สืบสวนภาค 1 ตามรวบ ! หนุ่มคิดสั้นชิงเงินธนาคาร เผยติดการพนันออนไลน์
วันนี้ 8 พ.ย.2562 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 (สส) / เอราวัณ 3 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ถาวร ดุลยวิทย์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรำนนท์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ศักดิเดช กัมพลานุวงศ์ ผกก.สภ.บางรวยพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหานายมงคล หอมจิตร อายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่ 100 ม.7 ต.ห้วยใต้ อ.ขุขันธ์ จว.ศรีสะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.424/2562 ลงวันที่ 6 พ.ย. 2562 พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนพลาสติก สีดำ จำนวน 1 กระบอก รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาว-น้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ฬคค-0966 กรุงเทพมหานคร หมวกกันน็อค สีดำ 1 ใบ เสื้อยืดแขนสั้น สีเทา ลายดำ 1 ตัวกางเกงยีนส์ขายาว สีดำ 1 ตัว หน้ากากอนามัย 1 อัน โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง กระเป๋าเป้ สีดำ มีอักษร COCO จำนวน 1 ใบ เสื้อยืดแขนสั้น ลีวาย สีดำ ตัวอักษรสีแดง จำนวน 1 ตัว
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 5 พ.ย.62 เวลาประมาณ 13.34 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย จว.นนทบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์เงินสดภายในธนาคารทหารไทย สาขาห้างสรรพสินค้าเดอะคริสตัล ราชพฤกษ์ ต.บางขนุน อ.บางกรวย จว.นนทบุรีได้เงินสดไปจำนวน 200,000 บาท (สองแสนบาท)หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบและดูภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารพบว่าเป็นชายอายุประมาณ 25-30 ปีสูงประมาณ 170 ซ.ม.สวมใส่กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ เสื้อยืดคอกลมสีขาว-เทา สวมใส่รองผ้าใบ สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า เข้ามาในธนาคารและกดบัตรคิวก่อนจะไปนั่งรอ หลังจากนั้นเมื่อถึงคิวเรียกจึงได้เดินเข้าไปยังหน้าเค้าเตอร์ธนาคารพร้อมกับยืนถุงผ้าสีขาวและข้อความเขียนในกระดาษ อีกมือยังถืออาวุธปืนไว้ หลังจากได้เงินสดไปจำนวน 200,000 บาท (สองแสนบาท)แล้วก็วิ่งไปขับขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านหน้าธนาคารหลบหนีไป
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า หลังจากทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีจนสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายมงคล หอมจิตร อายุ 31 ปีเป็นพนักงานเวรเปลของโรงพยาบาลเอกชน แห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร จึงได้รวบรวมวัตถุพยานหลักฐานต่างๆเพื่อขออนุมัติหมายจับนายมงคล หอมจิตร ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.424/2562 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 ในข้อหา”ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร” ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่เร่งติดตามและสามารถจับกุมตัวนายมงคล พร้อมของกลางได้ที่บริเวณริมถนนสายขุขันธ์-ศรีสะเกษ ต.หมากเขียบ อ.เมืองศรีสะเกษ จว.ศรีสะเกษ
พล.ต.ต.ธนายุตม์ เปิดเผยอีกว่า จากการสอบสวน นายมงคล ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารทหารไทย สาขาห้างสรรพสินค้าเดอะคริสตัลจริง โดยตนมีอาชีพเป็นพนักงานเวรเปล ประจำอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชน แห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งตนเองติดการพนัน บาคาร่า ออนไลน์ และเป็นหนี้บัตรเคดิต ตนจึงได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารทหารไทย ซึ่งอยู่ใกล้ห้องพักและเห็นว่าธนาคารดังกล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงตัดสินใจก่อเหตุ หลังจากตนก่อเหตุแล้วได้กลับไปที่ห้องพักและเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่จะนำเงินสดไปฝากเข้าบัญชี150,000 บาท(หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท)ที่ห้างเซ็นทรัล สาขารัตนาธิเบศร์ และจ่ายค่าบัตรเคดิตไปจำนวน 30,000 บาท(สามหมื่นบาท) ที่เหลือนำไปซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่จำนวน 1 เครื่อง ส่วนเงินจำนวน 150,000 บาท(หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท)ที่ฝากเข้าบัญชีไปนั้นตนได้นำไปเล่นการพนัน ออนไลน์ (บาคาร่า) จนหมดหลังจากนั้นตนได้หลบหนีไปพักค้างคืนในพื้นที่จว.สระบุรี พอรุ่งเช้าก็เดินทางขึ้นรถทัวร์กลับบ้านที่ จว.ศรีสะเกษ จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
หลังจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายมงคล หอมจิตร ไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพที่ธนาคารทหารไทย สาขาห้างสรรพสินค้าเดอะคริสตัล ถ.ราชพฤกษ์ ต.บางขนุน อ.บางกรวย จว.นนทบุรี ก่อนจะนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง
ในนามของตำรวจภูธรภาค1 ได้ฝากถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิต ว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย และขอชมเชยพร้อมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป
