“ศรีสะเกษ” แม่ค้าขายชุดนอนลายการ์ตูน แฉ แก๊งจับลิขสิทธิ์รีดทรัพย์อาละวาดชายแดนไทย-กัมพูชา บังคับจ่ายรายละ 5 หมื่น ผวาหนักหวั่นซ้ำรอย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 พ.ย. ที่ตลาดประชารัฐต้องชมบ้านไพรพัฒนา ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นางสุพัตรา ไพรบึง อายุ 61 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้าภายในตลาดดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนอยากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนทั่วไป ให้ระมัดระวังการจำหน่ายสินค้าที่มีลิขสิทธิ์และระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์ เช่นเมื่อช่วงกลางเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มบุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ ร.ต.อ. และเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์ รวม 10 คน เป็นชาย 7 คน และผู้หญิง 3 คน เข้ามาล่อซื้อสินค้าที่มีลายการ์ตูนโดเรมอน และจับกุมกลุ่มแม่ค้า จำนวน 6 คน และยึดสิ่งของและเสื้อผ้าชุดนอนลายโดเรมอนของตนไปด้วยอีก 5 ชุด โดยไม่ได้แสดงบัตรประจำตัวหรือเอกสารมอบอำนาจใดๆให้กับกลุ่มพ่อค้าดู พร้อมกับได้บังคับให้ขึ้นรถยนต์ไปที่สถานีตำรวจ
เมื่อไปถึงสถานีตำรวจกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้บังคับจ่ายเงิน คนละ 50,000 บาท แลกกับการไม่ต้องถูกจับเข้าห้องขังดำเนินคดี ส่งผลทำให้ตนและกลุ่มแม่ค้ารู้สึกกลัวและหวาดผวาไปตามๆกัน เนื่องจากไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น จึงจะยอมติดคุกแลกกับเงินค่าปรับ แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ยอม และได้มีการเจรจาต่อรอง ลดค่าปรับลงเหลือคนละ 25,000 บาท รวม 6 คน ต้องจ่ายให้กับกลุ่มบุคคลดังกล่าว เป็นเงิน 1.5 แสนบาท โดยมีการแอบรับจ่ายเงินตามห้องน้ำ และใต้ร่มไม้ภายในสถานีตำรวจ และไม่ได้ให้ใบเสร็จค่าปรับกับพวกตนแต่อย่างใด แล้วหนีออกจากพื้นที่ไปพร้อมกับนำสินค้าบางอย่างที่ยึดมานำไปด้วย
ต่อมาตนและกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ถูกจับกุมทั้ง 6 คน ได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว หากพบมีการกระทำผิดกฎหมาย จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานเชิญตัวกลุ่มบุคคลที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์ พร้อมกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ทั้ง 2 ฝ่าย มาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน โดยทางตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ยินยอมนำเงินที่ได้เรียกเก็บไปในวันเกิดเหตุมาคืนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า รายละ 15,000 บาท โดยอ้างว่า อีก 10,000 บาทที่เหลือ เป็นเงินค่าปรับ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเซ็นเอกสารตกลงยินยอมและไม่ติดใจเอาความกับกลุ่มบุคคลที่มาจับกุมตัวดังกล่าว ส่งผลทำให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก
พวกตนติดใจว่า ทำไมเงินที่เรียกรับจากตนไปนั้นไม่ออกใบเสร็จรับเงินให้ถูกต้องตั้งแต่วันที่เข้ามาจับกุม อีกทั้งในเมื่อเงินจำนวนดังกล่าวเป็นค่าปรับทั้งหมดจริง เหตุใดต้องนำมาคืน และถ้าปรับแค่ 10,000 บาท เหตุใดเรียกรับจากพวกตนไป 25,000 บาท แล้วกรณีที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวบังคับข่มขู่ให้ชาวบ้านหวาดกลัวเพื่อให้นำเงินมาจ่ายให้นั้น เป็นการกระทำความผิดกฎหมายฐานกรรโชกทรัพย์หรือไม่ แล้วเหตุใดไม่มีการดำเนินการสอบสวนกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว มีแต่ได้พยายามให้พวกตนเซ็นเอกสารยินยอมอย่างเดียว ซึ่งกลุ่มอ้างลิขสิทธิ์ดังกล่าวข่มขู่ว่าหากไม่เซ็นยินยอมจะขอเงินกลับคืน กระทั่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวยอมคืนเงินให้กับแม่ค้าเพิ่มอีก รายละ 5,000 บาท จึงเท่ากับว่ากลุ่มแก๊งดังกล่าวได้ยึดเงินของตนและกลุ่มแม่ค้าไปคนละ 5,000 บาท โดยไม่มีใบเสร็จรับเงินอีกด้วย.
ข่าว/ภาพ .. บุรทัศน์ ศรีสะเกษ
