โจรใต้ยิงถล่มรถยนต์กระบะตาย4เจ็บ2ขณะพ่อขับรถไปประชุมและส่งลูกไปโรงเรียน ขณะที่โฆษก กอ.รมน.ชี้ เป็นกลุ่มที่ขี้ขลาด ไร้อุดมการณ์ มีพฤติกรรมเยี่ยงสัตว์ป่า
เมื่อเวลา 07.40 น. วันที่ 2 มี.ค. 60 ร.ต.อ.วันชัย รักบุญเมือง รองสารวัตรสอบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายยิงใส่รถยนต์กระบะบนถนนในหมู่บ้านธรรมเจริญ ม.6 ต.โคกสะตอ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผกก.สภ.รือเสาะ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีบอรนส์ ทะเบียน บจ 9958 ยะลา จอดเสียหลักอยู่ในพุ่มไม้ริมถนน โดยภายในรถมีผู้เสียชีวิตอยู่ที่บริเวณเบาะนั่งช่วงแคปหลัง 1 คน คือ นางสน ทองจันทร์ อายุ 44 ปี ซึ่งมีบาดแผลถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณหน้าอก และมีกองเลือดอยู่กระจัดกระจายภายในห้องโดยสาร ส่วนตัวถังและกระจกมีร่องรอยถูกกระสุนปืนเป็นรูพรุน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 คน เจ้าหน้าที่ทหารและชาวบ้านได้ช่วยกันส่งรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะไปก่อนหน้าแล้ว โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 อา.ก้า.และปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 9 ม.ม.ตกกระจายเกลื่อนอยู่พื้นถนน จำนวนกว่า 20 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลรือเสาะ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปดูอาการผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลและได้เสียชีวิตเพิ่มเติมในเวลาต่อมาอีก 3 คน ประกอบด้วย 1.นายสมชาย ทองจันทร์ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/3 ม.6 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านศรีภิญโญ ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณหน้าอก ศีรษะ 2.นางรสิกา ดาด้วง 39 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมชาย ถูกกระสุนปืนที่บริเวณแก้มซ้ายและศีรษะ 3.ด.ช.ธนกฤต ทองจันทร์ 8 ปี ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณหน้าอกและช่องท้อง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน ประกอบด้วย 1.ด.ญ.ศิรภัสสร ทองจันทร์ 12 ปี ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณหัวเข่าด้านซ้าย 1 นัด แพทย์ได้ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ 2.ด.ญ.ญานิศา ศรีสุวรรณ 6 ปี ซึ่งมีแผลถลอกที่บริเวณต้นขา คอและแขน จากรถยนต์กระบะเสียหลักตกไหล่ทาง เมื่อแพทย์ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ได้อนุญาตให้กลับบ้าน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสมชาย ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมีภารกิจที่จะเข้าร่วมประชุมประจำเดือน ณ ที่ว่าการอำเภอรือเสาะ จึงถือโอกาสชวนภรรยาและพี่สะใภ้รวมทั้งบุตรและหลาน รวม 6 คน เพื่อส่งภรรยาไปทำธุระในระหว่างที่ตนเข้าร่วมประชุม และส่งบุตรพร้อมทั้งหลานไปโรงเรียน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.รือเสาะ เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวดักซุ่มที่บริเวณป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม.16และ อา.ก้า. ยิงถล่มใส่รถยนต์กระบะที่นายสมชาย ขับมา เมื่อนายสมชายถูกกระสุนปืนรถได้เสียหลักตกไหล่ทาง ทำให้นางสน พี่สะใภ้ถูกกระสุนปืนของคนร้ายเสียชีวิตคาที แล้วคนร้ายได้อาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป ส่วนนายสมชายภรรยาบุตรและสาว อีก 5 คน ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่4609 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในหมู่บ้านดังกล่าว ได้ยินเสียงปืนจึงได้นำกำลังมาตรวจสอบ และนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลรือเสาะเป็นการเร่งด่วน และได้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีกดังกล่าว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อสร้างสถานการณ์ร้ายรายวัน ให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าเปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 12 – 13 ปี ที่ผ่าน ผู้ก่อเหตุความไม่งบพยายามฉกฉวยโอกาสสร้างความรุนแรงต่อเป้าหมายอ่อนแอหรือเป้าหมายเชิงสัญลักษณ์มาโดยตลอด เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ในนามของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตเป็นอย่างยิ่งจากการกระทำในครั้งนี้ หลังจาก ผบ.ทบ.รับทราบเหตุ จึงสั่งการให่หน่วยในพื้นที่เร่งรัดดูแลคนเจ็บคนป่วย โดยเฉพาะการเยียวยาอย่างเร่งด่วน โดยล่าสุดทางแม่ทัพภาค 4 ได้สั่งให้ พล.ต.วิชาญ สุขสง ผบ.ฉก.นราธิวาส มาควบคุมที่เกิดเหตุ และการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายในวันนี้ถือเป็นการก่อเหตุที่รุนแรงต่อผู้อ่อนแอ โดยทาง กอ.รมน.ภาค 4 ยืนยันจะไม่มีการตอบโต้ด้วยความรุนแรงอย่างเด็ดขาด แต่จะใช้มาตรการทางกฏหมายเพื่อติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาลงโทษให้เร็วที่สุด ซึ่งจากพฤติกรรมคนกลุ่มคนร้ายเห็นได้ชัดว่าเป็นกลุ่มที่ไร้อุดมการณ์ในการต่อสู้ จึงอยากจะถามว่าพฤติกรรมที่เขาก่อนั้นมันเป็นนักรบที่มีอุดมการณ์หรือไม่ แต่กลับเป็นพฤติกรรมของคนขี้ขลาดที่ไร้อุดมการณ์โดยเลือกกระทำต่อคนที่ไม่มีทางสู้ คือ เด็กและผู้หญิง และเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวันและสะเทือนใจเป็นอย่างมาก พร้อมขอเรียกร้องไปยังกลุ่ม NGO บางกลุ่มบางคนที่พยายามออกมาปกป้องกลุ่มขบวนการที่ใช้ความรุนแรงหรือแม้กระทั้งออกมาเรียกร้องจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ต่อผู้ที่ใช้ความรุนแรง ให้ยุติพฤติกรรมดังกล่าว ณ วันนี้เกิดความสูญเสียมาเยอะแล้วโดยภาครัฐเองก็ได้พยายามแก้ปัญหาโดยสันติมาตลอดและทุกฝ่ายพยายามก้าวข้ามความรุนแรง และสิ่งที่จะดำเนินการต่อไปนี้ คือ การเร่งรัดในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป
“พฤติกรรมการกระทำของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้บ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่า กลุ่มโจรเหล่านี้เป็นคนขี้ขลาดมีพฤติกรรมเยี่ยงสัตว์ป่า ไร้อุดมการณ์ และอย่ามาแอบอ้างพวกคุณมีอุดมการณ์เพื่อพี่น้องประชาชน และเราจะใช้มาตรการทางกฏหมายในการติดตามจับกุมผู้ที่กระทำความผิดในครั้งนี้มาลงโทษ
ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ