ตำรวจปราบปรามยาเสพติดโชว์รวบ 7 เครือข่ายยานรกพร้อมยึดไอซ์หนัก 1 ตัน
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วยพล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกัน แถลงจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 7 คนพร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมาก
คดีที่ 1
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย.62 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สกส.บช.ปส.ได้ร่วมกันทำการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 คน นายเกรียงไกร เพชรจันทรังษี อายุ 22 ปีอยู่บ้านเลขที่ 197 ม.9 ต.สบบง อ.ภูซาง จว.พะเยา นายวรชุน แซ่ว่าง อายุ 21 ปีอยู่บ้านเลขที่ 39 ม.7 ต.ขุนควร อ.ปง จว.พะเยา นายคม แซ่หลี อายุ 35 ปี เชื้อชาติมัง สัญชาติ เมียนมาร์ ภูมิลำเนาอาศัยอยู่ที่บ้านดอยยา อ.เชียงแสน จว.เชียงรายพร้อมของกลางไอซ์ จำนวน 1,000 ถุงน้ำหนักรวมประมาณ 1,000 กิโลกรัม รถยนต์บรรทุก อีซูซุ จำนวน 2 คันโทรศัพท์มือถือจำนวน 5 เครื่อง
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดตามสืบสวนเครือข่ายกลุ่มนักค้ายาเสพติดสืบทราบว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่จว.พะเยามีพฤติการณ์เป็นผู้รับงานขนและลำเลียงยาเสพติดจากกลุ่มนายทุนโดยจะขนส่งและลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือตอนบน ส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้เส้นทางจากพื้นที่ จว.เชียงราย – จว.พะเยา – จว.แพร่ – จว.สุโขทัย –จว.อุตรดิตถ์ – จว.พิษณุโลก – จว.นครสวรรค์ เข้าสู่พื้นที่ตอนในเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงนำกำลังเข้าสกัดกั้นจับกุมพร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม บรรทุกอยู่ท้ายรถยนต์ ซึ่งซุกซ่อนในกระสอบปุ๋ย สีเหลืองได้ที่บริเวณหน้าตลาดเขาทราย แยกเขาทราย ทับคล้อ ถนนหมายเลข 11 ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จว.พิจิตร และสามารถตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้นำทาง/สำรวจเส้นทาง/คุ้มกัน การลำเลียงยาเสพติดของกลางได้ที่บริเวณริมถนนหมายเลข 11 หลัก กม.120+200 ต.วังงิ้วใต้ อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร และที่บริเวณพื้นที่นาข้าว ต.วังงิ้วใต้ อ.ดงเจริญ จว.พิจิตร
ภายหลังการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ขยายผลพบว่าเป็นเครือข่ายผู้ลำเลียงกลุ่มเดียวกับ นายกิตติภพ อรรถพลภูษิตและ นายทรงยศ แซ่ซ้อง ซึ่ง บก.สกส.บช.ปส. ได้จับกุมเมื่อวันที่ 27 ส.ค.62 พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวนประมาณ 1,000,000 เม็ด และ คีตามีน น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ในพื้นที่ อ.เมือง จว.พิษณุโลก
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต”
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป
คดีที่ 2
พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 12 พ.ย.62 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สกส.บช.ปส.ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 คนนายจักรพงษ์ ฮวดลิ้ม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 ม.1 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จว.ประจวบคีรีขันธ์ นางสงกรานต์ ฮวดลิ้ม อายุ 38 ปีอยู่บ้านเลขที่ 139/3 ม.2 ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จว.ประจวบคีรีขันธ์ น.ส.ธมลวรรณ ขำดำ อายุ 35 ปีอยู่บ้านเลขที่ 424/801 ถ.ราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร และน.ส.หฤทัย ปิยะนุกูล อายุ 37 ปีอยู่บ้านเลขที่ 268/7 ม.4 ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก จว.ประจวบคีรีขันธ์พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 20 มัดรวมประมาณ 40,000 เม็ด ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 2 กรัม กัญชาน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัมรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าจำนวน 1 คัน รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จำนวน 1 คัน
พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยอีกว่า สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่บช.ปส.ได้ติดตามบุคคลพ้นโทษหรืออยู่ในระหว่างดำเนินคดีที่มีประวัติต้องโทษเกี่ยวกับยาเสพติดซึ่งยังอยู่ระหว่างต่อสู้คดีและยังคงมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกพบว่ากลุ่มนี้มีการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงและติดต่อกับผู้ต้องขังในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือและมีการใช้จ่ายเงินแบบฟุ่มเฟือยทั้งที่ไม่ได้ประกอบอาชีพหรือทำงานแต่อย่างใด
โดยทางกลุ่มผู้ต้องหาได้มีการเดินทางผ่านไปยังจว.นครพนม และข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อติดต่อสั่งซื้อยาเสพติด จากกลุ่มผู้จำหน่ายใน สปป.ลาวและมีการติดต่อสั่งซื้อยาเสพติดดังกล่าวจากกลุ่มผู้ค้าทาง Social โดยจะมีการโอนเงินให้กับผู้ค้าหลังจากได้จำหน่ายยาเสพติดเสร็จสิ้นแล้ว จากนั้นทางผู้ค้าจะให้ทีมงานนำยาเสพติดมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ต้องหาในพื้นที่เขตนวมินทร์ กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนติดตามจนสามารถจับผู้ต้องหาได้ที่บริเวณตลาดอ่าวน้อย ริมถนน 1034 ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จว.ประจวบคีรีขันธ์ และที่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสาร ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก ประจวบคีรีขันธ์พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนประมาณ 18,000 เม็ด ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 2 กรัม และกัญชาน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัมและขยายผลตรวจยึดของกลางยาบ้าจำนวนประมาณ 22,000 เม็ด ได้ที่ ณ.ลญาแมนชั่น ถนนเสรีไท 68 ห้องพัก 43/64 ชั้น 6 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
โดยกล่าวหาว่า”ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป
คดีที่ 3
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปส.3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส., ศุลกากร,ศรภ.และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ตามโครงการ AITF ทำการตรวจยึดยาเสพติดรายสำคัญทางพัสดุภัณฑ์ส่งผ่านระหว่างประเทศพร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่า กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้เพิ่มมาตรการความเข้มงวดในการสืบสวนการลักลอบส่งยาเสพติดไปต่างประเทศ และสั่งการให้เฝ้าระวังการลักลอบส่งออกยาเสพติดไปประเทศญี่ปุ่นเป็นพิเศษ ซึ่งในคดีนี้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบส่งยาเสพติดออกนอกประเทศทางพัสดุภัณฑ์ผ่านบริษัทพัสดุระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง จึงได้ร่วมกันตรวจสอบพัสดุต้องสงสัยปลายทางประเทศญี่ปุ่น จำนวน 2 รายการ สำแดงสินค้าที่ฝากส่งประเภทนาฬิกาแขวนผนังแต่มีน้ำหนักผิดปกติ จากการตรวจสอบนาฬิกาแขวนผนังดังกล่าวโดยละเอียดพบว่าบริเวณกรอบนาฬิกามีท่อเหล็กซึ่งถูกดัดแปลงขึ้นภายในบรรจุยาเสพติด ประเภทเมทแอมเฟตามีน หรือไอซ์น้ำหนักรวมประมาณ 8 กิโลกรัม
โดยกล่าวหาว่า “พยายามส่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจยึดและนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป