สืบสวนภาค 1 เจ๋งจับกุมผู้ค้ารายย่อยขยายผลรวบ”ติ๊บ ลพบุรี”พร้อมยึดยาบ้ากว่า 1.1 ล้านเม็ด
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 26 ม.ค.63 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี นายสงวนศักดิ์ ศรีวัฒนพงศ์ ผอ.สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 1 พ.ต.อ.สุเมธ ปุณสีห์ รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.ประวิทย์ ยงยุทธ ผกก.สอบสวน ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.ท.ชัชวาลย์ บุญธรรมเจริญ รอง ผกก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.ท.สุเมธ ขันทอง รอง ผกก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.ท.อาทิตย์ เทียนศิริ รอง ผกก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.ท.พัศริศวร์ ตันอารีย์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.ท.ชัยมิตร สิทธิพูล รอง ผกก.สส.สภ.พัฒนานิคม พ.ต.ท.สุขสันต์ สุดสง่า สว.กก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.ท.เจตชนินทร์ นุงกระโทก สว.กก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.ต.สมหมาย สุขคง สว.กก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.ต.บุรินทร์ บุญถนอน สว.กก.สส.ภ.จว.ลพบุรี ร.ต.อ.ศิวกร มาพรหม รอง สว.สส.สภ.พัฒนานิคม ร.ต.อ.รามราเมฆ มีอุส่าห์ รอง สว.สส.สภ.พัฒนานิคม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ลพบุรี ร่วมกันแถลงผลการจับกุม น.ส.วัชรีย์ วิมุต อายุ 25 ปีบ้านเลขที่ 12 ม.11 ต.โคกตูม อ.เมือง จว.ลพบุรี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปีบ้านเลขที่ 12 ม.11 ต.โคกตูม อ.เมือง จว.ลพบุรี นายสิทธิพร มณีนัย อายุ 25 ปีอยู่บ้านเลขที่142/134 ซ.13 ม.2 ต.กกโก อ.เมือง จว.ลพบุรี นายนพเก้า ปุ้นผล อายุ 26 ปีอยู่บ้านเลขที่ 5 ซ.พระลักษณ์ ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จว.ลพบุรี พร้อมของกลาง ยาบ้า 1,190,200 เม็ด และยาไอซ์ 2,200 กรัม รถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออส สีขาวหมายเลขทะเบียน กบ693 ลพบุรี และมอเตอร์ไซค์ ฮอนด้าพีซีเอ็กซ์ 1 กฎ 9195 สระบุรี จับกุมได้บริเวณถนนข้างทาง ม.2 ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรีและจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 142/108 หมู่บ้านการเคหะ ม.2 ต.กกโก อ.เมือง จ.ลพบุรี
พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ม.ค.63 ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.พัฒนานิคม จว.ลพบุรี ได้ทำการจับกุมตัว น.ส.วัชรีย์ และ น.ส.เอ พร้อมยาบ้าจำนวน 30 เม็ด ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้การขยายผลทราบว่าไปรับยาบ้ามาจาก นายสิทธิพร ซึ่งพักอาศัญอยู่ในเขตตัวเมือง ลพบุรี จึงได้ประสาน กก.สส.ภ.จว.ลพบุรีพร้อมส่งข้อมูลให้ทำการสืบสวนต่อจนกระทั่งทราบว่านายสิทธิพร มณีนัย อายุ 25 ปีอยู่บ้านเลขที่ 142/108 หมู่บ้านการเคหะ ม.2 ต.กกโก อ.เมือง จว.ลพบุรีจึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าตรวจค้นพบของกลางยาบ้าจำนวน 200 เม็ด
พล.ต.ท.อำพล กล่าวต่อว่าจากการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมทราบว่านายสิทธิพร รับยาบ้ามาจากนาย นพเก้า ปุ้นผล อายุ 26 ปีอยู่บ้านเลขที่ 5 ซ.พระลักษณ์ ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จว.ลพบุรี ซึ่งตรงกับฐานข้อมูลกลุ่มเครือยข่ายนักค้ายารายสำคัญในฐานข้อมูลของกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค.1 โดย นายสิทธิพร ได้ยืนยันว่ายังมียาบ้าอยู่กับตัวนายนพเก้าทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่พักตามรับแจ้ง ระหว่างตรวจสอบพบนายนพเก้ากำลังจะหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ล็อกตัวไว้และเข้าค้นที่พักบ้านเลขที่ 5 ซ.พระลักษณ์ ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จว.ลพบุรี พบของกลางยาบ้าอีกจำนวน 32,000 เม็ด
พล.ต.ท.อำพล เปิดเผยอีกว่าจากการสอบสวนนายนพเก้า ให้การรับสารภาพว่าตนได้นำยาเสพติดดังกล่าวมาจากนายนิว ซึ่งไม่ทราบชื่อและสกุลจริงโดยยาบ้าจะเก็บไว้ในห้องเช่าชั้นเดียวบ้านเลขที่ 142/108 หมู่บ้านการเคหะ ม.2 ต.กกโก อ.เมือง จว.ลพบุรี ซึ่งอยู่คนละซอยกับที่พักของนายนพเก้าทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นแต่ปรากฎว่าไม่พบตัวนายนิว แต่อย่างใด
จากการตรวจค้นของทางเจ้าหน้าที่พบของกลางยาบ้าจำนวน 579 มัดรวมประมาณ 1,158,000 เม็ดและยาไอซ์จำนวน 2.2 กิโลกรัม บรรจุในกระสอบปุ๋ยซุกซ่อนอยู่ภายในห้องครัวของห้องเช่าหลังดังกล่าวตามที่นายติ๊บบอก
ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่านายนิวจะมีตัวตนจริงหรือไม่ แต่ยาเสพติดดังกล่าวอาจเป็นยาบ้าของนายนพเก้าทั้งหมดก็เป็นไปได้ จากการตรวจสอบประวัตินายนพเก้าเคยมีประวัติเคยถูกสภ.เมือง จ.ลพบุรี จับกุมข้อหาครอบครองและจำหน่ายยาบ้า ออกมาได้ประมาณ 1 ปี แล้วมาก่อเหตุดังกล่าวอย่างไรก็แล้วแต่ก็จะได้ทำการสืบสวนขยายผลถึงต้นตอเพิ่มเติมอีกครั้ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.วัชรีย์ กับ น.ส.เอ ว่า”ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย”
เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.พัฒนานิคม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนนายสิทธิพร และนายนพเก้า แจ้งข้อกล่าวหาว่า”มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
