กาญจนบุรี โควิด 19 มาชีวิตหนุ่มเมืองกาญจน์ก็เปลี่ยนไป!! อดีตพนักงานบริษัทเอกชนชื่อดัง ผันตัวเองสืบทอดสูตรขนมเบื้อง อายุ 40 กว่าปี ต่อจากคุณแม่เป็นรุ่นที่ 3 สร้างรายได้มหาศาลต่อวันเกือบ 10,000 บาท
วันนี้ 08 มิ.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดผาสุก เทศบาลเมืองกาญจนบุรี อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี มีร้านขนมเบื้องเก่าแก่ อายุ 40 กว่าปี ชื่อว่า “ขนมเบื้องคุณยายลำจวน” อร่อยเด็ดละมุนลิ้น เจ้าดังท่ารถ ปอ.1 ของคุณเอส นายนพดล ชิตย้อยแสง อายุ 40 ปี (ศิษย์เก่าวิสุทธรังษี รุ่น 36-39) เจ้าของร้านขนมเบื้องคุณยายลำจวน ลักษณะของร้านเป็นรถเข็นขนาดเล็ก ตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่รสชาติของขนมเบื้อง ร้านนี้นั้นเป็นแบบไม่ธรรมดา มีความอร่อย หอม หวาน และกลมกล่อม มีลูกค้าทั้งขาประจำ ขาจร หรือแม้กระทั่งบางครั้งก็มีการสั่งออเดอร์ล่วงหน้าแบบแน่นๆ และยังรับออกร้านนอกสถานที่อีกด้วย
นายนพดล (เอส) ชิตย้อยแสง เจ้าของร้านขนมเบื้องคุณยายลำจวน เปิดเผยว่า สำหรับจุดกำเนิดของการเกิดร้านขายขนมเบื้องมาจาก ด้วยคุณแม่เป็นคนสระบุรีมาทำงานค้าขายที่กรุงเทพฯแล้วได้เจอกับคุณพ่อ ทั้งสองคนปรึกษากันว่าจะทำอาชีพอะไรดีจึงลงตัวที่การขายขนมเบื้อง โดยในช่วงแรกการขายขนมเบื้องนั้นเป็นการหาบเร่ ซึ่งหาบหนึ่งจะเป็นเตาอีกหาบหนึ่งจะเป็นไส้ ในช่วงนั้นที่กรุงเทพฯ เทศกิจจับบ่อยมากเลยมีการคุยกันระหว่างแม่ค้าด้วยกันและชวนกันมาขายที่งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควที่จังหวัดกาญจนบุรี และพ่อกับแม่ก็ขายขนมเบื้องที่กาญจนบุรี ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถือว่านี่เป็นต้นกำเนิดของการขายขนมเบื้องของคุณยายลำดวนในจังหวัดกาญจนบุรี โดยเริ่มแรกขายอยู่ตรงหน้า ปอ.1 ตรงข้ามโรงพักเมืองกาญจนบุรี ซึ่งร้านขายขนมเบื้องเป็นอาชีพของคนในครอบครัวซึ่งทุกคนทำอาชีพนี้หมด มีตนเองคนเดียวที่พ่อแม่ส่งไปเรียนและได้ทำอาชีพจากที่เรียนมา แต่ตนเองก็เคยลั่นวาจาสัญญากับคุณแม่ว่ายังไงเสียจะกลับมาต่อยอดธุรกิจขนมเบื้องนี้ตามที่สัญญาไว้
สำหรับขนมเบื้องโบราณจะเรียกแป้งว่าแป้งถั่ว มีถั่วทั้งหมด 5 ชนิด โดยนำถั่วทั้ง 5 ชนิดมาคั่วบดและโม่ผสมกับแป้งข้าวเจ้าจนเป็นแป้งถั่วที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับใส้โดยสมัยก่อนไส้เค็มเขาจะเรียกว่าหน้ากุ้ง แต่ด้วยเอกลักษณ์ของที่ร้านและลูกค้าบางส่วนทานมังสวิรัติ บางส่วนแพ้กุ้ง จึงได้ปรับเปลี่ยนจากกุ้งมาเป็นเม็ดมะม่วงหิมพานต์แทน เพื่อตอบรับกับกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ ส่วนครีมของขนมเบื้องญวนนั้นจะต้องมีรสชาติหวานละมุนไม่หวานแหลม เราจึงต้องคัดสรรน้ำตาลมะพร้าวแท้ เวลาผสมกับแป้งถั่วสูตรเอกลักษณ์ของเราแล้วทานจะรู้สึกกลมกล่อมมากขึ้น สำหรับไส้หวานเราจะใช้มะพร้าวทึนทึกผสมกับมะพร้าวน้ำหอมเวลาทานจะมีรสชาติที่ละมุนมาก สิ่งสำคัญที่สุดในการขายก็คือการคัดสรรคุณภาพดีจะทำให้ขนมเบื้องนั้นมีรสชาติที่ออกมาดีด้วยเช่นกัน รวมไปถึงเรื่องของความสะอาดและการบริการที่ดีของทางร้าน มีการทักทายยิ้มแย้มให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้ากลับมาแวะชิมขนมของเราอีก
คุณเอสฯ เปิดเผยต่อว่า พอเรียนจบก็ทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มาเป็นเวลาสิบกว่าปี และวันหนึ่งนึกถึงคำที่ได้รับปากคุณแม่ไว้ว่าเราจะมาสานต่ออาชีพเขาโดยการขายขนมเบื้อง ก็เลยตัดสินใจลาออกจากงานบริษัทฯ เมื่อมาเริ่มขายขนมเบื้อง ปัจจุบันตนเป็นรุ่นที่3 สูตรดั้งเดิมอายุ 40 กว่าปี โดยจะขายตั้งแต่เวลา 09.00-18.00น. บริเวณตรงข้ามหน้าห้างกนกกาญจน์ ต่อจากนั้นจะขยับไปขายบริเวณหน้าท่ารถ ปอ.1 จนถึงเวลา 21.00 น.ทุกวัน สำหรับขนมเบื้องจะมีสองใส้ คือ ใส้หวาน และใส้เค็ม ทำสดชุดละ 30 บาท และมีแบบเป็นแพ็คเก็ตใหม่ เรียกว่า ขนมเบื้องแยกเครื่องสำหรับเป็นของฝากในราคาชุดละ 80 บาท สามารถทำได้ถึง 25 ชิ้น
คุณเเอสฯ เปิดเผยท้ายสุดว่า กับสถานการณ์โควิด-19ในปัจจุบัน แรกๆค่อนข้างเครียดเหมือนกัน กลัวว่าจะทำร้านได้ไม่ดี ต้องคิดนอกกรอบทำวิกฤตให้เป็นโอกาสจากเคยขายที่เดิมเปลี่ยนไปขายที่ใหม่ๆบ้าง และขอเป็นกำลังใจให้พ่อค้าแม่ค้าหรือทุกคนที่เผชิญกับวิกฤตนี้อยู่ เราอาจมีไม่เต็มร้อยแต่เราสามารถทำอย่างเต็มร้อยได้ สู้ๆครับทุกคน
ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี