วันนี้ (14 ก.พ.60) ระหว่างเวลาประมาณ 08.00-08.30 น. พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 (สส) / เอราวัณ 4
พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.สตูล ช่วยราชการ รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ
ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายไกรสรหรือบอย ด้วงทอง
ผู้ต้องหาคดี “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นฯ และโดยใช้ยานพาหนะฯ (คดียกเซฟ บริษัท ยูพีฯ) (ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 60/2560 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560)
พฤติการณ์กล่าวคือ ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ นายไกรสรหรือบอยณ พร้อมกับพวกที่ยังหลบหนี ได้เข้ามาลักทรัพย์ภายในบริษัท ยูพี การกฎหมายและธุรกิจ โดยได้ยกเอาตู้เซฟ ซึ่งภายในบรรจุทองแท่ง สร้อยคอทองคำ และเงินสด มูลค่า รวมกว่า 600,000 บาท แล้วหลบหนีไป
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวประกอบด้วย 1.นายไกรสรหรือบอย ด้วงทอง ,2.นายนายโยธินหรือโย แซ่กัง ,3.นายชัยชนะหรือเบิร์ด สุภนามัย และ 4.น.ส.อังคณา สุ่มมาตร
ซึ่งเมื่อวันที่ 4 กพ 2560 ได้ทำการจับกุมตัว น.ส.อังคณาหรือออมฯ (ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 58/2560 ลงวันที่ 4 กพ 2560) ไว้ในข้อหา “รับของโจร”
ต่อมา เมื่อวันที่ 13 กพ 2560 ได้ทำการจับกุมตัว นายไกรสรหรือบอยฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับฯ ดังกล่าวไว้ได้ ส่วนนายโยธินหรือโยฯ และนายชัยชนะหรือเบิร์ดฯ ซึ่งอยู่ในระหว่างหลบหนี จะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“การปฏิบัติในครั้งนี้เมื่อได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ร่วมกันทำงานแบบบูรณาการและมีประสิทธิภาพ ตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในเวลารวดเร็ว ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์การทำงานในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง
ในนามของตำรวจภูธรภาค 1 จึงขอชมเชยและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.สส.ภ.1 ,กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี,สภ.เมืองนนทบุรี ตลอดจนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป ณ บริเวณด้านหน้า สภ.เมืองนนทบุรี อ.เมือง จ.นนทบุรี
