านายวิรัตน์คงจะไปโรงพยาบาลเพื่อของรับยาโรคหัวใจ แต่ขากลับเกิดอาการกำเริบจนทำให้วูบหมดสติแล้วรถยนต์ก็ไถลไปอัดกับเสาไฟฟ้าเข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้นายวิรัตน์หมดสติคารถยนต์ทันที เบื้องต้นจากการค้นตัวผู้บาดเจ็บยังพบสมุดประจำตัวคนไข้โดยระบุว่านายวิรัตน์เป็นโรคหัวใจ จึงได้เร่งให้หน่วยกู้ชีพนำตัวนายวิรัตน์ส่งโรงพยาบาลเชียงคำเพื่อช่วยเหลือชีวิตต่อไป ทั้งนี้ตนเองก็ได้ประสานให้รถยนต์ในพื้นที่มาดึงเอารถยนต์ของนายวิรัตน์ออกจากที่เกิดเหตุพบว่า เสาไฟฟ้าขาดครึ่งแต่ไม่ล้มและจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงกันต่อไป
(ภาพ/ข่าว สราวุธ ตั้งประเสริฐ พะเยา )
